
14 ต.ค. 2567 – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “ทักษิณจะถือว่าล้มล้างการปกครองหรือไม่?” โดยระบุว่า
การที่คุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โปรดวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ในคำร้องมีทั้งหมด 6 ประเด็น
สิ่งที่ประชาชนต้องติดตาม หลังจากนี้ไปคือ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งรับคำร้องหารือไม่ ถ้าไม่รับคำร้องทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ารับคำร้องน่าจะสนุกในหลายไปประเด็น
ในความเห็นส่วนตัวผม ในฐานะที่อยู่ในวงการเมือง ไม่ใช่นักกฎหมาย ผมวิเคราะห์คำร้องของคุณธีรยุทธ เพื่อให้พี่น้องเข้าใจการเมืองเรื่องนี้ ตามคำร้องมีทั้งสิ้น 6 ประเด็น ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างไร
ตามความเห็นผม การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องนี้หรือไม่ น้ำหนักอยู่ที่พฤติกรรมของนายทักษิณ ตามคำร้องประเด็นที่ 1 ซึ่งสรุปได้คือ
กรณีที่ 1 นายทักษิณได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี ใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือ ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการรัฐบาล ผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ตัวเอง
ระหว่างต้องโทษจำคุกอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด
เรื่องนี้มีการร้องเรียนผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มานานมากแล้ว และคณะกรรมการฯสิทธิมนุษยชนก็มีรายงานออกมา ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง เท่ากับว่า การกระทำแบบนี้ ไม่ได้สร้างความเสื่อมเสียต่อสถานบัน ไม่เป็นการให้เกิดการเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกหน่อยนักการเมืองที่มีอำนาจ ก็จะใช้อำนาจเลียนแบบ
ลึกๆ แล้วผมหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะรับคำร้องของคุณธีรยุทธ โดยมีน้ำหนักจากคำร้อง พฤติกรรมของนายทักษิณประเด็นที่ 1 เพื่อมีคำวินิจฉัยออกมา ส่วนประเด็นที่ 2 ถึงประเด็นที่ 6 น่าจะเป็ผลพลอยได้ และถูกสืบพยาน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่คุณธีรยุทธร้อยเรียง ผมจำได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัย ในคดีล้มล้างการปกครองฯ สมัยสามนิ้วรุกหนักไว้ว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขประกอบไปด้วยการปกครองระบอบประชาธิปไตย กับ สถาบันพระมหากษัตริย์ คำร้องประเด็นที่ 1 เป็นเรื่องของการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย นำไปสู่การล้มล้างสถาบันฯ
ส่วนคำร้องประเด็นที่ 2 ถึงประเด็นที่ 6 เป็นคำร้องที่อ้างอิงพฤติกรรมของนายทักษิณครอบครอง ครอบงำพรรคเพื่อไทย ซึ่งซือว่าพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการครอบครอง ครอบงำพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ก็คือการทำลายพรรคการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันหลักที่สำคัญ ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย
เมื่อพิจารณาการร้อยเรียง เชื่อมโยงพฤติกรรมทั้งหมด ตั้งแต่ประเด็นที่ร้อง 1 ถึง 6 จึงครบองค์ประกอบ การเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทั้งระบบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ นำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นี่คือการวิเคราะห์คำร้องของคุณธีรยุทธในมุมมองของผมเอง ดังนั้นด่านแรกที่ต้องผ่านคือ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งผมแอบหวังเองว่าน่าจะรับและน้ำหนักอยู่ที่ประเด็นที่ 1
ส่วนจะไขกุญแจไปสู่ประเด็นที่ 2 ถึง 6 ได้หรือไม่ อยู่ที่พยานหลักฐาน แต่อย่างน้อยพี่น้องที่ไม่ค่อยเข้าใจ จะได้ติดตามการเมืองคดีนี้ ได้เข้าใจมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
‘วรงค์’ จี้เลิกหลักสูตรผู้บริหาร ชี้กลายเป็นวงเชื่อมผลประโยชน์ไม่ใช่พัฒนาประเทศ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ควรยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารจากหลายภาคส่วน
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


