'รสนา' วิเคราะห์การเมืองเชื่อเพื่อไทยกวาด 2 ประมุขก้าวไกลได้ 16 รมต.ทดแทน!

'รสนา' วิเคราะห์การเมืองเรื่องเก้าอี้ประธานสภา เชื่อสุดท้ายเพื่อไทยกวาดแน่ทั้งประมุขฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ก้าวไกลควรได้ 16 เก้าอี้เป็นการปลอบใจ โดยเฉพาะ รมต.พลังงาน-คมนาคม

29 มิ.ย.2566 - น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กในรูปบทความเรื่อง “เกมรุกฆาตก้าวไกล ใครได้ ใครเสีย?!” มีเนื้อหาว่า ข่าวการยกเลิกนัดประชุมระหว่างก้าวไกล และเพื่อไทยในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 เรื่องชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภาไปอย่างไม่มีกำหนดนั้นเป็นประเด็นจับตามองของคนทั้งประเทศว่า เกมจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง 2 พรรคหลักจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร

แต่เดิมนั้นข้อเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีของ 2 พรรคใหญ่ 14+1 คือเท่ากัน ต่อมาเพื่อไทยเสนอใหม่เป็นพรรคก้าวไกลได้ 15+1 (ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) และพรรคเพื่อไทยได้ 13+1 (ตำแหน่งประธานสภา) การที่เพื่อไทยยืนยันว่าต้องได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา เป็นสาเหตุให้ก้าวไกลขอเลิกนัดประชุม

ถ้าเพื่อไทยได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา แต่พิธาไม่ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะโหวตกี่ครั้งก็ไม่ได้ 376 เสียงล่ะ เกมจะพลิกมาเป็นเพื่อไทยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทยก็จะได้ทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภาด้วย ใช่หรือไม่

แต่ถ้าการโหวตครั้งแรก ก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา ก้าวไกลอาจจะไม่โหวตให้แคนดิเดตของเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี เสียงที่หายไป 150 เสียงก็เป็นเรื่องใหญ่ หรือการที่เพื่อไทยยืนยันต้องได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา เพราะมองข้ามช็อตว่าหากก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา เพื่อไทยอาจต้องพลิกขั้วไปจับมือกับฝั่งลุงหรือไม่

ถ้าต้องจับมือกับฝั่งลุง เพื่อได้เสียง ส.ว และพรรคอื่นๆ มารวมให้ได้ 376 แทนก้าวไกล เพื่อไทยอาจจะต้องสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ฝั่งลุงใช่หรือไม่ จึงต้องยืนยันจะเอาตำแหน่งประธานรัฐสภาเอาไว้ก่อน !?

ถ้ามองเกมจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ว่าเพื่อไทยไม่คิดจะพลิกขั้วไปจับมือกับฝั่งลุง ก็ควรยอมให้ก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา เพราะดูแล้วพิธาน่าจะฝ่าห่ากระสุน ทุ่นระเบิดไม่พ้นไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานรัฐสภา ก็น่าจะยินดีโหวตตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้เพื่อไทย แต่ถ้าเพื่อไทยยังยืนยันจะเอาตำแหน่งประธานรัฐสภา น่าจะทำให้การร่วมรัฐบาลของ 2 พรรคใหญ่มีปัญหา

ข้อเสนอตำแหน่ง 15+1 และ 13+1 นั้น ถ้าโหวตในสภาแล้ว ผลกลับกลายเป็นว่า เพื่อไทยได้ 13+ประธานรัฐสภา และก้าวไกลได้ 15+0 (ไม่ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) ก้าวไกลควรจะได้ตำแหน่งอะไรแทนไหม เพื่อให้ยุติธรรม

เพื่อไทยขอตำแหน่งกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด หากควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา ก็ดูจะเอาเปรียบก้าวไกลมากเกินไป

ถ้าหากก้าวไกลยังยอมร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย โดยยอมเสียทั้ง 2 ตำแหน่งสำคัญ (คือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานรัฐสภา) ก้าวไกลควรได้รัฐมนตรี 16 โดยมีกระทรวงพลังงาน และกระทรวงคมนาคมในโควต้า เพราะเป็นพรรคที่มีนโยบายเรื่องปฏิรูปพลังงาน และการคมนาคมระบบรางที่ชัดเจนซึ่งไม่มีในรัฐบาลที่ผ่านมา

ดิฉันเชื่อว่าการที่ประชาชน 14 ล้านเสียงโหวตให้ก้าวไกล ไม่ใช่เรื่องต้องการแก้ไขมาตรา 112 ทั้งหมด มีจำนวนมากหรือมากกว่าด้วยซ้ำที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจทุนนิยมล้าหลังที่มีความเหลื่อมล้ำสูงมาก ราคาพลังงานและค่าขนส่ง-เดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจ และค่าครองชีพของประชาชนประสบความยากลำบากจากกติกาที่ไร้ความเป็นธรรมต่อประชาชน แต่เอื้อประโยชน์เกินสมควรให้กลุ่มทุน มีคนจำนวนมากที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงจึงเลือกก้าวไกลถึง 14 ล้านเสียง เพราะพรรคของนักธุรกิจการเมืองเก่าๆ เราก็เห็นไส้เห็นพุงกันมาหมดแล้วว่าพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของใคร ประชาชนต้องการให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ให้เป็นฝ่ายค้าน จึงต้องการให้โอกาสก้าวไกลเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร ประชาชนจะได้เห็น และตัดสินใจได้ว่ามีความหวัง หรือก็เหมือนๆ กันกับบรรดาพรรคเก่าๆ นั้นหรือไม่

การที่ภาคธุรกิจทุนนิยมล้าหลังพากันตกอกตกใจจนหุ้นตกกลัวก้าวไกลจะได้เป็นรัฐบาลนั้น ดิฉันว่าเป็นกระต่ายตื่นตูมจนเกินไป แต่ควรหันกลับไปมองดูความรู้สึกของประชาชนบ้างว่า พวกเขาจะตกใจแค่ไหนที่การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ยังมีแต่นักธุรกิจการเมืองหน้าเดิมๆ กลับมาถอนทุนกอบโกยกันอีก โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเลย ฉะนั้น ดิฉันขอวิงวอนว่า อย่าทำให้ประชาชนหมดหวังไปมากกว่านี้อีกเลย เพราะเมื่อประชาชนส่วนใหญ่หมดหวังในวันนี้ เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในวันพรุ่งนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี