ลุ้นตัวอย่างคดี! ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาที่อดีตอธิบดีกรมการปกครองถูกไล่ออกในการเปิดคัดเลือกสอบนายอำเภอ 3 รุ่นใน ปี 2552 ตามมาตรา 157 ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร้ายแรง
11 ต.ค.2566 - ในเวลา 14.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 4 ชั้น 3 ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ฟบ.12/2559 ระหว่าง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในอำนาจศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา 116 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า เดิมผู้ฟ้องคดีเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง เมื่อปี พ.ศ. 2552 กรมการปกครองได้มีการเปิดสอบคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 68 รุ่นที่ 69 และรุ่นที่ 70 โดยได้มีการร้องเรียนว่าการคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอดังกล่าวมีการทุจริตการสอบ
ต่อมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติในการประชุมครั้งที่ 531-96/2556 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ว่า การกระทำของผู้ฟ้องคดีมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (1) (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และมีมูลความทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต
ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามมาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 (1) (4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดย อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทยได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ
จากนั้นปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) จึงมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 280/2557 ลว. 28 พฤษภาคม 2557 ลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ แต่ถูกยกอุทธรณ์ จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดฉากมหากาพย์ก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี!ศาลปกครองสูงสุดยืนไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาคดีบริษัท ลาภประทาน จำกัดฟ้องเรียกค่าเสียหาย กทม.ละเมิดไม่ตรวจสอบความกว้างของเขตทางในซอยร่วมฤดี
ลุ้นระทึก! ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำสั่งมหากาพย์คดีก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี
ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 2306/2564
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ 3 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขรก.มหาดไทย รองปลัด-ผู้ตรวจ-อธิบดี-ผู้ว่าฯ 45 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
อดีตผู้พิพากษาอาวุโสข้องใจคดีนันทนาเทียบกับคดีฮั้ว สว.
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
วันนี้รู้แน่! ปริ้นซ์ อินเตอร์ฯ กับ 'ปริ้นซ์กรุ๊ป' บริษัทเดียวกันไหม
'กมธ.ปปง.' เข้มสอบเส้นเงินสแกมเมอร์ในไทย ลั่นวันนี้รู้ผลปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทเดียวกับปริ้นซ์กรุ๊ปหรือไม่ เชื่อ 'เฉิน จื้อ' มีทรัพย์สินในไทย-ไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายฟอกเงิน


