
23 ก.ค. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท เสนพงศ์-คุย -การเมือง” ระบุว่า
ภาพ“ทักษิณ”ที่เขาใหญ่
เหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
ผมได้มีโอกาสไปทำบุญวันเข้าพรรษา ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้พบกับแฟนคลับ แฟนเพลงและคอการเมืองหลายคน ได้พูดคุยกันถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคนส่วนหนึ่งเคยร่วมการชุมนุมกับกลุ่มกปปส.ในการขับไล่ ทำลายล้างระบอบทักษิณมา ตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณจนถึงยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้เสียเสียสละทั้งเงินทองและเวลา ในการร่วมการเดินขบวนต่อสู้ในครั้งนั้น
ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป เห็นคุณทักษิณกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และคุณยิ่งลักษณ์ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยมาเช่นเดียวกัน ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดและเครียดแค้นอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะบ้านเมืองตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของระบอบทักษิณอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
เขาจึงตั้งคำถามแบบรัวๆกับผมว่า ทำไมต้องปล่อยให้ทักษิณกลับประเทศไทยแบบเท่ๆ ใครอนุญาตให้ทักษิณกลับมาและกลับมาได้อย่างไร ไม่มีใครทำอะไรทักษิณได้เลยหรือ แกนนำมวลชนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณหายหน้าไปไหนหมด ทำไมไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อสู้คัดค้านบ้าง ทำไมพรรคการเมืองที่อยู่กับพวกคนละขั้วกับคุณทักษิณ มาจับมือจูบปากตั้งรัฐบาลได้ ทำไมปล่อยให้ทักษิณลอยหน้าลอยตาเหยียบย่ำน้ำใจหัวใจคนไทยอย่างนี้
ผมคิดว่าความเจ็บปวดของมวลชนในครั้งนี้ ไม่ได้มีเฉพาะมวลชนกลุ่มกปปส.หรือคนเสื้อเหลือง แต่มวลชนกลุ่มนปช. หรือคนเสื้อแดง ก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่อาจจะเจ็บปวดน้อยกว่า เพราะคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยที่ฝ่ายตัวเชียร์ ได้เข้ายึดกุมอำนาจรัฐ เป็นแกนนำรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ในขณะที่มวลชนคนเสื้อเหลือง กลุ่มกปปส.นั่งดูตาปริบๆ เมื่อเห็นคุณทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเย้ยฟ้าท้าดินแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของคุณทักษิณ ไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ และตีกอล์ฟกลับแกนนำนักการเมือง และกลุ่มทุนใหญ่ด้านพลังงาน ท่ามกลางการห้อมล้อมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวด และคับแค้นในหัวใจ มีหลายคนร้องเพลงด้วยความเจ็บปวดในใจว่า ”ความคับแค้นครั้งนี้ จงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้กล้าแกร่ง ดุจดังพายุโหม เราจะลุกขึ้นสู้ เราจะยอมสู้ตาย แม้ชีวาจะวาย เราก็ยอมพลี“
ผมเชื่อว่าถ้าความเจ็บปวด ความคับแค้นของประชาชนที่มีขีดจำกัด เมื่อได้สะสมมากขึ้น สักวันหนึ่งก็จะระเบิดออกมา เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกันอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตาศึกซักฟอก ไม่เอ่ยชื่อก็รู้ว่าใคร ตามต่อ “ฝ่ายค้าน” ขอเวลา จะสมหวังดั่งใจหรือไม่
เริ่มจะมีความชัดเจนขึ้นสำหรับเวทีอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือที่รู้จักกันว่า เวทีซักฟอกรัฐบาล เพราะล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้แก้ญัตติซักฟอก โดยขีดทับชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” และคำว่า "ผู้เป็นบิดา" ออก และเปลี่ยนเป็นคำว่า "บุคคลในครอบครัว" แทน
ถนัดตบจูบ! 'ทักษิณ' บอก 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' อยู่กันแบบนี้ออกรสชาติดี
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 81 สว.ยื่นคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายของคณะ
'ทักษิณ' ชี้สหรัฐฯไม่อัปเดตข้อมูล ประณามไทยส่งอุยกูร์กลับจีน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่าตกใจ
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐอเมริกาจ่องดออกวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย ตอบโต้ผู้เกี่ยวข้องส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ว่า เรื่องนี้เกิดจากสหรัฐฯ ไม่มีข้อมูลที่อัพเ
'ทักษิณ' ยันเดินสายพบมวลชนเสื้อแดง ไม่ได้ปลุกความขัดแย้ง คิดแต่จะสร้างสามัคคี
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพบปะมวลชนในงานเรื่องเล่า “ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน”วันนี้ ว่า
'เพื่อไทย' ไม่ท้วง ฝ่ายค้านใช้ 'บุคคลในครอบครัว' ในญัตติซักฟอก ให้ประธานสภาฯตัดสิน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติฉบับแก้ไขโดยฆ่าชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกและใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” แทน
ฝ่ายค้าน แก้ญัตติซักฟอกแล้ว ขีดชื่อ ‘ทักษิณ’ และ 'ผู้เป็นบิดา' ทิ้ง ใส่ ‘บุคคลในครอบครัว’ แทน
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฉบับแก้ไข ต่อนายวันมูหะมัดนอร์