อดีตรองอธิการบดี มธ. ห่วง ‘ภูมิธรรม’ คุมเหล่าทัพ ตัวเร่งรัฐประหารในอนาคตอันใกล้

8 ก.ย..2567-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุว่า ยากจะเดาได้ว่า พรรคเพื่อไทยวางตัวคุณภูมิธรรม เวชยชัย ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยเหตุผลอะไร แต่ที่แน่ก็คือ การทำเช่นนี้เป็นการแสดงความไม่สนใจว่ากองทัพหรือทหารจะรู้สึกอย่างไร หรือจะเรียกว่าเป็นการหยามกองทัพก็คงไม่ผิด ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

การเข้าป่าของนิสิตนักศึกษาทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519  เป็นเรื่องของการที่คนในชาติกลุ่มหนึ่ง มีอุดมการณ์ไม่ตรงกันกับคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งอาจเป็นคนส่วนใหญ่ แบ่งเป็นฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา ผู้ที่มีอุดมการณ์ไปในทางสังคมนิยมหรือกระทั่งคอมมิวนิสต์ ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องหนีเข้าป่า ไปร่วมกับกองทัพปลดแอก ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจับอาวุธต่อสู้กับทหารฝ่ายรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเกิดการสูญเสียด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

คำสั่งที่ 66/2523 ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากพระราชดำริของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ 9 และรับสนองพระราชดำริโดยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ โดยมีพลเอก เชาวลิต ยงใจยุทธและทีมงานของท่าน เป็นผู้ดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ทำให้บรรดานิสิตนักศึกษาที่เข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย รวมทั้งคนอื่นๆสามารถกลับออกมาโดยไม่มีความผิด และได้เรียนต่อจนจบปริญญา หรือกลับมาใช้ชีวิตนอกป่าในฐานะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ทำให้ความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์จนถึงขั้นจับอาวุธต่อสู้กัน ยุติลง

ผู้ที่ออกจากป่าจำนวนหนึ่งยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิม แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อพยายามเปลี่ยนแปลงประเทศเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่อีกจำนวนหนึ่งก็ละทิ้งอุดมการณ์ไปทำงานให้กับนายทุน กลายเป็นพวกทุนนิยมไปเสีย เมื่อนายทุนเข้าสู่การเมือง ตั้งพรรคการเมือง ก็เข้าร่วมกับพรรคการเมืองของนายทุน ทำงานการเมืองให้กับนายทุน คุณภูมิธรรม เวชยชัย ก็เป็นหนึ่งในนั้น

แม้จะถือว่า เวลาผ่านมานานมากแล้ว น่าจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมาได้แล้ว แต่การส่งคุณภูมิธรรมไปนั่งเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพทั้ง 3 เหล่า เหมือนกับเป็นการบอกว่า อำนาจอยู่ที่ฉัน ฉันจะเลือกใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้ ไม่มีใครหยุดฉันได้ ดังนั้นจะไม่ให้มีทหารคนใดเลยมีความรู้สึกไม่ดีต่อเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็มีความรู้สึกไม่สนิทใจที่จะทำงานภายใตัการบังคับบัญชาของคนๆนี้

ลองดูกันต่อไปว่า การส่งคุณภูมิธรรมไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไรบ้าง หวังว่าจะไม่เป็นตัวเร่งให้เกิดการทำรัฐประหารในอนาคตอันใกล้อย่างที่หลายคนกลัวกัน หรือบางคนเรียกร้องกัน เพราะการปัดกวาดบ้านเมืองให้สะอาด ไม่ควรจะต้องใช้การรัฐประหาร เป็นเครื่องมือ แต่ควรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ชนิดที่ผู้ถูกปัดกวาดแทบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กเล็ก' ชี้ปมปราสาทตาควาย หากเจรจาด้วยสันติวิธีไม่สำเร็จ อาจจำเป็นต้องใช้กำลัง

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงปมปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขอยืนยันอีกครั้งว่า ปราสาทตาควาย อยู่ในเขตอธิปไตยไทย

'บิ๊กเล็ก' กร้าว กองทัพจะไม่ยอมแน่นอน ถ้ายังไม่ได้ปราสาทตาควายคืน ใครอยาก 'เปิดด่าน' ไม่ต้องมาคุย

“บิ๊กเล็ก” ซัดเขมรทำผิดอนุสัญญาออตตาวา​-เจนีวา ใช้โบราณสถานตั้งฐานที่มั่นทางทหาร​ รับเข้าใจอินฟูลฯรักชาติ​ ลั่นชีวิตนี้ไม่ขอคุยเรื่องเปิดด่าน

ฝ่ายค้านไม่ต้องตามหา! ‘บิ๊กเล็ก’ สั่ง ‘บิ๊กดุลย์’ แก้ปัญหาโควตาสลากทหารผ่านศึก  

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลขององค์การทหารผ่านศึก (อผศ

รมว.กลาโหม บินมาเลเซีย ประชุม GBC ยันไม่มีเรื่องใดน่ากังวล คุย 4 ข้อตกลง

รมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป สมัยพิเศษ ที่มาเลเซีย ย้ำการเจรจา มุ่งสู่ชายแดนแห่งความสงบ เพื่อพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย

'สีหศักดิ์' มองสวนทาง 'บิ๊กเล็ก' ประชุม JBC-GBC ไทยกัมพูชาจะตกลงกันได้สำเร็จ

นายสีหศักดิ์​ พวงเกตุแก้ว​ รมว.ต่างประเทศ​ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ณัฐพล​ นาค​พาณิชย์​ รมว.กลาโหม​ ระบุหากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม​ไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ไม่ได้ผลก็จะไม่มีการประชุมอีกแล้ว​ว่า​ ตนเชื่อว่าได้ผล