เมื่อหลงตัวนึกว่ายิ่งใหญ่ ‘จตุพร’ ยุส่งจะทำอะไรก็ทำเลย รีบตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ อย่ารอช้าเร่งเจรจาแบ่งประโยชน์พลังงานก่อนแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเลย อยากพูดแสดงไม่ยี่หระใครก็ทำ เตือนคนยิ่งใหญ่คุ้มครองใครไม่ได้ มี รมต.ติดคุกก็มาก ท้ามาสู้กันด้วยความจริงอย่าไปใช้วิถีอำมหิตกดดันองค์กรอื่น
11 พ.ย.2567-นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์โดยยุส่งทักษิณ ชินวัตร ซึ่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยอากัปกิริยาบ่งบอกพฤติกรรมและคำพูดตลก สะท้อนถึงไม่ใส่ใจความรู้สึกประชาชนเพราะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ดังนั้นถ้ายิ่งใหญ่จริง อยากจะทำอะไรก็รีบทำตามความต้องการได้เลย
“อยากให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทสไทย (บอร์ดแบงก์ชาติ) เมื่อยิ่งใหญ่ก็ตั้งเลย จะเกรงใจใครทำไม เอากันให้พอเลย และอย่าเลื่อนการสรรหาอีก ขอให้ตัดสินใจในการประชุมวันที่ 10 พ.ย.เลย ดังนั้น เมื่อคิดว่าตัวเองใหญ่ขนาดนี้แล้ว ใครจะมาขวางได้ ไม่ว่า 4 อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ นักวิชาการ ประชาชนก็ยากจะขวางความอยากของผู้ยิ่งใหญ่ได้”
อีกทั้งถามว่า ถ้าทักษิณ ยิ่งใหญ่จริงแล้ว ทำไมข้าราชการกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลังจะติดคุกจำนวนมาก มีทั้งรองนายกฯ 3 คน และอีกรัฐมนตรีหลายคนต้องเข้าคุก ดังนั้น เมื่อคิดว่าใหญ่จริงก็อย่ายี่หระอะไร อยากทำอะไรก็ทำเลย
นายจตุพร กล่าวว่า พฤติกรรมความยิ่งใหญ่ของทักษิณนั้น แสดงให้เห็นตั้งแต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ขอเวชระเบียนผู้ป่วยถึง 3 ครั้ง ก็ไม่ได้ และยังไม่มีปัญญาตรวจสอบการทำหน้าที่ของแพทย์และเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่สำคัญเวลาผ่านเลยมาเป็นปี จึงรู้ว่า คนใช้ดุลพินิจส่งทักษิณ มา รพ.ตำรวจ เป็นพยาบาลเรือนจำ สิ่งนี้สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ที่เหลือเกินแล้ว
“เมื่อแต่ละส่วนจะวางแผนช่วยกันแล้ว ก็ทำไปเลย อย่าไปสนใจ หากเชื่อว่าจะคุ้มครองกลาหัวกันไปได้ตลอดก็ทำเลย บ้านเมืองนี้เป็นของคุณนี่ ทำอะไรได้ก็ทำไป เริ่มตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติเลย และอย่าเลื่อนอีก เพื่อรีบนำชื่อเข้า ครม. เลย”
ส่วนเกาะกูดนั้น นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยพยายามชักแม่น้ำทั้ง 5 มาปลุกปั่น บิดเบือน กล่าวร้าย ยัดเยียดให้ผู้เห็นต่างเป็นพวกคลั่งชาติ ดังนั้น ก็เช่นกัน เมื่อคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่แล้ว รีบใช้ MOU 44 เจรจาตกลงแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันแบบ 50:50 ให้เรียบร้อย เพราะถ้าเก่งและยิ่งใหญ่จะทำอะไรก็ได้แล้ว ก็ทำเลย
อย่างไรก็ตาม เกาะกูดคนไทยรู้อย่างชัดเจนว่า เป็นของไทย แต่เสียงเตือนว่า หากเจรจาแบ่งผลประโยชน์พลังงานกันก่อน จะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนทับซ้อนใต้ทะเลในอนาคต เหมือนกับกรณีปราสาทพระวิหารที่ทุกรัฐบาลยืนยันเป็นของไทย แต่แล้วต้องเสียไปให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา
นายจตุพร กล่าวว่า อาการของรัฐบาลเพื่อไทยวันนี้ประหลาด หนีและไม่พูดถึงกลุ่มทุนเชฟรอนที่ได้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานใต้ทะเลที่เป็นเขตทับซ้อนกัน ส่วนประเทศได้แค่ค่าภาคหลวงเท่านั้น แทนที่จะเลือกรักษาผลประโยชน์ของชาติกลับมาปลุกปั่นสร้างกระแสเกาะกูดเป็นของไทยเพื่อโจมตีใส่ร้ายคนเห็นต่างเป็นพวกคลั่งชาติที่พยายามปกป้องพื้นที่ทับซ้อนใต้ทะเล
“การแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน 50:50 จะยากอะไรก็ตกลงเขตแดนให้จบก่อนจึงเจรจาผลประโยชน์พลังงาน พร้อมเปิดและแก้สัญญาสัมปทานกับเชฟรอนใหม่ เมื่อเขตแดนยังไม่จบแล้วจะมาแบ่งผลประโยชน์กันได้อย่างไง เป็นสมบัติบ้านคุณเหรอ”
อีกทั้งกล่าวว่า ศาล รธน จะรับพิจารณาคำร้อง 6 ข้อของนายธียุทธ สุวรรณเกษร ถ้าอาจจะหรือยังไม่รับในวันที่ 13 พ.ย.นี้ ก็คงเลื่อนไปอีกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ศาล รธน. ต้องรับไว้พิจารณา เพราะคำร้องข้อที่ 1 กรณีทักษิณ ไม่ยอมรับโทษ 1 ปีโดยไปนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งเป็นการขัดพระบรมราชโอกงการลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี ที่ทักษิณยอมรับว่า ได้กระทำผิดในข้อหาทุจริงจริง แต่ได้สำนึกแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้องค์กรตรวจสอบอื่นๆ ไม่ให้ความสำคัญกับคำร้องข้อที่ 1 แต่ข้อนี้ตนเห็นว่า คงเข้าข่ายหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถึงที่สุดก็เป็นดุลพินิจของศาล รธน.
ส่วน วันที่ 11 พ.ย.นี้ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ครบกำหนดส่งรายงานพิจารณาคำร้องของนายธีรยุทธ ให้ศาล รธน. โดยนายจตุพร กล่าวว่า คงไม่มีผลอะไรให้ ศาล รธน. พิจารณาเปลี่ยนแปลงคำร้องได้ แต่จะรับรู้ว่า การพิจารณาของ อสส.จะเป็นไปตามข่าวลือการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศหรือเพื่อใคร เพราะความลับไม่มีในโลก
นายจตุพร กล่าวถึงผู้ยิ่งใหญ่บ่งการประเทศแทรกแซงการทำหน้าที่สื่อมวลชนว่า การบันทึกเทปรายการของนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ถูกถอดออกอากาศและยังปลดให้พ้นจากช่องทีวีด้วย เพราะถูกผู้ยิ่งใหญ่มากด้วยรังสีอำมหิตกดดันสื่อห้ามเผยแพร่ความเห็น
อีกทั้งกล่าวว่า วิธีการกดดัน ด้วยลูกไม้ตื้นๆ อยู่ที่งบประมาณจากโครงการของรัฐที่จะลงพื้นที่ต่างๆ ยุคนี้วิธีการแบบนี้คุณคิดว่าจะปิดเสียงวิจารณ์ได้เหรอ คุณเคยยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่ใช่เหรอ ส่วนตนไม่ใช่คนหิวแสง ทุกอย่างกลับมาอยู่สถานะเดิมได้ไม่มีปัญหา ตนมานั่งจัดรายการที่เดิมก็จะยากอะไร
“เมื่อคิดเป็นคนยิ่งใหญ่ ถ้าล็อบบี้ในสิ่งต่างๆ ได้ ก็ทำเลย เมื่อบ้านเมืองเป็นของคุณก็ทำเลย ถ้าคุณคิดว่ามันชนะ แต่ผมเห็นว่าที่คุณทำแบบนี้ทุกครั้ง แพ้ทุกครัง เอาตัวไม่รอดทุกครั้ง หัวซุกหัวซุนทุกครั้ง ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเรื่อง ผมต้องมายืนแถวหน้าจนสะบักสะบอม ถูกจับขังคุก แต่มาวันนี้กลับมาใช้วิธีนี้กับผม ถ้าคุณมีความจริงอยู่จริง ก็มาสู้ด้วยความจริงกันเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า การพยายามให้ข้ามปัญหาชั้น 14 นั้น มันควรข้ามกันได้ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นกระบวนการยุติธรรม และเป็นพระบรมราชโองการฯ จะก้าวข้ามได้ด้วยหรือ ไม่ใช่อะไรสู้ไม่ได้ก็ข้ามไปเอาเรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยยอมให้ทักษิณดูแคลน ด้วยการพูดถึงแกนนำพรรคร่วมถูกเรียกตัวเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าว่า ไปกินมาม่า เพราะมาม่าอะไร ตอบแบบนี้แสดงถึงความไม่ยี่หระ ไม่ให้เกียรติประชาชน และองค์กรตรวจสอบต่างๆ ทั้งศาล รธน.ยังไม่รู้สึกรู้สากับการสัมภาษณ์เช่นนี้เลยหรืออย่างไร
อีกทั้งกล่าวว่า วันนี้ดูเหมือนพรรคร่วมรัฐบาลรวมตัวกันได้ แต่พรรคเหล่านั้นอยู่ในบริบทที่ไม่สบายใจต่อกัน เพราะทุกคนเห็นกระดานการเมืองข้างหน้า หากจมหัวจมท้ายก็อาจจะเป็นเหมือน พรรคชาติไทยกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ อาจจะถูกกันเป็นพยานว่าไปกินมาม่ากันจริงหรือไม่
“ผมไม่เห็นว่าอาการแสดงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ (ของทักษิณ) จะน่ากลัวเลย ส่วนประชาชนนาทีต้องรอด้วยใจเย็นๆ ติดตามข่าวสาร ถ้าวันไหนทนไม่ได้ก็คอยว่ากัน แต่ในซีกรัฐบาลอยากทำอะไรก็ทำเลย จะตั้ง ประธานบอร์ดแบงก์ชาติก็เอาเลย แลนด์บริดจ์ 99 ปี ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ได้แจกก็รีบแจก และเรื่องบ่อนคาสิโน ซึ่งล้วนเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น คนที่คิดถึงชาติบ้านเมืองคงยอมกันไม่ได้ และคงได้เวลาแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘แม้ว’ ปลุกเรตติ้งผ่านสนาม อบจ. ‘ศรีสะเกษ’ เดือด พท.รุมทึ้งแชมป์เก่า
ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายก อบจ. หนนี้ เข้มข้นกว่าหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะครั้งนี้ตัวละครสำคัญทางการเมืองอย่าง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยออกโรงเอง
'จตุพร' ลั่นถ้ามั่นใจก็แบ่งประโยชน์ 50:50 เลย เชื่อ 'กิตติรัตน์' วืดเข้าครม. รัฐบาลลังเล
'จตุพร' ท้าอำนาจเอาแต่ได้ ลั่นถ้ามั่นใจก็แบ่งประโยชน์ 50:50 เลย เอาตามลูกพี่สบายใจ แล้วจะได้วัดกัน ส่วน 'กิตติรัตน์' วืดเข้าครม. เชื่อรัฐบาลลังเล หวั่นเป็นปัญหาหัวเชื้อคนค้านขย่ม แม้กฤษฎีการะบุคุณสมบัติไม่เข้าข่ายข้าราชการการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้อ้างในศาล รธน.จะชนะทุกกรณีไป
เตือน 'ยิ่งลักษณ์' เลือกกลับไทยแบบพี่ชาย ยิ่งทำให้อารมณ์คนไทยพลุกพล่านระอุขึ้น
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้รับพักโทษคดีจำนำข้าวนั้น กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์
'เลขาฯกฤษฎีกา' เผย 'คลัง' ไม่ส่งชื่อ ‘กิตติรัตน์‘ ให้ตรวจคุณสมบัติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงการคลัง ได้มีการส่งชื่อ นายกิตติรั
จับตา! เพื่อไทยเสนอชื่อ 'กิตติรัตน์' เข้าครม. พรรคร่วมรัฐบาลไม่สบายใจ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ช
ระทึก!'ทักษิณ'ขาสั่น 'จตุพร' เผยอนุไต่สวนชั้น 14 มติเอกฉันท์ชี้มูลผิด ยื่น ปปช.ฟ้องศาล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุถึงความคืบหน้าคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต