ผู้ทรงอิทธิพล! 'พิธา' ร่วมงานกาลาฯ นิตยสารไทม์ คุยลั่นทุ่งประเทศไทยมีที่ยืนบนเวทีโลกแล้ว

‘พิธา’ ร่วมกาลาดินเนอร์ ‘TIME 100 NEXT’ ขอมอบเกียรติยศนี้ให้คนไทยทุกคนที่สร้างปรากฏการณ์ในการเลือกตั้ง เตรียมเดินสายขอบคุณในสหรัฐฯ-บรรยาย ม.ฮาร์วาร์ด-ร่วมวงคุยนักเรียนไทยที่บอสตัน

25 ต.ค.2566 - เมื่อเวลา 18.30 น. (เวลาท้องถิ่น) หรือเวลา 05.30 น. เวลาประเทศไทย วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าร่วมงานกาลาดินเนอร์ TIME 100 Next ประจำปี 2023 ในโอกาสที่ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต

โดยนายพิธา กล่าวถึงเหตุผลที่นิตยสารไทม์ จัดอันดับเข้า 100 รายชื่อให้กับตน ว่า น่าจะมาจากปรากฏการณ์การเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งพี่น้องชาวไทยทั้งในประเทศและทั่วโลก พากันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลง แม้สุดท้ายพรรคก้าวไกลที่ได้รับชัยชนะ จะไม่ได้เป็นรัฐบาลตามเจตจำนงของคนส่วนใหญ่ที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งก็ตาม

นายพิธา กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนภูมิใจจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ตนเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ ไม่ใช่เป็นเรื่องของตนคนเดียว เป็นเรื่องที่เราต้องตระหนักรู้ และตอบแทนกลับไปให้ประชาชนคนไทยที่เขาส่งเสียงต้องการความเปลี่ยนแปลง เป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงมากที่สุด เป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้ามากที่สุด เป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่มีคนไทยจากทั่วประเทศ และ 90 กว่าประเทศ ถ้าผมจำไม่ผิด ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้จะใช้เวลาน้อย ถึงแม้เว็บไซต์ กกต. จะล่ม คนก็ยังมาใช้สิทธิ์กันถล่มทลาย

“เพราะฉะนั้น ผมเรียกว่ามันสามารถที่จะส่งคลื่นไปให้ทั่วโลกกลับมาสนใจในประเทศไทยได้ และก็หวังว่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยมีที่ยืนในเวทีโลกอีกครั้ง อย่างน้อยยังรู้สึกว่าเขาหันกลับมามองที่ประเทศไทยว่า มันก็มีการเมืองแบบนี้ มีความเป็นพลเมืองแบบนี้” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวด้วยว่า คิดว่าเป็นเรื่องแบบนี้ที่เป็น มิราเคิล ออฟ ไทยแลนด์ ในปีนี้ เป็นลักษณะการออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงในประเทศกว่า 76% ส่วนคนไทยที่อยู่ต่างประเทศนี่ ลงทะเบียนมาหนึ่งแสนกว่า และไปโหวตอยู่ 90,000 กว่า คิดเป็น 86-87 % ของคนใช้สิทธิ์ จากคนที่ออกมาจากเมืองไทยเป็นเวลานานๆ พวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นง่ายๆ ก็ขอมอบรางวัลแห่งเกียรติยศนี้ให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน รวมถึงคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศที่ยังไม่ลืมประเทศไทยด้วย

นายพิธา กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้การเดินทางมาสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การมาร่วมงานของนิตยสารไทม์ แต่ยังต้องการเดินทางมาขอบคุณพี่น้องคนไทยในต่างแดนที่ช่วยกันออกมาลงคะแนนเลือกตั้งในรอบที่ผ่านมา และต้องการใช้เวลาพูดคุยสอบถามเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับคนไทยในต่างแดน รวมถึงการพบปะกับบรรดาชาวต่างชาติที่มีศักยภาพและความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับพี่น้องชาวไทย

นายพิธา ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศด้วยว่า ตอนนี้ตนพยายามดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงผ่าน 3Ds : การทลายทุนผูกขาด (demonopolization) การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น (decentralization) และการลดอำนาจและบทบาทของกองทัพในการเมือง (demilitarization) นอกจากนี้ ยังได้ตอบคำถามในประเด็นเกี่ยวบทบาทของตนในว่าในฐานะนักการเมืองที่คนไทยให้การยอมรับและเชื่อมั่นว่า ตนจะเป็นตัวแทนในสามเรื่อง ได้แก่ 1) ตัวแทนเป็นปากเสียงในนามของประชาชน 2) ผลักดันการผ่านกฎหมายก้าวหน้า และ 3) ตรวจสอบดุลอำนาจของรัฐบาล

ทั้งนี้ การที่นายพิธา ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้นำการสร้างการเปลี่ยนแปลงผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ในสาขา ผู้นำระดับโลก (Leaders) โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมีในหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งนักการเมือง นักแสดง นักดนตรี ศิลปิน โดยนายพิธาได้พูดคุยในประเด็นต่าง ๆ เช่น การสร้างเมืองเมืองพี่เมืองน้อง (Sister Cities) กับ David Holt นายกเทศมนตรีเมืองโอคลาโฮมาซิตี การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (Digital Division) ด้วยโครงสร้างพื้นฐานโดยมีกรณีศึกษาของเมียนมาร์ กับ Hans Vestberg ซีอีโอ Verizon การคลื่อนไหวภาคประชาสังคมของชาวยูเครนในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล กับ Daria Kaleniuk การจัดการเรื่องเฟคนิวส์ กับ Mercy Mutemi และเรื่องรัฐสวัสดิการที่มีที่อยู่อาศัยจัดให้สำหรับนักดนตรี Country Music โดยเฉพาะเพื่อไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าบ้านในรัฐเทนเนสซี สนับสนุนการสร้างรัฐให้เป็น Creative economy กับ Kelsea Ballerini รวมทั้ง Clara Shih ที่เป็น CEO ของ Salesforce ที่นำ AI มาใช้ปฏิวัติอนาคตของการทำงาน

ภายในงานนายพิธายังได้พูดคุยกับศิลปิน นักแสดงอย่าง Maya Hawke เธอเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ชุด Little Women (2017, Mini Series) และ Stranger Things เธอยังมีผลงานเพลงอีกด้วย โดยที่ผลงานเพลงของเธอนั้นเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างส่วนตัวและช่วยบำบัดจิตใจ แม้ว่าเธอจะมีข้อจำกัดจากภาวะ Dyslexia ตั้งแต่เด็กก็ตาม(Dyslexia - ความผิดปกติเฉพาะด้านการเรียนรู้ เช่นข้อจำกัดในด้านการอ่าน เขียน)

นอกจากนั้น นายพิธายังได้พูดคุยกับนักแสดงที่คนทั้งโลกจับตามองอย่าง Stephanie Hsu เธอมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ออสการ์อย่าง Everything Every Where All At Once ที่ถือเป็นปรากฎการณ์อีกครั้งหนึ่งบนเวทีภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Academy Award โดยตัวเธอได้เข้าชิงนักแสดงสมทบหญิงในปีล่าสุดอีกด้วย ต่อมาเธอยังได้รับบทบาทที่ท้าทายความสามารถในภาพยนตร์ที่รวมทีมนักแสดงหญิงอย่าง Joy Ride ซึ่งกวาดคำชมจากทั้งคนดูและนักวิจารณ์ไปอย่างท่วมท้น เธอต้องการแสดงให้เห็นว่านักแสดงหญิงก็สามารถแสดงหนังตลกฮาสัปดนได้เช่นเดียวกับนักแสดงชาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีคนเขียนบทเป็นคนไทยอีกด้วย

โดยนายพิธามีกำหนดเดินทางไปวัดพุทธไทยถาวรวนาราม เพื่อเคารพสักการะไหว้พระและพบปะพูดคุยกับคนไทยที่วัดพุทธไทยถาวรวนาราม ณ มหานครนิวยอร์ก ในวันพุธ 25 ต.ค. ในเวลา 13.00-14.00 น. เดินทางไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพื่อบรรยายหัวข้อ Moving Forward: Thailand, ASEAN & Beyond (ภาษาอังกฤษ) ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค. ในเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป และร่วมวงพูดคุยเป็นกันเอง Fireside Chat with Pita Limjaroenrat ในฐานะศิษย์เก่า MIT โดยเน้นพบปะพูดคุยภาษาไทยกับบรรดานักศึกษาไทยที่อยู่ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และพื้นที่ใกล้เคียง ในวันเสาร์ 28 ต.ค. ในเวลา 10.00-12.00 น.