24 ก.ค.2566 - จากกรณีที่ทวิตเตอร์ Headache Stencil ของนายสมรนนท์ แย้มอุทัย หรือ “แป้ง” ศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง แนวร่วมม็อบราษฎร ทวีตข้อความว่า "กูได้เงินสนับสนุนจากต่างประเทศมาทำงานศิลปะด่าการเมืองด่าระบบประเทศ ไม่ได้ผิดกฎหมายนี่ แต่ ส.ส. กูไม่แน่ใจว่ะ"
สรุปให้นะครับ ผมเป็นศิลปินธรรมดาคนนึงเลยได้มีโอกาสรู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งที่คอยสนับสนุนเงินทุนสปอนเซอร์เวลาผมจัดงาน และก็ได้มีโอกาสพบกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่ฝรั่งเศส ซึ่งก็ชัดเจนว่าอยากให้ผมไปช่วยผลักดันเรื่องระบอบในประเทศที่มีอะไรหลายอย่างไม่เป็นธรรมทั้งกับคนในประเทศและกลุ่มคนที่นั่นเองด้วยผ่านงานศิลปะที่แสงกำลังส่อง ซึ่งผมก็ยินดีนะครับ และก็ช่วยเหลือเสมอมาเพราะคิดเห็นว่ามาตรา112ไม่ควรมาเป็นเครื่องมือการเมือง
ในวาระนั้นผมก็ได้เจอกับคนหลายคนมาก รวมถึงคนที่ผมระบุตัว ที่รู้สึกเหมือนเพื่อนร่วมอุดมการณ์อะไรสักอย่างกัน แม้หลังจากนั้น ผมโดนกล่าวหาชุ่ยๆด้วยข่าวปลอมหลังจากมีเรื่องแฉเงินม็อบ ผมก็ต้องอดทนเงียบและหุบปาก เพียงเพราะเหตุผลว่า "เพื่อให้ขบวนการเดินหน้าไปได้" ผมก็ปล่อยวางไปนานแล้ว
แต่มาถึงวันนี้ที่ถึงขั้นเล่นปล่อยคนของคุณมากวนประสาทผมเองทั้งๆที่ผมก็อดทนให้ หุบปากให้ทุกคน แต่กลับได้ทีเอาใหญ่ ผมก็เลยต้องขออณุญาตเล่าอะไรบ้าง เพื่อให้ศักดิ์ศรีตัวเองยังอยู่อ่ะนะ แล้วผมก็มีสิทธิเชื่อ ว่าการเร่งรีบจะแก้ 112 จนไม่สนอะไรอีกต่อไป แม้จะต้องเลือกเกมขย่มเพื่อนร่วมทางที่สู้กันมา มันดูไม่มีเหตุผลอะไร นอกจากจะรีบชดใช้ใครครับ
การที่ผมปิดชื่อคนที่ไม่เกี่ยวไว้ผมถือว่าให้เกียรติมากแล้ว อย่าเหยียบย่ำกันนักเลย การที่ผมเคยได้เงินสนับสนุนมา ไม่ได้แปลว่าผมต้องเชื่อฟังไปทั้งชีวิตที่เหลือนะครับ ขอโทษจริงๆที่ผมก็มีอุดมการณ์เหมือนกัน ไม่ใช่หุ่นที่จะใช้ทำอะไรก็ได้ ผมไม่คิดว่าประเทศต้องเร่งรีบอะไรเรื่อง 112 จนรอไม่ได้ขนาดนั้นครับ
ด้านเพจเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” ได้โพสต์ข้อความโดยสรุปประเด็นขยายผลข้อมูลดังกล่าวว่า สมศักดิ์ เจียมใช้เงินใคร อยู่ดีกินดีที่ฝรั่งเศส? ดูเหมือนว่า เรื่องการเร่งเอามาตรา 112 มาเป็นประเด็นของฝ่ายนักการเมืองพรรคก้าวไกล จะทำพิษรุนแรงกับฝ่ายเดียวกันเองจนฐานมวลชนที่เคยสนับสนุนกันมาตลอดเริ่มตั้งคำถามถึงการมุ่งหน้ายกเลิก ม.112 จนเสียโอกาสเป็นรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องนี้ headche stencil (ขอเรียกว่านายซิ่ว) หนึ่งในนักเคลื่อนไหวทั้งเรื่อง ม.112 และต่อต้านการรัฐประหารได้ออกมาแฉเรื่องราวไว้ค่อนข้างน่าสนใจ
โดยเฉพาะสาเหตุที่ทางฝ่ายส้มรีบเร่งเล่นยกเลิก ม.112 โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะมีใบสั่งจากจาก "คนเบื้องหลัง" ที่สนับสนุนความเป็นอยู่ของพวกที่ลี้ภัยในต่างประเทศเช่น สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รวมไปถึงพวกผู่ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ เยอรมนีและฝรั่งเศส อีกหลายๆคน
รีบเร่งให้มีการเคลื่อนไหวเพราะเป็นเรื่องของงบประมาณการเคลื่อนไหวอันเกี่ยวข้องกับปากท้องเพราะหากสถานการณ์ที่ก้าวไกลยอมวาง ม.112 ลงจะส่งผลให้ปากท้องผู้ลี้ภัยที่ต่อต้านสถาบันฯในต่างประเทศหมดลง
(ในกรณีที่นายซิ่วออกมาแฉ “คนเบื้องหลัง”นั้น มีแนวโน้มที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเงินทุนจากกลุ่มทุนระหว่างประเทศที่จ้างเอาไว้ทำงานทำร้ายสถาบันกษัตริย์ของไทย ซึ่งปัจจุบันกำลังเดือดร้อนเพราะในหลากหลายประเทศเริ่มรู้เท่าทันและไม่ทำตามความประสงค์ขององค์กรเหล่านี้แล้ว เรื่องนี้ ดูที่เฮนรี่ คริสทิงเจอร์ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ โดดไปคุยกับกลาโหมจีนแผ่นดินใหญ่ ก็พอจะเห็นทิศทาง)
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าสิ่งที่นายซิ่วถามถึงนั้น เป็นจริงหรือ? และพยายามตั้งแง่โจมตีว่า นายซิ่วไม่มีทางรู้จักปวิน หรือเครือข่ายต่างประเทศได้...ซึ่งเรื่องนี้ นายซิ่วก็พยายามอธิบายไว้ในทวิตเตอร์ส่วนตัว....ถึงความเป็นจริงที่เขาเคยพบเจอ
อนึ่งคือ ในทัศนะของข้าพเจ้า....สิ่งที่นายซิ่วพูดค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะปูมหลังนายซิ่วเป็นนักเคลื่อนไหวสายบันเทิงที่เคยเป็นตัวตึงในม็อบสามนิ้ว ที่เคยได้รับการยอมรับจากแกนนำทั้งในพื้นที่ และในต่างประเทศ จนกระทั่งเคยจิบชา ที่ Château de mareil-le-guyon สุดหรูร่วมกับขบวนการระดับอินเตอร์!!!!! ทั้งเครือข่ายผู้ลี้ภัยในต่างประเทศ ทั้งปวิน สมศักดิ์ หรือแม้แต่คนในเครือข่ายกลุ่มจรรยา ยิ้มประเสริฐ และอาจารย์ชาวต่างชาติที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกัน
จนกระทั่ง นายซิ่วขัดแย้งกับขบวนการม็อบสามนิ้ว ในปม "อมตังม็อบ" นายซิ่วจึงเริ่มวางมือ....ถอยห่างลง
ฝ่ายที่ตรวจสอบเงินม็อบเป็นฝ่ายนายซิ่ว แต่ดูเหมือนว่าจะทะเลาะกัน จนโยนความผิดไปที่ซิ่วนั้นเอง
จนกระทั่งล่าสุดนายซิ่วปรากฏตัวแล้วตั้งคำถามถึง โรม สมศักดิ์ เครือข่ายกลุ่มที่หลบหนีไปต่างประเทศปม 112 ว่าจะรีบเร่งไปเพราะอะไร โดยชี้ว่า เครือข่ายฝ่ายล้มล้างสถาบันที่ลี้ภัยต่างประเทศกำลังห่วงกระแสที่ก้าวไกลขึ้นเป็นนายกฯโดยทิ้งประเด็นการยกเลิกมาตรา 112 ไปจะทำให้ขบวนการต่อต้านสถาบันฯ ราว 20 กว่าชีวิตอาจต้องสูญเสียงบนอก ที่เลี้ยงปากท้องเวลานี้นั่นเอง
นายซิ่วทิ้งท้ายว่า อาจจะตามหาความจริงให้ถามผู้ลี้ภัยชื่อ นพพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
‘พี่โจ’ แนะ ‘ช่อมาลี’ ควรจะรู้จุดที่ต้อง หยุด และ พอ บ้าง
โจ มณฑานี ตันติสุข” นักเขียนและวิทยากรการเงิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jo Montanee ว่ายอมรับว่าดูคลิปจากเพจ ซึ่งต้องพิสูจน์ แล้วตกใจมาก!

