
24 ต.ค.2566- รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรมราชท้ณฑ์เพิ่งจะออกแถลงการณ์ว่า แพทย์โรงพยาบาลตำรวจมีความเห็นว่า นายทักษิณ ชิณวัตรมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาและพักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป คุณนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) หลังจากได้เข้าพบรองแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจแถลงว่า แพทย์ได้ชี้แจงว่า แพทย์เพียงให้ข้อมูลว่าคนไข้คือนายทักษิณป่วยเป็นอะไร และต้องได้รับการรักษาอย่างไร แต่ไม่เคยให้ความเห็นว่าจำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไปหรือไม่ การตัดสินใจว่าจะให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไปหรือไม่ เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ และยังคงยืนยันว่า อาการป่วยของนายทักษิณ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมายของผู้ป่วยที่จะไม่เปิดเผย
ยังไม่เคยมีใครมาก่อนที่เป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องโทษจำคุก เดินทางมามอบตัวเพื่อรับโทษ แต่ยังไม่เคยต้องเข้าเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียวเป็นเวลา 60 วันแล้ว และยังไม่เคยมีมาก่อนที่นักโทษที่เป็นที่สนใจของประชาชน มีอาการป่วยแต่สามารถปกปิดเป็นความลับไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเช่นนี้ สุดท้ายแถลงว่าต้องเข้ารับการผ่าตัดกระดูกหลังจากที่มีภาพนอนบนเตียงรถเข็น มีข่าวว่ากำลังไปรับการตรวจ MRI แต่ก็ไม่บอกรายละเอียดใดๆ
อาการโยนกันไปมาระหว่างโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์แสดงถึงความลำบากใจอย่างถึงที่สุดของทั้ง 2 หน่วยราชการ
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหน้าฉากต่างก็เล่นบทวางเฉย โยนเรื่องนี้ไปให้เป็นการตัดสินใจของโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ ไม่ทราบว่านายทักษิณมีอาการป่วยถึงขั้นจำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไปจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆก็คือ ทั้งโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจให้ส่งตัวนายทักษิณเข้าเรือนจำ
นี่คือความยิ่งใหญ่ของนายทักษิณ ชินวัตรจริงๆ ต้องโทษจำคุกแต่ไม่ต้องการติดคุกแม้แต่วันเดียวก็ไม่ต้องเข้าเรือนจำ สร้างตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวพรรคซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในพรรคการเมือง แล้วให้ลูกสาวมานั่งในตำแหน่งที่สร้างขึ้น และให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งก็ทำได้ โดยผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสในพรรค ต่างก็สยบยอมโดยดี ไม่มี “หือ” ไม่มี ” อือ” เลยแม้แต่คนเดียว เมื่อหัวหน้าครอบครัวยืนให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน แม้แต่นักการเมืองอาวุโสซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใหญ่ ก็ยังต้องยืนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ด้านหลัง
ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ทำท่าว่าจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค หากเป็นจริง อยากทราบว่าบรรดานักการเมืองที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่แต่ละคนอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างมากมาย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆกันทั้งนั้น ยอมให้เด็กสาวอายุเพิ่งจะ 37 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่เคยดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมืองมาก่อนเป็นหัวหน้าพรรคได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งจากชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หลายคนที่ดูจะพอมีอุดมการณ์อยู่บ้างดูเหมือนจะมีอุดมการณ์ไม่มากพอที่จะทักท้วงหรือคัดค้านการตัดสินใจครั้งนี้เลยแม้แต่คนเดียว
น่าเศร้าใจที่ประชาชนยังคงเลือกพรรคการเมืองนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เข้ามาเป็นอันดับ 1 เพิ่งเสียตำแหน่งลงไปเป็นอันดับ 2 ให้กับพรรคของคนรุ่นใหม่ ที่มีนโยบายหวือหวาท้าทายสุดโต่ง แต่ละนโยบายส่อแววว่าหากนำไปปฏิบัติแล้วจะเกิดคามวุ่นวาย และมีความน่ากลัวเนื่องจากหลายนโยบายเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป
มีข่าวดีอยู่บ้างตรงที่ มีนักพยากรณ์ที่น่าเชื่อถือท่านหนึ่งพยากรณ์ว่า หลังราหูย้ายเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม แม้จะมีสงคราม กระทั่งอาจมีภัยพิบัติ แต่สำหรับประเทศไทย กลับเป็นเรื่องดีที่ประเทศจะมีความแข็งแกร่งขึ้น มีความมั่นคงมากขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ สังเกตว่าสถานการณ์ดังกล่าวนี้ พ้องกับการที่พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่กำลังเสื่อมถอย เนื่องจากพฤติกรรมและการกระทำที่แสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นในช่วงนี้ ล้วนสวนทางกับอุดมการณ์และคำพูดหล่อๆของบรรดาแกนนำทั้งหลาย ล่าสุดมีข้อมูลที่แฉว่าส.ส.ร่วม 20 คน มีคดีอาญาติดตัวกันคนละหลายคดี ยังไม่ต้องพูดถึงส.ส.ที่กำลังถูกดำเนินคดีอาญาแต่คดียังไม่สิ้นสุดอีกหลายคน แต่ละคนส่อแววว่า หากไม่มีการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมโดยเร็ว ก็จะต้องไปนอนในเรือนจำค่อนข้างแน่
เรามาคอยดูกันต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แจงยิบสางผบ.คุกฉาว 28พ.ย.สรุปชงรมว.ยธ.
โฆษกกรมราชทัณฑ์เผยคืบหน้าปมตรวจสอบ "คุก VIP เทา" แย้มไล่กวดเอกสารลาพักร้อน “มานพ” อดีต ผบ.คุก-เอกสารการเงินปรับปรุงห้องลับใต้บันได
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เซ่นคุกวีไอพี! รมว.ยธ. สั่ง 'ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ-เลขาฯ' ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อผู้ต้องขังชาวจีนว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่ามีความคืบหน้าและเริ่มมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว


