มาแล้ว ผลงานโบว์แดงแรก 'รัฐบาลแพทองธาร'

เปิดผลสำรวจ ประชาชนพอใจ รัฐบาลบริหารจัดการท่องเที่ยว พุ่ง 61.2% พร้อมเทเสียงคาดการท่องเที่ยวปีนี้โตกว่าปีก่อน หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง  

21 ต.ค.2567 – ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์มกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในวันที่ 18 ก.ย. 2567 โดยมีผู้สำรวจจำนวน 1,500 ราย จากทั่วภูมิภาคพร้อมทั้งได้สอบถามกับผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ถึงเรื่อง “นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว”

โดยจากการสำรวจประชาชนถึงความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดปัจจุบันเพียงใด พบว่าพอใจ 61.2% แบ่งเป็น พอใจมาก 32.5% พอใจ 28.7% ขณะเดียวกันผู้ให้สำรวจยังให้ความคิดเห็นว่ามีความพอใจระดับกลาง 20.4% ไม่พอใจ 12.3 % และไม่พอใจมาก 6.1%

ผศ.ดร.สานิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้สอบถามถึงการบริหารจัดการท่องเที่ยวไทยในปี 2567 เป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา พบมีความคิดเห็นว่าดีขึ้น 55.7% เหมือนเดิม 22.8% และ แย่ลง 21.5% อีกทั้งยังถามความคิดเห็นของประชาชนด้วยว่า ภาคการท่องเที่ยวมีส่วนช่วยเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด พบว่ามีส่วนช่วยเศรษฐกิจในระดับมากที่สุด 35.4% ระดับมาก 27.8% ระดับปานกลาง 18.3% ระดับน้อย 12.6% และน้อยที่สุด 5.9%

สำหรับความคิดเห็นผู้สำรวจภาคประชาชนถึงประเด็น “มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยใดที่มีประโยชน์ต่อการดึงนักท่องเทียวชาติมากที่สุด” พบว่ามาตรการที่มีประโยชน์มากสุดคือ การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ และทำประกันนักท่องเที่ยวทุกคนในวงเงิน 1 ล้านบาท 27.3% การส่งเสริมการจัดอีเวนท์ให้การท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี เช่น ผลักดันเทศกาลลอยกระทง เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลระดับโลก 16.8% การเร่งพัฒนาสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน และสร้างความแตกต่าง 12.1% 

การเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังในเมืองรองที่มีศักยภาพสูง 10.2% สร้างความมั่นใจในการเดินทางผ่านรูปแบบการทำหนังโฆษณา และการดึง Influencer 8% การประสานกับเอเย่นต์ และบริษัทนำเที่ยว ให้เสนอแพ็คเกจและโปรโมชั่นที่ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6% ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติ  93 ประเทศ/เขตแดน 5.6% ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Entertainment Hub ในเอเชีย 5.3% จัดตั้ง Online Crisis Management โดยจะมีทีมทำหน้าที่มอนิเตอร์ข่าวสารเกี่ยวกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย 5.1% และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังในเมืองรองที่มีศักยภาพสูง 4.2%

ผศ.ดร.สานิต ยังได้สอบถามถึง “โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในปี 2567 โครงการใดมีประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยมากที่สุด” พบว่าโครงการที่มีส่วนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยมากที่สุดคือโครงการ Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว 22.7% มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง (เมืองน่าเที่ยว) 16.3% โครงการการทำตลาดการท่องเที่ยวแพลตฟอร์มออนไลน์ 10.7% โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดด้วยการจัดกิจกรรมบนอัตลักษณ์ถิ่น “มหกรรมเสน่ห์ไทย” 10.1% โครงการเที่ยวกับบัสทัวร์ทั่วไทย 2567 9.5% โครงการ ททท. 999 ไทยเที่ยวไทย Tourism Department Store งานไทยเที่ยวไทย 8.7%

 โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges  8.1% โครงการ Amazing Green Fest 2024 7.6% และโครงการ Amazing Thailand Passion Ambassador ร้อยละ 6.3% ส่วนของด้านผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ให้ความเห็นว่า นโยบายการท่องเที่ยวมีส่วนช่วยให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมฟื้นตัวจนสถานการณ์เทียบเท่าก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19.



เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

'ภูมิธรรม' ห่วง 4 ลูกเรือไทย สั่งดูแลครอบครัว 'บัวแก้ว' นัดเจรจาเมียนมา 19 ธ.ค.

'ภูมิธรรม' ห่วงลูกเรือคนไทย 4 คน ที่ถูกคุมตัวอยู่จังหวัดเกาะสอง สั่งเร่งประสานช่วยเหลือครอบครัวใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ นัดหารือฝ่ายเมียนมา 19 ธ.ค.นี้

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' ของไทย ไม่บ้ายกให้กัมพูชา จ่อติวเข้ม สส. แจงปชช.

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' เป็นของไทย โต้เฟกนิวส์ใช้เอไอปล่อยข่าวมั่ว ชี้ใครจะบ้ายกให้ เตรียมติว สส. เพื่อไทย แจงประชาชนถึงที่มา MOU 44

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี

รัฐบาลชวน 'ครู-นร.' ลงทะเบียน 'ซิมพร้อมเรียน' ใช้เน็ตฟรี

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)