2 ก.ย.2566 - นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมเห็นหน้าสเตตัสบางคน และเพจบางเพจที่ออกแนวสติแตกแล้ว ผมอยากจะพูดในฐานะ เพื่อน พี่ ลุง หรือแม้แต่คนที่นับถือว่าผมเป็นครู หรือแม้แต่เคารพผมว่าเป็นเหล่าซือ หรือเซนเซ ผู้นำทางจิตวิญญาน อะไรก็ได้ที่อยากจะฟังผมในฐานะนั้นๆ ผมก็จะเป็นให้สักห้านาที
ผมอยากให้หลับตา หายใจยาวๆ แล้วทำใจให้สงบ ทำจิตว่างสักสามวินาที ลองตั้งคำถามให้กับตัวเองอย่างซื่อสัตย์และไม่โกหกตัวเองว่า ตนเองนั้นเป็น "คนที่รักสถาบันสุดโต่ง" หรือ เป็นเพียงแค่ "คนที่เกลียดทักษิณสุดใจ"
เมื่อได้คำตอบแล้วทุกสิ่งเคยหนักอึ้งวุ่นวายในใจจะเบาลง เพราะผมลองถามตัวเองแล้ว Are you Ultra-Royalist or Thaksin hater? คำตอบคือ อย่างแรกคือผมไม่ใช่ระดับ Ultra ยกป้ายไฟร้องทรงพระเจริญริมถนนทุกงานแน่นอน เพียงแต่ผมยังเหลือคำหลัง Royalist อยู่บ้าง ยังเคารพรักในสิ่งที่มีอยู่ เคารพในราชวินิฉัย และยังมีความเคารพรักให้ต่อไปอีกในอนาคต
ส่วนเรื่องเกลียดทักกี้หรือเปล่าผมคงได้คะแนนตัวเองไม่ต่ำกว่า 8 เต็ม 10
***********************************
เมื่อเราสามารถผ่านการทดสอบขั้นแรกไปได้แล้ว รู้ว่าตัวตนและจิตใจเป็นแบบไหน ผมอยากให้คิดตามผมอีกเรื่องหนึ่ง
ผมคิดว่าสถาบันฯโดนแรงกดดันอยู่ไม่น้อย ให้ก็เสีย ไม่ให้ก็เสีย เสมอเท่าทุนก็ยังไม่มีประตูออกเลย
ผมไม่คิดหรอกว่ารัฐบาลลุงตู่ที่รับสนองราชโองการ จะรักทักษิณมากกว่าสถาบันฯ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ
และผมก็คิดว่าคณะองคมนตรีทุกท่านก็คงไม่รักทักษิณสักเท่าไร เมื่อเทียบกับความจงรักภัคดีที่มีต่อสถาบันฯ
กระดาษทั้งสองแผ่นมันมีขาเดินเองไม่ได้หรอก แผ่นแรกมันต้องผ่านด่านหลายด่าน ทั้งคณะรัฐบาลและขึ้นไปถึงคณะองคมนตรี แล้วจึงทูลเกล้า ส่วนแผ่นที่สองขากลับก็ต้องผ่านทางเดียวกัน ถ้ามันสามารถผ่านการกลั่นกรองมาหลายด่านมาได้ ก็แสดงว่าคนหลายสิบคนที่มีหน้าที่ ต้องใช้ความรู้และประสพการณ์ คิดเรื่องนี้คิดกลั่นกรองทบทวนมาดีแล้วว่าต้องปล่อยผ่านให้บางสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ในระดับไหน ไม่ใช่ต้องให้ทั้งหมดตามที่ขอมา อย่างไรทักษิณก็ต้องติดคุกต่อไป ยังออกมาไม่ได้หรอก
และยังมีคดีค้างศาลอีกหลายคดี ที่คดีในอนาคตนี้ขอพระทานอภัยโทษอีกรอบคงจะไม่ได้แล้ว คุกเมื่อไรก็คุกจริงเต็มอัตรา นั่นคือดาบที่สองดาบที่สามที่ในอนาคตสำหรับตัวประกันอย่างทักษิณ ถ้าทำตัวเปรี้ยวเกินเหตุ พูดไม่รู้ฟังแล้วเป็นต้องโดนคุกรอบสองรอบสามแน่
และยิ่งเห็น “อัตตา” ที่ใหญ่โต และ “วิบากกรรม” ที่หนักหนาตามหลังมาของทักษิณที่ไม่ยอมเข้าคุกเลยสักคืนเดียว ไม่เปลี่ยนเสื้อ ไม่ค้างคืนในคุก ทำให้อดคิดถึงคำพูดของหลวงตา มหาบัวญาณสัมปัณโณ ที่ได้เคยทำนายอนาคตของทักษิณตั้งแต่ปี 2548 เอาไว้ 3 ข้อ
*** จะไม่มีแผ่นดินจะอยู่
*** ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ก็จะค่อยๆหมดลงไป
*** แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้
งานนี้ไม่มีใครเจ็บฟรีตายฟรีหรอกครับ บางครั้งคงต้องปล่อยให้เครื่องจักรที่เที่ยงตรงที่สุดของจักรวาลที่เรียกว่า "กรรม" ทำงานต่อไป แล้วทุกอย่างก็จบได้แบบใจเบาขึ้น และสบายขึ้นกว่าเมื่อห้านาทีที่แล้ว
ผมอยากจะเล่านิทานเรื่องผีสองตัวให้ฟังสักเรื่อง ตัวแรกเป็นผีปอบมาใหม่ มันบอกว่าจะกินทุกคนหมดหมู่บ้าน ขู่ว่าเจ้าอาวาสจะโดนมันกินคนแรกเลย กับผีตัวที่สองที่เป็นผีเก่าผีแก่เคยอยู่ในหมู่บ้านมาก่อน มันหลอกอะไรชาวบ้านก็รู้แกวมันหมดแล้ว ตอนนี้เลยไม่ค่อยมีใครกลัวผีตัวนี้สักเท่าไร แต่ก็เกลียดมันอยู่ไม่น้อย แต่ผีสองตัวมันไม่ค่อยกินเส้นกันนัก ผู้ใหญ่บ้านเลยปล่อยผีตัวที่สองจากนอกหมู่บ้านออกมาไล่ปอบตัวแรก ให้ผีมันทะเลาะไล่ตีกันเอง ปอบหนีออกจากหมู่บ้านหมดเมื่อไร แล้วค่อยจัดการกับผีแก่ตัวที่สองถ้ามันยังไม่สำนึกแล้วยังทำตัวเลวแบบเดิมอีก นิทานผมจบด้วนๆ แบบนี้แหละ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธีระชัย' แนะกองทัพเดินหน้าสร้างกำแพงบอกหยุดยิงต้องหยุดเสียอธิปไตยด้วย
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล นักวิชาการอิสระ
ไปอีกราย! ธีระชัยลาออกทุกตำแหน่งใน พปชร.
'ธีระชัย' ลาออกทุกตำแหน่งใน พปชร. หลัง 'บิ๊กป้อม' ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ ขอกลับไปเป็นนักวิชาการอิสระ
'โอ๊ค' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' คุยเรื่องหลานๆ พร้อมฝากให้กำลังใจ 'ยศชนัน'
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร ระหว่างการเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 27 ภายหลังถูกคุมขังครบ 3 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา การเข้าเยี่ยมครั้งนี้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร
‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน
“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้

