เเชร์ว่อน! หนังสือเวียน ออส.คนที่ 4 หลังอัยการเมืองคอนถูกจับกุม

1 ส.ค.2567 - จากกรณีป.ป.ช.- ป.ป.ท. นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง จับ นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล อายุ 53 ปี อัยการผู้กลั่นกรอง สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราชมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดี ลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาทนั้น

ในกลุ่มไลน์อัยการหลายกลุ่มได้มีการเเชร์ หนังสือเวียนของ นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ อัยการสูงสุดคนที่ 4 ของประเทศไทย ซึ่งได้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เเละคอยกำชับให้อัยการไทยอย่ารับสินบน โดยหนังสือเวียนดังกล่าวลงวันที่ 17 ก.ย.2544 ความว่า

น้อง ๆ อัยการและธุรการทุกท่าน ตลอดเวลาการรับราชการตั้งแต่วันที่1 มิ.ย.2508 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2544

ในองค์กรอัยการนี้ ผมได้พบเห็นยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำ ในยุครุ่งเรืองผู้ที่เป็นอัยการจะมีความสง่างาม และภาคภูมิใจที่จะประกาศตนเองเป็นอัยการ แต่ในยุคตกต่ำผู้คนในองค์กรนี้ก็ไม่อยากจะประกาศว่าตนเป็นอัยการและความสง่างามก็ดูจะลดลงไป

ยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำขององค์กรนี้แท้ที่จริงแล้วก็เกิดจากผู้คนในองค์กรนี้ทั้งสิ้น บุคคลภายนอกแม้จะมีจิตใจไม่หวังดี อย่างไรก็ไม่อาจทำอะไรแก่องค์กรนี้ได้มากนัก

ในยุคสมัยที่รุ่งเรืองนั้นผู้คนในองค์กรมักจะมีจิตวิญญาณของการเป็นอัยการ กล่าวคือรักองค์กร มุ่งทำนุบำรุงองค์กร ปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร และสามารถเป็นหลักที่มั่นคงในกระบวนการยุติธรรมได้

เเต่ในยุคสมัยที่ตกต่ำ คนบางคนเป็นผู้ที่ทำให้ชื่อเสียงองค์กรเสียหาย ประชาชน เเละสังคมไม่เลื่อมใสศรัทธา เพราะเหตุแห่งความไม่ชื่อสัตย์สุจริต มุ่งแสวงหาช่องทางจะกอบโกยประโยชน์กลับบ้านไปให้ลูกเมีย

ยุคนั้นสมัยนั้น ผู้ที่เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการอย่างแท้จริงจะหม่นหมอง หมดราศี ไม่อยากประกาศตนเพราะชื่อเสียงขององค์กรเสีย

ดังนั้นการกระทำของคนบางคนที่มาอาศัยองค์กรนี้แล้วทุจริต ฉ้อราษฎร์ บังหลวง จึงมิใช่การกระทำของอัยการหากแต่เป็นการกระทำของคนบางคนที่มาอาศัยองค์กรนี้เป็นกาฝากแล้วก็ทิ้งสิ่งปฏิกูลให้พวกที่เป็นอัยการต้องทนอับอาย

คนพวกนี้จึงไม่ต่างจะไรไปจากโจรที่ปล้นชื่อเสียง ศักดิ์ศรี และโอกาสที่อัยการจะได้รับ อาทิ การได้ปรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้ทัดเทียมกับองค์กรอื่นในกระบวนการยุติธรรมและการเป็นอัยการอาวุโส

ในโอกาสที่ผมจะพ้นจากการดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด จึงขอฝากให้ผู้ที่เป็นอัยการด้วยจิตวิญญาณจงช่วยกันจับตามองคนพวกนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วที่เป็นกาฝากมาปะปนในหมู่ของพวกเราชาวอัยการ รัก

ลงชื่อ นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ อัยการสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีรายอักษร นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ อัยการสูงสุด ได้เขียนไว้เมื่อครั้งตรวจเยี่ยม สำนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.44 ความว่า องค์กรอัยการจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำก็ขึ้นอยู่กับบุคลากร ที่เป็นข้าราชการ หากมีบุคลากรที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ส่วนตนมากเท่าใด องค์กรอัยการก็จะตกต่ำเพียงนั้น ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพวกเราที่เป็นอัยการและมีจิตวิญญาณรักองค์กรนี้ ต้องช่วยกันดูผู้ที่แอบแฝงมาใช้ชื่ออัยการแล้วหากินเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือครอบครัว แล้วช่วยกำจัดออกไปโดยเร่งแจ้งให้ผู้มีหน้าที่กำจัดพวกนี้ให้ทราบและอย่าไปคบหากับพวกที่แอบแฝงนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อัยการ' เตือนแก๊งแมวน้ำ ขโมยของผู้ประสบอุทกภัย โทษหนักติดคุกถึง 10 ปี

'โกศลวัฒน์’ อธ.อัยการ เตือนเเก๊งเเมวน้ำลักทรัพย์ตอนเกิดน้ำท่วม ซ้ำเติมชาวบ้านอัตราโทษหนักกว่าเดิมมาก เผย สคช. เตรียมเเผนช่วยชาวบ้านหลังน้ำลด

'สมยศ' กับพวกรวม 8 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาช่วยเหลือคดีบอสอยู่วิทยา

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสอบคำให้การ คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกรวม 8 คน เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อสอบคำให้การตามนัดของศาล

เปิดโปรไฟล์ 'ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ' อัยการสูงสุด คนที่ 19

ประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ได้มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมาตรา 10 แห่ง พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553

ละเอียดยิบ! เปิดคำฟ้อง 'สมยศ' กับพวก เปลี่ยนความเร็วรถ คดีบอส อยู่วิทยา

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบ อัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดี ปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยืนฟ้องพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง กับพวกรวม 8 คน เป็นจำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อท 131 /2567 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา151,157,200,83,86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา123 /1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2563 มาตรา 172,192