'ดร.เอ้' เทียบภาวะผู้นำในการบริหารวิกฤติ ระหว่างซีอีโอสิงคโปร์แอร์ไลน์ กับนายกฯเศรษฐา

23 พ.ค.2567 - ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง "ภาวะผู้นำในการบริหารวิกฤติของ ซีอีโอสิงคโปร์แอร์ไลน์ vs. นายกรัฐมนตรีไทย ใครสอบตก ใครสอบผ่าน" มีเนื้อหาดังนี้

"หนึ่งวัน" ในการจัดการวิกฤติของ ซีอีโอสิงคโปร์แอร์ไลน์ กรณีเครื่องบินตกหลุมอากาศ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เปรียบเทียบกับ "หนึ่งเดือน" ของ "ผู้นำไทย" กับวิกฤติโรงงานสารพิษ ที่มีชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนมาก เราเรียนรู้อะไรบ้าง

1. "ซีอีโอสิงค์โปร์แอร์ไลน์" ออกแถลงการณ์ "ขอโทษ" ด้วยตนเอง "อย่างตรงไปตรงมา" ทันที ให้ข้อมูลสาเหตุและช่วงเวลา โดยละเอียด มีเสียชีวิตกี่คน บาดเจ็บกี่คน ไม่มีซ้อนเร้น พร้อมรับผิดชอบทุกกรณี

ขณะที่ "นายกรัฐมนตรีไทย" ไม่เคยออกแถลงการณ์อย่างจริงใจว่า โรงงานเก็บสารเคมี "ไฟไหม้ได้อย่างไร" ใครเป็นเจ้าของตัวจริง ใครออกใบอนุญาต "หนึ่งเดือน" ยังเงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ชาวบ้านเดือนร้อนแสนสาหัส จนจะกลายเป็นปัญหาการปะทะกันระหว่างจังหวัดระยองกับจังหวัดชลบุรี

2. "ซีอีโอสิงคโปร์แอร์ไลน์" ไปรับผู้โดยสารด้วยตนเอง และส่ง "ทีมใหญ่" มากรุงเทพ เพื่ออำนวยความสะดวก อย่างเต็มที่ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ อยู่หน้างานตลอด "หนึ่งวัน" เต็ม เพื่อให้ความมั่นใจ และเป็นการส่งสัญญาณถึงพนักงานทุกคน วันนี้ต้องทุ่มเทดูแลผู้โดยสารและครอบครัว "แก้ปัญหาให้ทุกอย่าง" เต็มร้อย

"นายกรัฐมนตรีไทย" ไปตรวจงานที่ระยอง แบบผ่านๆ "ครึ่งชั่วโมง" จากนั้น ไม่สนใจ ไม่ติดตาม ทำแบบขอไปที "ไม่รักประชาชน" ข้าราชการเห็นผู้นำไม่จริงจัง เขาก็ปล่อยเกียร์ว่าง "ไม่แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ"

3. "ซีอีโอสิงค์โปร์แอร์ไลน์" สัญญาจะ "เยียวยา" ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งผู้โดยสารและลูกเรือทุกคน ไม่มีข้อแก้ตัว ไม่ต้องให้มีการร้องเรียน ทั้งที่ "เป็นเหตุสุดวิสัยทางธรรมชาติ" ไม่ใช่ความผิดของใคร คือ แสดงออกถึง “ความจริงใจ” "ความรักลูกค้าและพนักงาน"

"นายกรัฐมนตรีไทย" ได้รับทั้งจดหมายร้องเรียนจากชาวบ้าน ได้ข่าวความเดือดร้อนรายวัน แต่ "ไม่เยียวยา" ไม่แก้ปัญหา คือ การแสดงออกว่า "ไม่รักประชาชน" "ไม่จริงใจ"

ข้อพิสูจน์ เปรียบเทียบภาวะผู้นำในการบริหารวิกฤติ ยืนยันว่า "นายกรัฐมนตรีไทยสอบตก" ทั้งที่มีเวลาถึงหนึ่งเดือน แต่ไม่แก้ปัญหา ขณะที่ "ซีอีโอสิงค์โปร์แอร์ไลน์สอบผ่าน" แก้ปัญหาได้เพียงหนึ่งวัน ด้วยความจริงใจและทุ่มเท

ท่านคิดว่า หลังวิกฤติ คนยังอยากขึ้นสิงคโปร์แอร์ไลน์หรือไม่ หรืออาจจะมีลูกค้าเยอะกว่าเดิมหรือไม่ เทียบกับประเทศไทย จะมีนักลงทุน และคนมีความรู้ความสามารถจากต่างประเทศ อยากมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทยหรือไม่ ช่วยกันตอบทีครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

18 มิ.ย.ลุ้น 4 คดีร้อน จับตาใครจะพินาศ?

จับตาว่าในวันที่ 18 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป จะมีการพิจารณาคดีทางการเมือง 4 ประเด็นร้อน ที่จะส่งผลสะเทือนไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล การเมืองไทยในระยะเวลาต่อไป

นายกฯ ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟหัวหิน ชื่นชมปรับปรุงได้สวยมีเอกลักษณ์

ที่สถานีรถไฟหัวหิน(สถานีใหม่) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟหัวหิน (สถานีเดิม) เพื่อยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ของหัวหิน

'เศรษฐา' เผยส่งพยานเพิ่ม 1 คน คดีตั้งพิชิตนั่งรมต. ลั่นไม่คิดลาออก-ยุบสภา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับทีมที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญในคดี 40 สว.ร้องให้ตรวจสอบอำนาจการแต่งตั้ง

ส่อง4คดีร้อนการเมือง ใครรอด-พรรคไหนร่วง

หลายฝ่ายจับตาว่า วันที่ 18 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป จะมีการพิจารณาคดีสำคัญทางการเมือง 4 ประเด็นร้อน ที่จะส่งผลสะเทือนไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล ความวุ่นวายทางการเมืองและเศรษฐกิจหรือไม่