ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดีครั้งแรกมหากาพย์รถไฟฟ้าสายสีเขียว!

จับตาศาลปกครองสูงสุดนั่งพิจารณาคดีครั้งมหากาพย์รถไฟฟ้าสายสีเขียนครั้งแรก หลังจากศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้บีทีเอสซีชนะ กทม.ต้องชดใช้กว่า 1.1 หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยมาแล้ว

17 ส.ค.2566 - ณ ห้องพิจารณาคดี 3 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง เวลา 09.30 น. ตุลาการศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว)

คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่ากรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลว. 3 พฤษภาคม 2555และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.024/59 ลว. 1 สิงหาคม 2559 กรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลว. 18 กันยายน 2563 และหนังสือ ลว. 15 มกราคม 2564 ทวงถามไปยังผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย

ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348,659,232.74 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199,091,830.27 บาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406,418,719.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786,765,195.47 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ภายหลังจากการทำสัญญา ผู้ฟ้องคดีได้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า
ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยายที่ 1 เรื่อยมา และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 2) ได้ชำระค่าจ้างรายเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดีครบถ้วนต่อเนื่องมาจนถึงเดือนเมษายน 2562 แต่หลังจากนั้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 ถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงไม่ครบถ้วนเต็มจำนวน ซึ่งตามสัญญาข้อ 71 กำหนดว่า หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดไป ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จะต้องชำระดอกเบี้ยสำหรับค่าจ้างที่ค้างชำระนั้นในอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ไม่ชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงดังกล่าว จึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้แล้วโดยมิพักต้องเตือน ดังนั้น เมื่อรวมต้นเงินและดอกเบี้ยของหนี้ค้างชำระค่าเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส. 006/55 ลว. 3 พฤษภาคม 2555 จึงมีหนี้เงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 2,348,659,232.74 บาท

สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า โครงการฯยังไม่มีนโยบายให้เก็บค่าโดยสาร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงไม่สามารถนำเงินค่าโดยสารไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการได้ ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงไม่ได้ชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าให้แก่ ผู้ฟ้องคดีตั้งแต่ที่มีการเดินรถในเดือนเมษายน 2560 ถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งกรณีนี้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และผู้ฟ้องคดียืนยันสอดรับกันเกี่ยวกับจำนวนต้นเงินค่าเดินรถและค่าซ่อมบำรุงที่ค้างชำระ และเมื่อสัญญากำหนดให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดไว้แล้ว กรณีจึงมีหนี้เงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 9,406,418,719.36 บาท

ดังนั้น เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีหนี้ค้างชำระตามสัญญาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลว. 3 พฤษภาคม 2555๕ และสัญญาเลขที่ กธ.ส.024/59 ลว. 1 สิงหาคม 2559 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ดังกล่าวกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ให้แก่ผู้ฟ้องคดีด้วย

ผู้ฟ้องคดี และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทศกาลกีฬากรุงเทพ' ตลอดเดือนพฤษภาคม ส่งเสริมสุขภาพ-ออกกำลังกาย

กรุงเทพมหานคร จัดงาน “เทศกาลกีฬากรุงเทพ” ตลอดเดือนพฤษภาคม ชูนโยบายการส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยมีสุขภาวะที่ดี เมื่อวันเสาร์ที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

'เศรษฐา' ควง 'ภริยา' เดินตลาดเช้าหัวหิน คุยสงกรานต์ปีนี้คึกคัก

“เศรษฐา“ ควง “ภริยา” เดินตลาดเช้าหัวหิน ใส่บาตรพระ โอ่ สงกรานต์เศรษฐกิจคึกคัก ลั่น ปีหน้าดีกว่านี้ ย้ำไตรมาส4 ได้เงินหมื่นแน่ พร้อมโพสต์ ฝากปชช. ให้ความรักเวลาคนในครอบครัว