ประธาน กกต. สั่งสายข่าวจับตาผู้สมัคร สว. รวมตัวโรงแรมเดียวกัน

“ประธาน กกต.” ชี้การสมัครสว.ผู้สมัครต้องรับรองคุณสมบัติตัวเองหากแจ้งเท็จมีโทษทางกฎหมาย เตือนเจ้าหน้าที่นับช้าๆ ขานคะแนนชัดๆ มองผู้สมัครรวมตัวพักโรงแรมใกล้สถานที่เลือกเป็นเรื่องปกติเพราะสะดวกเดินทาง แต่สั่งสายข่าวจับตาผู้สมัครที่น่าสงสัย

24 มิ.ย.2567 - เวลา 14.00 น. ที่เซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการ​ฯ แจ้งวัฒนะ​ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมสังเกตการณ์กระบวนการซักซ้อมการคัดเลือกสว. ระดับประเทศ พร้อมกับเปิดเผยว่าในการเลือก สว.ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ผู้สมัครสามารถนำแบบ สว.3 ซึ่งเป็นข้อมูลการแนะนำตัวของผู้สมัคร ภายในกลุ่มของตนเองเข้าไปในสถานที่เลือกได้ และเข้าคูหาได้ รวมถึงในรอบเลือกไขว้ที้กกต. จะพิมพ์แบบ สว.3 ให้ใหม่ก็สามารถนำไปใช้ได้ซึ่งในวันเลือกช่วงเวลาพักผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเองกับผู้สมัครในสายเดียวกันได้

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงหนังสือจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา ที่แนบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับคำร้องให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. ว่า ในขั้นตอนเริ่มต้นของการสมัคร ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมาย และไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยผู้สมัครจะต้องรับรองตนเอง รวมถึงการรับรองความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี ประกอบการสมัคร ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรน่าสงสัยก็รับสมัครได้ แต่หากหลังจากนั้นพบว่า แจ้งคุณสมบัติอันเป็นเท็จ ทั้งผู้สมัครและผู้รับรองจะมีโทษตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่พบว่าคนมีอาชีพเป็นกู้ภัยหรือ อสม. เป็นผู้ที่ได้รับเลือกในกลุ่มภาคประชาสังคมจำนวนมาก ไม่ใช่ความผิดพลาดหรือการตรวจสอบไม่จริงจังของเจ้าหน้าที่ เพราะคุณสมบัติของการสมัครใน17 กลุ่ม สาขาอาชีพ มีกำหนดไว้ด้วยว่า "หรืออื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน หรือประกอบอาชีพอื่นที่มีผู้รับรอง"

นายอิทธิพร ยังกล่าวอีกว่า ตนยังได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ ให้เข้มงวดในการทำงานหน้าที่ ให้เป็นไปตามระเบียบของกฎหมาย ตั้งแต่ขบวนรายงานตัว การเลือกในรอบแรก และการจับสลากแบ่งสายเลือกไขว้ แต่ประเด็นที่กำชับและมีความสำคัญคือเรื่องของการนับคะแนนและขานคะแนน ว่าให้ทำช้าๆชัดๆ ขานคะแนนให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นปัญหา ท่ามกลางการจับตามองของผู้สมัครที่ติดตามอยู่ นี่ซึ่งหากผู้สมัครมีคำถาม ให้ตอบโดยอิงกับระเบียบและคู่มือการปฏิบัติไม่ใช่การใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ

ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวผู้สมัครพักในโรงแรมเดียวกันจำนวนมาก มองได้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติและปกติ เพราะการจะเลือกครั้งนี้เป็นการจัดเลือกระดับประเทศและมีสถานที่เพียงสถานที่เดียว ที่อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี ซึ่งผู้สมัครเลือกที่จะมาพักบริเวณใกล้สถานที่เลือก ไม่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งเบื้องต้นไม่ได้หมายความว่า เจตนามารวมกลุ่มกัน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสถานที่ที่สะดวกที่สุด เพื่อที่จะไปสถานที่เลือก ซึ่ง กกต.ได้ตระหนักในประเด็นนี้ ตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ว่าหากไปรวมตัวที่ไหนให้มีการตั้งข้อสงสัย เพราะผู้สมัครบางคนอาจจะมีความน่าสงสัย กกต.ได้มีการสั่งให้จับตาดูตั้งแต่การเลือกตั้งระดับอำเภอแล้ว และให้สายข่าวได้ติดตาม

ทั้งนี้กกต.ก็เชื่อมั่นว่า ผู้สมัครที่จะมาเป็นสว.ทำหน้าที่ในสภา ต้องมีเกียรติและ ศักดิ์ศรี และยึดมั่นในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจน นำไปสู่การจับกุมกกต.จะทำทันที พร้อมแนะให้ประชาชนที่มีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริต แจ้งเบาะแสไปยังกกต.ได้

นายอิทธิพร กล่าวทิ้งท้ายว่า กระบวนการเลือก สว. กกต. ทำไปตามกฏหมาย และเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจให้เป็นไปตามกฎหมายมากที่สุด และให้ข้อมูลแก่ผู้สมัครผ่านสายด่วน 1444 ขณะเดียวกันเชื่อว่าผู้สมัครมาสมัครเพื่อเป็นตัวแทนประชาชน ก็ควรที่จะทำตามกฎหมาย

ขณะที่การเลือก สว. ระดับจังหวัดที่ผ่านมา ประธาน กกต. กล่าวว่า มีการสั่งให้นับคะแนนใหม่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อผู้เข้ารอบแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า ไม่ได้อยากให้กระบวนการในการเลือกล่าช้าแต่ต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรธน. ถามอัยการสูงสุด ปมคำร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ขีดเส้นตอบกลับใน 15 วัน

ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาในคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ

ควันออกหู! แตะนายใหญ่ครอบงำพรรค หนักถึงขั้นเศรษฐกิจประเทศพังแน่

“ภูมิธรรม” มองระบบเปิดช่องให้คนร้องยุบพรรค ปม “ทักษิณ” ครอบงำ กระทบความเชื่อมั่นเศรษฐกิจประเทศพัง พร้อมแก้ต่างหาก กกต. เรียกแจง

'สุริยะใส' ชี้กกต.เดินถูกทาง หาข้อยุติประเด็น 'ครอบงำ' สร้างบรรทัดฐานทุกฝ่าย

“สุริยะใส” ระบุ กกต.ตั้งอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบ หาข้อยุติประเด็นครอบงำ เป็นการตัดสินใจที่ชอบแล้ว ชี้หากเรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยหาข้อยุติ จะเป็นบรรทัดฐานกับทุกฝ่าย สกัดกล่าวโทษหรือทำลายความชอบธรรมกันอีกต่อไป

เรืองไกร ร้อง กกต. สอบ 'อุ๊งอิ๊ง' ฝ่าฝืน พรป. พรรคการเมือง ม.28?

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ