ชำแหละ! งบดิจิทัล ผ่องถ่าย 5 แสนล้านเข้ากระเป๋านายทุนใหญ่ แต่สุดท้ายทำไม่ได้


'จตุพร' ชำแหละงบดิจิทัลแจกเงินหมื่นบิดเบี้ยว เชื่อผ่องถ่าย 5 แสนล้านเข้ากระเป๋านายทุนใหญ่ชดเชยกำไรหดหาย ไม่ใช่การกระตุ้น ศก. ซัดใช้เงิน ธกส.ผิดวัตถุประสงค์ คาดมีแถลงใหม่อีกรอบเป็นครั้งที่ 7 แล้วเปลี่ยนใหม่อีก สุดท้ายทำไม่ได้

12 เม.ย.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง นำคณะแถลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงินหมื่นบาทจำนวน 5 แสนล้านบาทครั้งที่ 6 ซึ่งมีรายละเอียดบิดเบี้ยวไม่แตกต่างจากการแถลงมา 5 ครั้งก่อนหน้านี้

โครงการดิจิทัลแจกเงินหมื่นบาทให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปทั้งประเทศจำนวน 50 ล้านคน ซึ่งเป็นโครงการทีเด็ดของพรรคเพื่อไทยใช้ในการหาเสียงปี 2566 โดยประกาศความมั่นใจว่าคิดใหญ่ทำเป็น โดยอ้างว่าได้ศึกษามาอย่างรอบคอบจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หลังเลือกตั้งถึงปัจจุบันโครงการนี้ยังไม่เริ่มนับหนึ่งแจกเงินให้ประชาชนเลย เพราะขาดแหล่งเงินมาแจก

นายจตุพร กล่าวว่า การแถลงสัญญาจะแจกเงินหมื่นเป็นทางการครั้งที่ 6 เมื่อ 10 เม.ย.นั้น เป็นแค่การหาช่องว่างโดยรัฐบาลไม่รับผิดชอบ ซึ่งคาดว่าจะมีการแถลงใหม่อีกครั้ง เพราะการนำเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จำนวน 1.72 แสนล้านบาทมาแจกให้เกษตรกร ราวกับให้ไปซื้อสินค้าเพื่อส่งเสริมร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในโครงการดิจิทัล ทั้งๆ ที่วัตถุประสงค์ขอเงิน ธกส. มีไว้เพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าการเกษตร

ไม่เพียงเท่านั้น แหล่งเงินนำมาแจกหมื่นบาทยังแบ่งมาจากงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท และงบประมาณปี 2568 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท แต่ที่สำคัญคือ งบประมาณของไทยเป็นงบแบบขาดดุล ซึ่งมีความจริงว่า ต้องกู้มาชดเชยอยู่ดี ดังนั้น จึงเท่ากับเป็นการซ่อนรูปแบบเงินกู้มาแจกไว้ในงบประมาณขาดดุล ซึ่งเป็นอาการบิดเบี้ยวโดยกลบซ่อนความรับผิดชอบของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

"การแจกเงินหมื่นบาทนั้น ประชาชนไม่ได้ถือเงิน แต่ได้เพียงสิ่งของที่มีมูลค่าหมื่นบาทจากราคาต้นทุน 3,500 บาท และส่วนที่เหลือประมาณ 5,000 บาทเป็นกำไรเข้ากระเป๋านายทุนใหญ่ผู้ผลิตสินค้า เท่ากับรัฐบาลให้คนจนไปช่วยกู้วิกฤตเศรษฐกิจของคนรวย ดังนั้น จึงอธิบายการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เลย เพราะการแจกเงินแบบนี้คือการเอาสินค้าเข้าร้าน 7-11 แล้วให้คนจนไปเบิกมาใช้ในราคาหมื่นบาทก็เท่านั้น"

นายจตุพร เชื่อว่า เงินแจกหมื่นบาทไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะประชาชนไม่ได้ถือเงินสด ได้แต่ไปจ่ายซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กและร้าน 7-11 ซึ่งถูกนิยามว่า เป็นร้านขนาดเล็ก ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นการกระตุ้นเจ้าสัวให้ร่ำรวยขึ้น

อีกทั้งกล่าวว่า การนำเงิน ธกส.มาใช้ เท่ากับการกู้เงินอยู่ดี แต่ใช้คำพูดซ่อนเอาไว้ เป็นการยืมมาสำรองใช้ก่อน ซึ่งไม่แตกต่างจากโครงการจำนำข้าวเป็นหนี้ ธกส.อยู่ และยังใช้ไม่หมด ยิ่งให้ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก และ 7-11 ก็เป็นร้านขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ แล้วเงิน 5 แสนล้านเข้ากระเป๋าใคร

“เมื่อคนจนไม่ได้ถือเงิน มีแต่สิทธิ์ถูกสภาพบังคับให้ซื้อร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยเจ้าของร้านขนาดเล็กก็คือเจ้าของร้านขนาดใหญ่ โรงงานที่ส่งสินค้าให้ร้านใหญ่กับขนาดเล็กก็เป็นเจ้าของเดียวกัน แล้วต่างกันอย่างไร ซึ่งเป็นการคิดบิดเบี้ยวถ่ายเทเงินให้เจ้าสัว”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โฆษกรัฐบาล' ตบปาก 'ทวี-จอม' แจงยิบปมอนุมัติงบ MotoGP

'สิริพงศ์' ฟาด 'ทวี-จอม' ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร ชี้จัดมา 7 ปี สนามช้างฯ ให้ใช้ฟรีมาตลอด 'อนุทิน' ทะเบียนบ้านอยู่ที่นั่นไม่แปลก ไม่ใช่คู่สัญญา ชวนไปใส่ใจโครงการ Tomorrowland 2025

'สมชัย' ฟันเปรี้ยง! หลังเลือกตั้ง 69 'ภท.' เบียดชนะได้สส.มากกว่า 'ปชน.' พรรคเพื่อไทยต่ำร้อย 

‘สมชัย’ชี้เปรี้ยงหลังเลือกตั้ง 69 ภูมิใจไทย เบียดชนะ ได้ส.ส.มากกว่า พรรคประชาชน  อนุทิน ลุ้นคัมแบ็กนายกฯรอบสอง มองพรรคส้ม ฝ่ายค้านยาว หากได้ไม่ถึง 200 ที่นั่ง ส่วนเพื่อไทย พรรคต่ำร้อย!  

กัดกันเหวอะหวะ! เพื่อไทยย้อนพรรคส้ม งัดภาพ ‘ชัยธวัช’ ดอดพบพุทธะอิสระ

กองเชียร์พรรคเพื่อไทยเปิดเกมโต้กลับพรรคประชาชน หลังถูกเหน็บกรณีคณะผู้บริหารร่วมอวยพรวันเกิด “สนธิ ลิ้มทองกุล” งัดภาพเก่า “ชัยธวัช-เลขาฯพรรคก้าวไกล‘ เข้าพบ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” พร้อมข้อความย้ำเป็นแค่มารยาททางการเมือง ไม่ได้ยกใครขึ้นเป็นศาสดา

ชู ‘ทักษิณ’ ตัวแทนความปล่อยวาง ดึงสติมวลชนหลังเพื่อไทยร่วมวันเกิดสนธิ

วิญญัติ-ทนายความคนใกล้ชิดทักษิณ สะท้อนมุมมองหลังเกิดกระแสวิจารณ์กรณีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนำทีมอวยพรวันเกิด “สนธิ” โดยยก “ทักษิณ” เป็นตัวแทนของความเข้าใจและปล่อยวาง วอนเสื้อแดงลดอคติ หันมามองเป้าหมายร่วมคือประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมย้ำพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน

ดรามาพท.อวย‘สนธิ’ ชวนไปอยู่‘ฝ่ายปชต.’

สยบดรามา อวยพรวันเกิดสนธิ "ก่อแก้ว" ขอถามตรงๆ การทอดไมตรีครั้งนี้ ดึงศัตรูให้มาเป็นผู้สนับสนุน ดีต่อฝ่ายประชาธิปไตย เชื่ออาจเปลี่ยนอนาคตได้ ขณะที่คอลัมนิสต์ผู้จัดการเผย