กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค แนะ 'จิราพร' ย้ายเทวดา สคบ. หวั่นได้ผลสอบไม่ตรงข้อเท็จจริง

'ประเสริฐพงษ์' แนะ 'จิราพร' สั่งย้าย 'เทวดา สคบ.' ก่อน เกรงได้ผลสอบไม่ตรงข้อเท็จจริง ย้ำ ไม่เชื่อมั่น 'ดีเอสไอ' ทำคดีใหญ่ เหตุที่เคยร้องไปยังถูกดอง พร้อมจ่อยื่นญัตติด่วนวันนี้

24 ต.ค.2567 - ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ แถลงถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งทราบว่าเมื่อวัน 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ที่ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์

โดยนายประเสริฐพงษ์ กล่าวถึงนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า มีปรากฏข้อเท็จจริงที่อาจจะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะหากติดตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ หรือแม้กระทั่งในศาล กรณีที่เรื่องเหล่านี้ไปเกี่ยวโยงกับบุคลากรในสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งอยู่ภายใต้การสังกัดของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น

หากไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายไหน บุคคลไหน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน ฝ่ายจดทะเบียน หรือฝ่ายกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องใน สคบ. จะต้องมีการโยกย้าย เพราะถ้าท่านเคยได้ยินสำนวนว่า พยาน หรือบุคคลเหล่านี้ อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้สูญเสียข้อมูลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนกังวลมากว่า ภายใน สคบ. เมื่อไม่มีการโยกย้ายฝ่ายที่รับผิดชอบดูแลข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจดทะเบียนของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป อยากมีการทำลายหลักฐานหรือไม่ หรือจะมีการโยกย้ายข้อมูลหลักฐาน ซึ่งไม่ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้องต่อคณะกรรมการฯ หรือไม่

เนื่องจากในฐานะที่ตนเคยข้าราชการเก่า ตนรู้ว่ากระบวนการเหล่านี้ จะมีการทำลายข้อมูลหลักฐานภายใน สคบ.ได้ และที่สำคัญจากการที่คณะกรรมาธิการฯ ก็ได้มีการพูดถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเรากลัวว่า ถ้ามีการโอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เกรงว่าจะมีการบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง หรือให้การช่วยเหลือกับผู้กระทำผิดหรือไม่

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เรายังไม่มั่นใจว่า ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมาดูแลงานของดิไอคอน เราเชื่อว่า ข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะขนาดเรื่องเล็กๆ ที่ตนเคยร้องเรียนเรื่องวินัย มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน ก็ยังถ่วงเรื่อง ก็ยังช่วยเหลือกัน องค์กรกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นองค์กรที่ประชาชนให้ความเชื่อถือเชื่อมั่น ณ วันนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบไปที่ตนเลย

"ถ้ารัฐบาลสนใจ เอาใจใส่เรื่องนี้ ควรทำตามสิ่งที่ผมแนะนำ ด้วยโยกย้าย หรือมีโอกาสที่จะ เปลี่ยนแปลงให้คนที่ดูแลข้อมูล ยืนยันว่า ไม่ใช่แทรกแซง แต่ผมมาบอกข้อมูลให้ท่านรัฐมนตรีทราบ และมาบอกข้อมูลให้ผู้ดูแลว่า ถ้าล่าช้าไปกว่านี้ อะไรจะเกิดขึ้น เพราะคนที่เสียหาย คือพี่น้องประชาชน" นายประเสริฐพงษ์ กล่าว

ด้าน นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กล่าวเสริมว่า ในวันนี้พรรคประชาชนจะมีญัตติด่วนด้วยวาจาที่เกี่ยวข้องกับการทำแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีพระราชบัญญัติ และพระราชกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการคุยทั้งเรื่องของการทำแชร์ลูกโซ์ว่า มีผลประโยชน์ และใครที่อยู่เบื้องหลัง โดยเราทีมงานของพวกเราพร้อมที่จะอภิปราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พยานฝั่งดิไอคอน ร้อง 'กมธ.ความมั่นคง' หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้เสียหายและพยานที่ได้รับความเดือดร้อน จากการอายัดทรัพย์โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความผิดที่ถูกกล่าวหา กรณี บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป เข้ายื่นหนังสือถึง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ

ศาลรับฟ้อง 'บิ๊กป้อม' ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 'สิระ' เรียก 50 ล้าน

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.ได้มอบอำนาจให้ตน ให้ทนายความ ฟ้อง

'แทนคุณ' ไม่สะท้าน 'ฟิล์ม' ขู่ฟ้อง โวข้อมูลเพียบหักล้างได้หมด พร้อมฟ้องกลับ

'อี้ แทนคุณ' ไม่สะท้าน 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' เตรียมฟ้อง ลั่นกุมความลับอีกหลายเรื่อง พร้อมฟ้องกลับ โวข้อมูลไหลมาเยอะมาก หักล้างได้หมด

‘จิราพร' นำ สคบ. ถก CIB จัดการธุรกิจหลอกลวงประชาชน

“จิราพร” นำ สคบ. หารือผู้บัญชาการสอบสวนกลาง บูรณาการป้องกันและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการทำธุรกิจหลอกลวงประชาชน หรือธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่

'ฟิล์ม รัฐภูมิ' พกมั่นใจเต็มร้อย ควง 'ทนายประมาณ' รับข้อหากองปราบ

'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ควง 'ทนายประมาณ' โผล่กองปราบ รับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์-หมิ่น คลิปเสียงเรียกรับเงินบอสพอล 20 ล้าน

เปิดคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกัน 'สามารถ' ชี้พฤติการณ์สมคบกันฟอกเงิน คดีฉ้อโกง

ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตสมาชิกและรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5(1),(3) มาตรา 9