ทันตแพทย์ชื่อดัง ให้แง่คิดว่าด้วย 'สติ' กรณีครม.แพทองธารชูมินิฮาร์ท

8 ก.ย. 2567 - ทันตแพทย์สม สุจีรา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีคณะรัฐมนตรีชวมชุดขาวชูมินิฮาร์ท ขณะถ่ายรูปรวมหมู่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีเนื้อหาดังนี้

“สติ”

มีคำถามว่า ทำไมคนเราต้องฝึกสติด้วย ก็ในเมื่อทุกคนก็มีสติกันอยู่แล้ว ( ถ้าไม่ใช่คนเสียสติ )

....ใช่ พวกเราทุกคนก็มีสติกันอยู่ระดับหนึ่ง จึงมีปัญญา

แต่แน่ใจหรือว่ามีสติตลอดเวลา เอาแค่วันนี้หายใจไปกี่ครั้ง เดินไปกี่ก้าว แต่ละครั้งรับรู้ไหม

ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ต่างไปจากลิงเดิน สุนัขเดิน

การฝึกสติช่วยให้รู้ทันอารมณ์ต่างๆ เช่น เมื่อโกรธ ก็จะรู้ว่ากำลังโกรธ เมื่อรู้ตัวแล้วก็จะยับยั้งอารมณ์โมโห ให้หยุดลง

เหมือนนักมวยที่ฝึกชกกับเป้าหลอก ถามว่า นักมวยจะฝึกชกไปทำไม ก็ในเมื่อทุกคนก็ชกได้อยู่แล้ว

การฝึกชกจะทำให้ไวขึ้น เวลาเจอสถานการณ์จริงบนเวที จะได้สู้กับคู่ต่อสู้ได้

การฝึกสติ จะทำให้ไว เข้มแข็งขึ้น เวลาเจอผัสสะ ทั้งหลาย จะได้ต่อสู้ทัน

คนเราแต่ละคนก็มีกำลังสติไม่เท่ากัน ตามต้นทุนทางจิตที่สั่งสมกันมา

คนที่ฝึกสติไว้หลายภพหลายชาติ เกิดมาอาจมีพรสวรรค์ มีสติสัมปชัญญะที่สูงกว่าคนทั่วไป โดยที่ไม่ต้องฝึก

เราก็เห็นคนแบบนี้มากมายในสังคม

คนกลุ่มนี้ ถึงเขาไม่ฝึกสติ ก็สามารถเอาตัวรอดได้

แต่สำหรับบางคนที่จิตอ่อน กรรมเก่าเยอะ การฝึกสติเป็นเรื่องจำเป็นมาก

>>คำว่า “สติ” ในทางพุทธศาสนาละเอียดลึกซึ้ง กว่าคำว่า สติที่เราได้ยินกันทั่วๆไป

เป็นสติในการระลึกรู้รูปนาม เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีคนหรือสัตว์ ไม่มีเรา

เช่นในการเดิน จะมี 2 สิ่งแยกกันอยู่ คือกายที่กำลังเคลื่อนไหว กับใจที่รู้ที่เห็นอาการเคลื่อนไหวของกาย

สติธรรมดาของมนุษย์หรือสัตว์โลกทั้งหลาย จะรู้สึกตัวว่ากายตัวเองกำลังเคลื่อนไหว แต่ ไม่เคยใช้สติกำหนดที่อาการ

>> สติปัฏฐาน 4 ก็คือการฝึกกำหนดอาการทางกาย ทางใจ ทางจิต และทางธรรม

การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ทางกายภาพ ก็มาจากการกำหนดที่อาการนี่แหละ

อาร์คิมิดีส ตะโกนร้องยูเรก้าทันที ที่กำหนดเห็นการไหลของน้ำออกจากอ่าง ขณะที่เขาจุ่มตัวลงไป

คนเป็นล้านก่อนหน้านั้นที่เคยลงอ่าง ทำไมไม่เกิดปัญญา ก็เพราะไปดูที่รูป คือน้ำเท่านั้น ไม่ดูที่อาการ

ก็เช่นเดียวกับ คนเห็นลูกแอปเปิ้ลตกหลายร้อยล้านคน ทำไมจึงมีนิวตันคนเดียวที่เห็นอาการตก

แมกเวลล์ พบอาการที่สนามไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นสนามแม่เหล็ก จึงค้นพบ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ไอน์สไตน์เห็นอาการที่แสงวิ่งชนอิเล็กตรอนจนกระเด็น เลยพบว่า แสงมีคุณสมบัติเป็นอนุภาค ปฏิวัติโลกเข้าสู่ยุคดิจิตอล

>>>ลองสังเกต รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่กระทบใจดูสิ แล้วจะพบสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งกว่าไอน์สไตน์

….. การฝึกดูอาการทางใจ เด็ดกว่าทางวิทยาศาสตร์มาก .......

ถ้ากำหนดดีๆ ถึงขนาดหยั่งรู้ทั่วจักรวาลเลยทีเดียว

....เพราะจักรวาลเกิดจากจิต ถ้าเข้าใจจิต ก็เข้าใจจักรวาล.......

>>> เห็นอาการที่นายก นำทีมคณะรัฐมนตรีใส่ชุดขาว ทำท่ามินิฮาร์ท

แล้วเกิดญาณหยั่งรู้อนาคตเลย

อาจอยู่ไม่ถึงหกเดือน

ขาดสติกันทั้งคณะ (อ้อคนยืนมุมขวาบนยังพอมีสติ)

....ครูเงาะช่วยหน่อยเถอะ.....

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก ทันตแพทย์สม สุจีรา