'กิตติศักดิ์ ปรกติ' เปิดใจหลังศาลยกฟ้อง คดีกบฎ กปปส. 

3 ธ.ค. 2566 – บันทึกจาก รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ

💐ขอขอบคุณทุกกำลังใจครับ

หลังสู้คดีมาเกือบ 10 ปี วันที่ 1 ธันวา 2566 ผมไปฟังคำพิพากษาที่คุณธาริตเขาหาว่าผมสนับสนุนกบถ

ผมไปถึงศาลอาญาตอนเช้าด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย นายแพทย์เพื่อนชั้นมัธยมท่านหนึ่งกรุณาปลอบใจด้วยการนำพระรูปจำลองของเสด็จในกรมหลวงชุมพร อัดกรอบ มาคล้องคอเป็นกำลังใจ

หญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องพิจารณากล่าวเบา ๆ กับผมว่า วันนี้ไม่ว่าผลการพิจารณาของศาลจะเป็นอย่างไร ฉันมาที่นี่เพื่อขอขอบคุณการกระทำของจำเลยทุกคนว่าผ่านมา 10 ปีแล้ว การกระทำทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำที่ดีเสมอมา
เหตุทั้งหมดในคดีนี้มาจากการลงมติของเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรา พรบ นิรโทษกรรม เมื่อกว่า 10 ปีก่อน คือ 1 พย 56

คณาจารย์ในคณะนิติ มธ ลงชื่อคัดค้านการตรากฎหมายนี้ว่าเป็นการใช้เสียงข้างมากที่มีอย่างล้นหลามของสภาผู้แทนฯโดยขัดต่อหลักกฎหมายอย่างร้ายแรง

ผมในฐานะอาจารย์คนหนึ่งได้ร่วมแถลงข่าวที่คณะนิติฯ มธ เมื่อ 7 พย 56 แล้วเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนของคณาจารย์ที่ลงนามแสดงเจตนารมณ์คัดค้านร่างกฎหมายตามอำเภอใจเสียงข้างมากครั้งนี้ต่อผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

หลังจากนั้นผมได้รับเชิญไปอภิปรายหลายครั้ง โดยได้ยกตัวอย่างกรณีของเยอรมันตะวันออกที่ประชาชนลุกขึ้นคัดค้านรัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งแบบจอมปลอมจนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงโดยสันติ

โดยประชาชนเยอรมันที่ออกมาชุมนุมประกาศไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอีกต่อไป และจัดตั้งสภาประชาชนขึ้น เรียกว่าสภาโต๊ะกลม กำหนดแนวทางให้รัฐสภาปฏิบัติตาม จนนำไปสู่การเปิดกำแพงเบอร์ลิน

ผู้นำการชุมนุมในบ้านเราครั้งนั้นได้นำเอาแนวทางของเยอรมันตะวันออกมาปรับใช้ นำไปสู่การเดินขบวนครั้งใหญ่หลายครั้ง จนรัฐบาลประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และมีการคัดค้านการเลือกตั้งตามมา

รัฐบาลในเวลานั้นคงเห็นว่าผมมีส่วนสำคัญในการประท้วงจึงสั่ง ดำเนินคดีกับผมร่วมกับผู้ต้องหาอื่นๆอีกราวเกือบ 60 คนโดยสั่งอายัดบัญชีธนาคารของผมทั้งหมด และตั้งข้อหาสนับสนุนกบฏ ทำให้ต้องสู้คดีต่อมาร่วม 10 ปี

เกือบ10 ปีผ่านไปศาลชั้นต้นได้พิจารณาแล้วเห็นว่าคำอภิปรายในที่ชุมนุมของผมเป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการโดยสุจริตจึงตัดสินว่าไม่มีความผิดและให้ยกฟ้อง

แม้ศาลจะตัดสินลงโทษจำเลยอื่นๆอีกหลายคน แต่ก็ยอมรับว่าบุคคลเหล่านั้นได้ แม้กระทำผิด ก็ทำไปเพื่อปกป้องการปกครองโดยถือกฎหมายเป็นใหญ่ และยอมรับกระบวนการยุติธรรมอย่างกล้าหาญ

ผมเป็นเพียงนักวิชาการที่แสดงความคิดเห็นโดยไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น ศาลเมตตายกฟ้อง แต่ผู้ประท้วงหลายคนถูกตัดสินจำคุก อย่างไรเสีย ผมก็ยังหวังว่าหากมีเหตุไม่ถูกต้องเกิดขึ้น คนที่อาสาออกหน้าคัดค้านเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง จะไม่หมดสิ้นไป

แม้บางครั้ง ผลของการต่อสู้ อาจเป็นเหมือนหนีเสือ ปะจรเข้…ก็ตาม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา

นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ

ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม

วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล

นักวิชาการ มธ. มองเลือกตั้งหน้า ‘พรรคประชาชน’ โดดเดี่ยว อำนาจต่อรองไหลกลับเพื่อไทย

นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลจากการยุบสภา ชี้สมการการเมืองหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยว สูญเสียอำนาจต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บทบาทต่อรองมีโอกาสไหลกลับไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันของการเมือง 3 ขั้ว

ยังไม่ใช่เวลาเจรจาสันติภาพ นักวิชาการ มธ. ชี้ต้องปกป้องอธิปไตยก่อน แนะวิธีสื่อสารเชิงรุกสู้กัมพูชา

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกัมพูชา แต่ปลายทางคือต้องเจรจาบนโต๊ะ ชี้ไทยต้องปกป้องอธิปไตยไปจนสถานการณ์กลับสู่ปกติก่อนแล้ว

นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน

นักวิชาการ มธ. คนแรกของอาเซียน คว้ารางวัล People of ACM

นักวิชาการ มธ. คนแรกของไทยและอาเซียน ได้รับเลือกเป็น People of ACM จากบทบาทพัฒนาทักษะซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ประชาชนภาคเหนือ เชื่อมเทคโนโลยีขั้นสูงสู่การสร้างนวัตกรรมแก้ปัญหาพื้นที่