31 ก.ค. 2566 – นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ อดีตแกนนำ กปปส. ให้ความคิดเห็นกรณีกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำ กปปส. มองว่านายทักษิณยังไม่กลับ ด้วยเหตุผลที่ว่านายทักษิณยังไม่มั่นใจและคงไม่กล้ากลับมา นายทักษิณไม่ใช่คนกล้าได้กล้าเสีย และขณะนี้การเมืองไทยยังไม่สามารถคุ้มครองนายทักษิณได้ เพราะมันยังไม่แน่นอนอะไรสักอย่าง นายทักษิณยังไม่กลับมาตนเชื่ออย่างนั้น
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณกลับมา จะมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไร นายศักดิ์สฤษดิ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้านายทักษิณกลับมาแล้วไม่มีการติดคุก หรือไม่มีกระบวนการทางยุติธรรม ก็จะทำให้ระบบของการเมืองไทย หรือของกระบวนการนิติบัญญัติของไทยเพี้ยนไปหมดเลย ต่อไปก็จะมีการเรียกร้องสิทธิกันมากมายในลักษณะคล้ายๆ ของนายทักษิณ จะทำให้บ้านเมืองไม่มีหลักในการปฏิบัติ แต่ถ้ากลับมาแล้วยอมรับกระบวนการยุติธรรมให้มีการดำเนินการตามกระบวนการทางยุติธรรมทุกอย่างเหมือนคนอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะนายทักษิณมีสิทธิกลับมายอมรับกฎกติกาของบ้านเมือง
อย่างไรก็ตามเรื่องอื่นๆ อย่างที่พวกตนออกไปประท้วงกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งเป็นการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันของนักการเมือง เกี่ยวข้องกับความไม่เป็นธรรมของคนในภาคใต้ เพราะว่าช่วงที่นายทักษิณเป็นรัฐบาล คนในภาคใต้ได้รับผลกระทบมากที่สุด ยังได้รับผลกระทบมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นคนที่ออกไปขับไล่นายทักษิณมากที่สุดคือคนในภาคใต้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เรื่องนี้มันมองผ่านไม่ได้เพราะบ้านเมืองเราไม่พร้อมที่จะให้เกิดความวุ่นวายในขณะนี้ ขณะนี้ประชาชนลำบากมากๆ ถึงขนาดว่าอดอยาก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรามาก่อน เพราะฉะนั้นหากนายทักษิณกลับมาอาจจะเกิดเหตุที่มีผลกระทบต่อการเมืองไทยมาก ข้อเสียมากกว่าข้อดี ซึ่งควรทิ้งช่วงระยะเวลาให้นานกว่านี้ ค่อยคิดเรื่องที่จะกลับมา โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสับเรียบร้อยก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหน เป็นเรื่องที่ไปต่อยากมากในตอนนี้
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณกลับมาแล้วขอนิรโทษกรรม คิดว่าจะเป็นบวกหรือลบต่อพรรคเพื่อไทย และจะส่งผลให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ตนมองว่าหากนายทักษิณกลับมาจะเป็นดาบสองคม หากกลับมาแล้วเป็นไปตามข่าวในตอนนี้ว่าตกลงกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่าพรรคก้าวไกลจะยอมยกมือสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและไม่เอาสองพรรค คือรวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมก็จะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งต้องไปดูฐานข้อมูลว่าในประเทศไทย คนในภาคไหนเลือกพรรคไหน เพราะฉะนั้นมันก็จะกลับไปสู่ร่องรอยเดิม ต้องอย่าลืมว่าสองพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติ กับพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่คนภาคใต้เลือกเข้าไปมากแทนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นถ้านายทักษิณกลับมา ผลดีที่จะเกิดกับพรรคเพื่อไทยก็คือ ทำให้ความเชื่อมั่นของคนในพรรคเพื่อไทยมีมากขึ้น ผลเสียก็คือทำให้บ้านเมืองไม่เกิดความสามัคคีกัน เพราะว่ามันมีฐานข้อมูลของประชาชนแต่ละภูมิภาคที่เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งไม่เหมือนกัน ต้องไปดูในรายละเอียดในฐานข้อมูลดูวิธีการหาเสียงของแต่ละพรรคที่ผ่านมา
ทั้งนี้ที่ผ่านมาประวัติของความแตกแยกในบ้านเมืองเรามีสองสามประเด็น ในช่วงรัฐบาลนายทักษิณก็คือ 1.เกิดจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองในสมัยนั้น 2.เกิดจากการด้อยค่าของคนแต่ละภูมิภาค ที่มีภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เช่น คนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ซึ่งคนภาคใต้ถูกด้อยค่ามากที่สุด 3.เรื่องเกี่ยวกับการเอาสถาบันมาผูกโยงการเมือง 3 ประเด็นนี้ทำให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีมีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในช่วงที่นายทักษิณเข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นสองสามปัญหานี้จะยังดำรงอยู่ถ้าหากว่านายทักษิณกลับมาแล้ว นายทักษิณมีความมุ่งหมายเพื่อให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจรัฐ ต้องการเป็นรัฐบาล โดยที่คิดและดำเนินการตามวิธีเดิมๆ ก็จะทำให้เกิดความแตกความสามัคคีกันเช่นเดิมทุกอย่าง
ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ที่มีความขัดแย้ง คนภาคใต้มีบทบาทสูงสุดที่เป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง หรือคนอะไรก็แล้วแต่ คนที่เข้าไปร่วมชุมนุมส่วนหนึ่งเป็นคนภาคใต้โดยเฉพาะเสื้อเหลือง เป็นคนภาคใต้ส่วนใหญ่ถึง 60 % ซึ่งคนภาคใต้แต่ก่อนโดยพื้นฐานคนภาคใต้เป็นคนที่เข้าใจการเมือง รักความยุติธรรมและรักประชาธิปไตย แต่บังเอิญว่าในช่วงที่นายทักษิณเข้ามาเป็นรัฐบาลนายทักษิณถือว่าตนเองเป็นพรรคเสียงข้างมากและด้อยค่าคนในภาคใต้ด้วยวาทะกรรมที่ไม่กี่ประโยค บางครั้งมันทำให้คนภาคใต้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังนายทักษิณ เพราะฉะนั้นวิธีคิดของนายทักษิณในปัจจุบันก็ไม่ได้มองเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้
โดยเฉพาะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาพูดออกมาแฉทั้งหมดมีค่อนข้างจะโดนใจคนภาคใต้ แต่บังเอิญว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร๋โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามายึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้เข้าไปถึงปัญหาที่แท้จริงของความแตกแยก หรือที่คนมันแตกแยกแล้วเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะกันไม่ได้เข้าถึงจุดตรงนั้น จึงมองว่าพลเอกประยุทธ์แก้ปัญหาไม่ถูกจุด เป็นที่มาที่ทำให้คนลำบากยากจน คือลำบากมากที่สุดในประวัติศาสตร์หลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเมื่อคนมีความลำบากมาก เขาจะลืมปัญหาทุกอย่าง ไม่มีหลักที่จะจับ จึงต้องไปจับพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เป็นความหวังของคนส่วนใหญ่ทั่วประเทศ เพราะว่าพรรคก้าวไกลอาจจะมีข้อข้อที่คนไม่ต้องการบางข้อ อย่างเช่น มาตรา 112 ไปดูข้อมูลทางสถิติคนไม่ต้องการ มาตรา 112 ที่ต้องการแก้มาตรา 112 มีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่บังเอิญว่าคนมันลำบากยากแค้นมากๆ มันก็เลยลืมเรื่องพวกนี้ไป แต่ในขณะที่พรรคก้าวไกลเอาเรื่องพวกนี้มาเป็นหลักมันก็เลยทำให้เกิดความขัดแย้งยังคงดำรงอยู่
“เพราะฉะนั้นนายทักษิณเข้ามาในช่วงนี้ นายทักษิณคิดว่าเป็นช่วงโอกาสดีของตนเอง แต่ผมมองว่ามันอาจจะเป็นการเติมเชื้อเพลิงลงไปในกองไฟที่จะทำให้คนลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นการลุกฮือที่ไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ว่าการลุกฮือครั้งนี้มันจะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะคนออกไปด้วยความโกรธแค้น สรุปว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ หลักเลยเกิดจากความคิดของนายทักษิณที่ด้อยค่าของคนแต่ละภูมิภาคทำให้เกิดความแตกแยก” อดีต แกนนำ กปปส. ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน
'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.
พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'
'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.
'อนุทิน' ชื่นชมสปิริต 'ปานปรีย์' พร้อมให้กำลังใจ
'อนุทิน' เชื่อดรามาปรับ ครม. ไม่กระทบภาพลักษณ์รัฐบาล โทรให้กำลังใจ 'ปานปรีย์' พร้อมชื่นชมสปิริต ลาออก ดีกว่ากล้ำกลืนทำงาน
‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต
‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้
ถามจันทร์ส่องหล้าจะกล้าไหม? มี 3 คน เหมาะนั่ง ‘รมว.ต่างประเทศ’
ทำท่าจะล่มปากอ่าว เสียฤกษ์หมด แต่เมื่อเป็นไปแล้วคือรัฐมนตรีต่างประเทศลาออก หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าตั้งรัฐมนตรีไม่ถึง 24 ชั่วโมง
'เทพไท' ประกาศยอมเป็นลิเกหลงโรง ขอต่อต้านระบอบทักษิณถึงที่สุด
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความระบุว่า ยอมเป็นลิเกหลงโรง