
4 ก.พ.2567-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “ก้าวไกล กับ การขาดเหตุผลจนติดเป็นนิสัย” ระบุว่า การเฮโลกันออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มพรรคก้าวไกล ทั้งเก่าและใหม่ ในเชิงคัดค้านกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเรื่อง คุณพิธา กับพวกรวม 44 คน ว่าใช้สิทธิเสรีภาพมุ่งยกเลิก ม.112 มาก จนพัฒนาไปเป็นการล้มล้างระบอบการปกครองในที่สุด
กรณีนี้ มีหลายคนออกมาพูดๆๆๆๆโดยไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลให้จบเสียก่อน เช่น คุณชัยธวัช พูดเรื่องคำวินิจฉัยฯ ออกมาสรุปได้ 7 เรื่อง แต่ดูเป็นเรื่อง ไร้สาระ ที่คุณชัยธวัช พูดจากที่นึกฝันเอาเอง เช่น
1. “ การตีความว่า อะไร คือ การล้มล้างการปกครอง อาจเกิดปัญหาที่มีการตีความในหลักเกณฑ์ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะความคลุมเครือในการตีความ ข้อเท็จจริง และ เจตนา “ ( เรื่องนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า การล้มล้างการปกครอง มีมากกว่า 100 วิธี ไม่ใช่มีแต่เรื่อง ม.112 เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเรื่อง ม. 112 เองก็ตาม ก็มีอีกหลายสิบวิธี แต่วิธีของคุณพิธา กับพวกนั้น ศาลท่านพูดไว้ชัดเจนเกินพอว่ามันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาอย่างไร ดังนั้น ส.ส.ก้าวไกลทุกคนจึงควรอ่านคำวินิจฉัยให้จบเสียก่อน )
2. อีกข้อหนึ่ง คุณชัยธวัช กล่าวไว้ว่า “คำวินิจฉัยนี้จะทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาสในการใช้ระบบรัฐสภา มาหาข้อยุติความขัดแย้ง “ (เรื่องนี้ก็อยากถามว่าตั้งแต่มีรัฐสภามา ระบบรัฐสภาเคยยุติความขัดแย้งสำเร็จสักครั้งหนึ่งไหม? น่าจะลองยกมาสักเรื่องที่รัฐสภาทำสำเร็จ อย่าแค่พูดให้ถูกใจเด็กๆเท่านั้นเอง)
3. ตัวอย่างอีกข้อ “ อาจส่งผลให้ประเด็น สถาบันฯ กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบันฯเอง “ ( เรื่องนี้ก็เช่นกัน เมื่อไรกันที่คุณพูดความจริง หรือไม่พูดอยู่ด้านเดียว เพื่อหวังผลยุยงเด็ก แล้วมันก็ไม่มีผลอะไร เพราะ ศาลไม่เคยห้ามการแก้ไข ม.112 ถ้าทำตามกติกาของรัฐธรรมนูญ เพียงแต่การแก้ไขครั้งนี้ มีเจตนาที่ชัดเจน และทำต่อเนื่องกันมาเกือบ 3 ปีแล้ว อีกอย่างหนึ่ง การพูดของคุณชัยธวัช ซึ่งแย่อยู่แล้ว แต่ คุณพิธาเอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ ผิดๆถูกๆเพิ่มเข้าไปอีก เช่น ใช้คำว่า treason ที่แปลว่า กบฏ จนอาจทำให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าใจผิดได้)
4. คุณชัยธวัช ระบุด้วยว่าอาจนำไปสู่ปัญหา “ ความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญ “
(กรณีนี้ข้อเท็จจริง คือ ศาลรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นจากฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้ใช้อำนาจตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ สำหรับดูแล ปัญหาต่างๆที่เกิดจากฝ่ายนิติบัญญัติเป็นหลัก ดังนั้น จะไปผิดปกติอะไร นอกจากการใช้ความแค้นส่วนตัวของฝ่ายนิติบัญญัติบางคนมากดดันกับ ศาลรัฐธรรมนูญ ก็เท่านั้นเอง)
ดังนั้น เรื่องนี้น่าลองเอามาคุยกันด้วยเหตุด้วยผล โดยมีคนฝ่ายอื่นเข้ามาร่วมบ้าง เช่น ดร.อานนท์ ดร.นิวส์ และอีกหลายคนก็พร้อมอยู่นะครับ ทีวีทุกช่องพร้อมเปิดให้พูดคุยกัน กล้าไหมละครับ ก็ง่ายๆแค่นี้เอง หรือกล้าแต่พูดให้เด็กฟังเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อดีตบิ๊กศรภ. ชี้เหตุผลสำคัญไม่ต้องกลัว 'สหรัฐ' ทิ้ง 'ไทย' แนะรัฐบาลมีจุดยืนมั่นคง
สำหรับพี่ไทยนั้น แม้จะไม่ยอมให้สหรัฐ เข้ามาตั้งฐานทัพ แต่สหรัฐ ก็หวงแหนประเทศไทยมาก เพราะภูมิศาสตร์ที่ตั้งของไทย สหรัฐยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายเรื่อง
อดีตบิ๊กศรภ. สะกิด 'รัฐบาล-ทหาร' โอกาสทองเคลื่อนไหวเชิงรุกเขมร ช่วง 'ฮุนเซน' หัวหมุน
พลโทนันทเดชชี้ช่วงนี้เป็นโอกาสทองของรัฐบาลไทย และทหารของชาติ ที่จะเคลื่อนไหวเชิงรุก จัดการปัญหาของกัมพูชาให้เร็วขึ้น เพราะ ฮุนเซนกำลังเจอปัญหาหลายด้านจนหัวหมุนไปหมด
‘ดร.ณัฏฐ์’ ชี้ ศาล รธน. วินิจฉัยไม่เกินคำขอ หากเกี่ยวเนื่องคำร้อง
“ดร.ณัฏฐ์” ชำแหละ ปม “บวรศักดิ์” ขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ “คำวินิจฉัยไม่เกินคำขอ” ต้องเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องกับคำร้องโดยตรง
อดีตบิ๊กศรภ. สะท้อน 3 คำถามสำคัญ 'ทักษิณ-ฮุนเซน' ดีกันหรือยัง 'อนุทิน' จะเป็นหนูทองคำนานไหม
อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เรื่อง กับ 3 คำถาม ที่น่าสนใจ
'อดีตบิ๊กศรภ.' วิเคราะห์ 3 เรื่องกัมพูชาที่กวนใจคนไทย ไม่ต้องวิตก อย่าบ้าจี้ตาม
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า เรื่องของเขมรที่กวนใจคนไทย 3 เรื่อง
'อดีตบิ๊กศรภ.' วิเคราะห์เห็นภาพ 'ปิดด่านกับเปิดด่าน' ใครได้ใครเสียบ้าง
การปิดด่านนั้นทำให้พ่อค้ารายใหญ่ๆเดือดร้อนก็จริง แต่การปิดด่านแบบสนิทๆเลย จะทำให้การเจรจาเพื่อต่อรองทวงคืนพื้นที่ประเทศไทยทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้นไม่ต้องรบกันอีก


