
7 พ.ค. 2567 – เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความ ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย คิดจะแก้ พรบ.แบงค์ชาติ ก็ไม่ต่างอะไรกับตัดตีนให้เข้ากับเกือก
หลังจากที่คุณอุ๊งอิ๊งพลาดท่าไปวิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงค์ชาติ จนเกิดกระแสตีกลับ โหมเข้าใส่คุณอุ๊งอิ๊งแบบเสียผู้เสียคน หมดสภาพความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ จนต้องมีพี่เลี้ยงขึ้นมาหิ้วปีกลงจากเวที อย่างเช่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บอกว่าแค่สะท้อนความเห็นของประชาชน ไม่ได้บีบบังคับแบงค์ชาติ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมากระแทกใส่แบงค์ชาติ โดยการตั้งคำถามว่า ทำไมจะวิพากษ์วิจารณ์แบงค์ชาติไม่ได้ อยู่เหนือการเมืองหรืออย่างไร รวมถึงนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาปกป้องคุณอุ๋งอิ๋งเช่นกันว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถตั้งคำถามได้
ผมเห็นว่าทั้งหมด พยายามกลบเกลื่อนความผิดคุณอุ๊งอิ๊ง โดยเบี่ยงเบนประเด็นกล่าวหาว่า แบงค์ชาติอยู่เหนือองค์กรใดๆ ที่ไม่สามารถแตะต้องวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งในความจริงแบงค์ชาติก็เป็นหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่ง ซึ่งใครๆก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ด้วยข้อมูลที่เป็นจริง และปราศจากอคติ แต่การที่คุณอุ๊งอิ๊งออกมาวิจารณ์ด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เข้าใจผิดในบทบาทหน้าที่ของแบงค์ชาติ ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของแบงค์ชาติ
หลังจากที่แบงค์ชาติไม่ยอมสนองความต้องการของคุณเศรษฐา ในเรื่องการลดดอกเบี้ย จนมีภาพความขัดแย้งระหว่างคุณเศรษฐากับผู้ว่าฯแบงค์ชาติในหลายครั้ง เแต่ผู้ว่าฯแบงค์ชาติมีเกราะคุ้มกันจาก พรบ. ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงยากที่ฝ่ายการเมืองจะเข้าไปแทรกแซงได้ จนเกิดกระแสการแก้ พรบ. ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดความเป็นอิสระขึ้นมา และเริ่มมีกระแสคัดค้าน ไม่เห็นด้วยจากหลายฝ่าย จนนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ออกมาคัดค้านเช่นกัน
ถ้าหากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จะใช้วิธีการแก้ปัญหา หลังจากการแทรกแซงแบ่งชาติไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย จึงจำเป็นต้องแก้กฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลเข้าไปสั่งการได้ ไม่ต่างอะไรกับการตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่าตัดตีนให้เข้ากับเกือก ซึ่งจะเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง
ขอเตือนรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อย่าเหิมเกริมย่ามใจในอำนาจของตัวเอง อย่าคิดว่ามีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร สามารถผลักดันแก้กฎหมายได้ตามใจชอบ ขอให้ดูตัวอย่างการออกพรบ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย ล้างผิดให้คนโกง ที่เป็นจุดจบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้ว วันนี้อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ท้าทายกระแสสังคมอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย
พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ


