
13 ส.ค.2567- ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้บริหารสถานศึกษาหลายระดับ ไม่กล้ายับยั้งหรือสั่งห้ามการกระทำที่ไม่เหมาะสม ด้วยการจัดกิจกรรมบรรยาย ปราศรัย อภิปรายที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือการหมิ่นเกียรติตุลาการที่ตัดสินไม่ถูกใจด้อมส้ม
คงกลัวถูกกล่าวหาว่าเป็นสลิ่ม เป็นไดโนเสาร์ ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย จึงปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นปฏิกษัตริย์นิยมอยู่ในสถานศึกษาอยู่เนืองๆ ทำให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ให้คนตั้งใจจะล้มเจ้าเข้ามาครอบงำเยาวชน
ขาดความกล้าหาญทางจริยธรรม กลัวทัวร์ลงจนหัวหด ทำให้คนจัดกิจกรรมเหิมเกริม เด็กๆถูกครอบงำอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชังชาติ ชังเจ้า เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ชำรุดทรุดโทรมไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่จะล้มล้างสถาบัน
เมื่อเป็นผู้บริหารระดับสูง ก็สมควรที่จะมีวุฒิภาวะ แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรม กล้าที่จะยับยั้งการจัดกิจกรรม หรือการออกแถลงการณ์ใดๆ ในนามของสถาบัน ไม่ให้เกิดขึ้นจนเป็นการทำลายเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
ศิลปาชีพ...ส่งเสริมอาชีพของปวงชน สร้างเศรษฐกิจด้วยคุณค่าแห่งวัฒนธรรม
โครงการศิลปาชีพภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งผลดีอย่างกว้างขวาง
แม้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้ำพระทัยสถิตในใจชนจนนิรันดร์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ขอความร่วมมือไม่ได้แปลว่า ‘บังคับ’
ไม่อยากจะเชื่อว่าในประเทศไทยที่เจริญพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์ พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่ยังประโยชน์ให้แก่ความผาสุกของปวงชน
คุณหนูลาออกไป...เพื่อไทยก็ไม่ฟื้น
คุณหนูหนอคุณหนู น่าจะลาออกไปตั้งแต่ Uncle ปล่อยคลิปแล้ว เพราะเนื้อหาในการสนทนานั้นมันชัดเจนว่าคุณหนูกับ Uncle เป็นพวกเดียวกัน และคุณหนูที่เป็นฝ่ายรัฐบาลอยู่ตรงกันข้ามกับทหาร


