'กมธ.ปราบโกง' ลุยสอบมิจฉาชีพแฝงตัวในสภาฯ ฉ้อโกงประชาชนเสียหาย 8 ล้าน

17 ก.ย.2567 - ที่รัฐสภา นายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย 2 ราย จากจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพฯ ที่ถูกเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ(กมธ.)กระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ใช้ความน่าเชื่อถือในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งแอบอ้างผู้เสียหาย ว่าสามารถให้งานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย(มท.)ได้ โดยหากใครต้องการงานจะต้องวางเงินประกัน หรือซื้อสินค้าจากบุคคลนี้

นายปรีติ กล่าวอีกว่า เลขานุการฯ คนดังกล่าว เป็นบุคคลภายนอกที่สส.แต่งตั้งให้เข้ามาช่วยงาน และมีตำแหน่งในสมาคมกีฬา มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการแอบอ้างหนังสือของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แนบไปด้วยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ในการเจรจากับผู้เสียหาย ซึ่งหน่วยงานราชการดังกล่าวสอดคล้องกับตำแหน่งที่ เลขานุการฯคนดังกล่าวเป็นอยู่ และจากการตรวจสอบหนังสือ ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบื้องต้น ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นคนเซ็นหนังสือ และไม่ทราบว่าเป็นหนังสือจริงหรือไม่

นายปรีติ กล่าวว่า ผู้เสียหาย 2 จาก 3 ราย พบว่ามีมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 8 ล้านบาท รายแรกเป็นโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางขุนเทียน ถูกหลอกให้วางเงินประกันกว่า 4 ล้านบาท เพื่อจะได้รับงานในการตรวจสุขภาพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วภูมิภาค ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ประกอบการค้า ย่านนนทบุรี ถูกหลอกให้ซื้อลูกฟุตบอล และทำเสื้อกีฬา โดยผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงได้แจ้งความฐานฉ้อโกง ทำให้เลขานุการฯคนดังกล่าว ซึ่งมีความรู้เรื่องข้อกฎหมายเป็นอย่างดีไปเจรจาขอยืดเวลา ในการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย โดยใช้เทคนิคจ่ายคืนเพียงบางส่วน หรือจ่ายคืนเป็นเช็ค แต่เช็คเด้ง จึงไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ เพราะ มีการสลักหลังว่าเป็นเช็คจ่ายเพื่อการค้ำประกันเท่านั้น หรืออ้างว่ากำลังนำบ้านไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย โดยมีวัตถุประสงค์ให้คดีหยุดชะงักลง หรือผู้เสียหายไม่ดำเนินการต่อ เนื่องจากคดีฉ้อโกง เป็นความผิดส่วนตัว ซึ่งสามารถยอมความได้

“ผู้ถูกร้องเรียนคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวง ผู้เสียหายรายใหม่ ไปเรื่อยๆเพื่อนำเงินมาจ่ายผู้เสียหายรายเดิม จึงขอให้ประชาชนที่พบว่ามีผู้ที่เอาตำแหน่งในกรรมาธิการ ไม่ว่าจะเป็นคณะใดไปแอบอ้างเพื่อขายงาน หรือเรียกรับเงิน อันเป็นการทุจริต ขอให้แจ้งมายัง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ โดยตรง หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันกำจัดมิจฉาชีพ ใส่สูทที่แอบแฝงอยู่ในสภาฯแห่งนี้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ถูกร้องเรียนคนนี้เคยอยู่ในกรรมาธิการหลายคณะ และมีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ ที่มีประวัติเยอะมาก ครั้งนี้มีผู้เสียหายเพียง 2 ราย ทราบว่ามีอีก 3 รายที่ไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม จึงถือว่าเป็นมิจฉาชีพที่ทำไว้เยอะมากในการฉ้อโกงประชาชน"นายปรีติ กล่าว

นายปรีติ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 18 ก.ย. ตนจะเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ให้ไปตรวจสอบ กรรมาธิการที่ถูกกล่าวอ้าง ในการแต่งตั้งบุคคลคนนี้ว่ามีจริงหรือไม่ และได้มอบหมายให้เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการคนดังกล่าวไปดำเนินการอะไรบ้าง พร้อมสอบถามไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้ยืนยันหนังสือที่แอบอ้าง หลอกลวงผู้เสียหาย เป็นฉบับจริงหรือไม่ เพราะมีข้อความลักษณะว่าสนับสนุนสมาคมกีฬา ให้ได้รับงาน นอกจากนี้จะสอบถามความคืบหน้าของคดีว่ามีความคืบหน้าอย่างไร เพราะทราบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาถือเป็นผู้กว้างขวางในย่านมีนบุรี จึงอาจทำให้คดีล่าช้าได้ รวมถึงต้องตรวจสอบไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ว่ามีการแจ้งความลักษณะนี้ กับผู้ถูกร้องเรียนไว้ที่ใดบ้าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.พร้อมสอบทุกมิติคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย เผยหาก 'ษิทรา' ไม่มีทนายสามารถซักค้านเองได้

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ

โกงสนั่น! ผู้ใหญ่บ้าน-ทนาย-ขรก. ร่วมหลอกขายที่ดินเขากระทิง เสียหายเกือบ 40 ล้าน

ที่ห้องสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี น.ส.ลำไย ซ่อมแก้ว อายุ 45 ปี ภรรยา นักโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนชัย ชูรัตน์ ทนายความ นายธเนศ ทวิภมรกุลวงศ์ ทนายความ และครอบครัว ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน

'เมียตั้ม ษิทรา' ร่ำไห้ ศาลไม่ให้ประกัน ยกเหตุผลสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่ นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา

ศาลให้ประกัน พี่เมียทนายตั้ม วงเงิน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ

ภายหลังศาลรับฝากขังนางสาวปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขังศาลคำร้องพร้อมหลักทรัพย์

ละเอียดยิบ! เปิดพฤติการณ์ พี่เมีย 'ทนายตั้ม' สมคบฟอกเงิน โกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัว นางสาวปิณฑิรา หรือดาวการวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันฟอกเงิน

คุมตัวพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ฝากขังศาล ตร.ค้านประกัน เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ในคดีเงิน 39 ล้านบาทของ