กมธ.ปราบฟอกเงิน จี้กรมป่าไม้-ป.ป.ง. รื้อคดีเขมือบป่าภูเรือ-ด่านซ้าย เกือบ 7 พันไร่

17 ม.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ง.) พร้อมคณะ กมธ. ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขานุการ ร่วมกันพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองหรือการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอำเภอภูเรือ และอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ของ บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก ซึ่งเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยได้เชิญเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและอธิบดีกรมป่าไม้ แต่ได้ส่งผู้แทน ประกอบด้วย นายวิทยาพร จันทวาส นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ และ นายกรกฤษณ์ ปราบเขต นักสืบสวนสอบสวน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายคม ศรีสวัสดิ์ ผอ.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม นายสราวุฒิ บุญเกื้อ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานี และ นายยุทธศักดิ์ ไชยศักดา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การพิจารณา กมธ.ป.ป.ง. พิจารณาประเด็นการตรวจสอบข้อมูลเดิมที่มีการสอบสวนและข้อมูลเชิงลึกที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ กรณี บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก บุกรุกยึดครองหรือทำประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนฯกว่า 6,200 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลย โดยขั้นตอนที่ คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสภาพของที่ดินจำนวน 6,200 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลย ที่อยู่ในความครอบครองของ บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ปัจจุบันเป็นอย่างไร

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธาน กมธ.ป.ป.ง. กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับการชี้แจงจากผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต และ กรมป่าไม้ พบว่า ความเสียหายภาพรวมมีมากถึง 6,900 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย ที่ยังคงรอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องติดตามทวงคืนที่ดินและเรียกคืนความเสียหาย กมธ.ป.ป.ง. จึงมีมติให้ สำนักงาน ป.ป.ง. ให้เร่งดำเนินคดีในการยึด อายัดทรัพย์ ที่พบว่ามีความผิดทั้งหมด และขอให้กรมป่าไม้ได้ดำเนินการพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีนี้ใหม่ พร้อมกับเข้าจัดการทรัพย์สินที่ยึดอายัดนี้ให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ต่อแผ่นดินและให้แจ้งเป็นรายลักษณ์อักษรต่อ กมธ. ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา

'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล

เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว

"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้

ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์

นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"

ดีอีสั่งเลิก MOU กับบริษัทสิงค์โปร์ หลังโยงฟอกเงินดิจิทัล พบเบน สมิธ-บิ๊กเนมร่วมเป็นขยาน

วันนี้ (9 ธันวาคม) จากกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย เมื่อวันที่ 24 พศจิกายน ว่า ได้สั่งยกเลิก บันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอี และ บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore และส่งหนังสือเวียนถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับทราบ และหากมีการกระทำใดๆ ภายใต้ MOU นี้