
'จตุพร' ย้อนแสบทักษิณคุยโม้ โชว์โกหกลดค่าไฟฟ้า 3.70 บ.หาคะแนนเสียงจนทำหุ้นตก เชื่อมีมือดีฉวยโอกาสช้อนซื้อทำกำไร ซัดปากดีจัดการแก๊งคอลฯ พม่า ท้าแน่จริงนำ 4 ลูกเรือไทยกลับบ้านให้ได้ก่อน
8 ม.ค.2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งปราศรัยและพูดมากเท่าใด ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอยสะท้อนอาการน่าเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งสำคัญแสดงพฤติกรรมและทัศนะเหยียดมนุษย์ให้เห็นอย่างเด่นชัด
นายจตุพร กล่าวว่า ทัศนะเหยียดมนุษย์เริ่มปรากฎขึ้นเมื่อทักษิณไปหาเสียงที่อีสานได้พูดถึงพันธุกรรมคนอีสานมาหาเสียง ไปเชียงรายยังพูดเปรียบพันธุกรรมคนเหนือกับคนแอฟริกาพร้อมกับเหยียดเป็นคนผิวดำ จมูกแหมบ ซึ่งสะท้อนถึงทัศนะเหยียดเชื้อชาติ โดยทั่วโลกมองเป็นการเหยียดกัน และอาจถูกประเทศมีปัญหาเหยียดผิวสีต่อต้าน
นอกจากนี้ ทักษิณ ยังพูดจะใช้กำลังจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพม่าและกัมพูชา แต่ละเลยพูดถึงพม่าจับขังคุกลูกเรือไทย 4 คนที่แสดงถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันไร้น้ำยา เอาแต่ความเมตตาจากพม่าให้ปล่อยตัว
ดังนั้น การพูดส่งเดชของรัฐบาลว่า พม่าจะปล่อยตัววันนั้นวันนี้ หรือในวันชาติพม่า แล้วหน้าแหกกลับนิ่งเงียบ และไม่กระตือรือร้นเจรจาหาทางนำลูกเรือไทยทั้ง 4 คนกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว สิ่งนี้แสดงถึงรัฐบาลไม่มีศักยภาพกับการเอาใจใส่ประชาชนของตัวเอง
รวมทั้งเครื่องบินรบพม่าเคยรุกน่านฟ้าไทยถึง 3 ครั้ง ฝ่ายความมั่นคงก็เงียบอีก ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะทางการทหารอาจเป็นการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องบินรบของไทยก็ได้ แต่ไทยไม่มีมาตรการประท้วงทางการฑูตอย่างรุนแรงเลย หรือนำสถานการณ์พม่ารุกล้ำน่านฟ้าไปเจรจาเพื่อนำลูกเรือไทย 4 คนกลับมาบ้านให้ได้ สิ่งนี้บ่งบอกถึงไทยไม่มีน้ำยา ดังนั้นพม่าจึงไม่ให้ความสนใจที่จะเจรจาคลี่คลายปัญหาระหว่างประเทศด้วย
"เมื่อช่วงได้พักโทษ ทักษิณ ทำตัวเป็นตัวแทนไทย โชว์ศักยภาพนัดเจรจาทั้งชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลพม่า แต่พอคนไทยถูกจับไปก็ไม่สามารถเอาตัวออกมาได้ แล้วยังไม่เห็นความพยายามของ รมว.ต่างประเทศ และ รมว.กลาโหม ไปเจรจากับพม่าอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เอาแต่โม้บนความรู้สึกทุกข์ยากของลูกเรือไทยทั้ง 4 คนถูกจับติดคุก โดยรัฐบาลไม่พยายามทำอะไรที่จะเอาพวกเขากลับบ้าน"
นายจตุพร กล่าวว่า การคุยโม้ของรัฐบาลกับการจัดการคอลเซ็นเตอร์ในพม่าและกัมพูชา แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย ยิ่งพูดปัญหาก็มากทับถมขึ้นแล้วปล่อยเฉยอีก เหมือนปัญหาลูกเรือไทยที่ถูกจับก็ไม่พูดถึง ไม่ใส่ใจเช่นกัน ได้แต่คุยโม้ในสิ่งที่ไม่ได้อะไรและไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย
ส่วนปัญหาลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าแพงมาจากจุดเริ่มต้นการแปรรูป ปตท. และพยายามแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เมื่อทำไม่สำเร็จ ยังเซาะกร่อนภายในองค์กรโดยดึงอำนาจการผลิตไฟฟ้าไปให้เอกชนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เอกชนจึงขายไฟฟ้าให้ กฟผ. และ กฟผ.ก็ขายไฟให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อหากินกำไรส่วนเกินกันเป็นทอดๆ จึงทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น
นอกจากนี้ กฟผ.ยังมีการซื้อพลังงานสำรองจนเกินความจำเป็นยิ่งทำให้คนไทยต้องแบกรับการจ่ายค่าไฟฟ้าสำรองล้นเกินนั้นด้วย ดังนั้น ถ้าไม่ยกการผลิตไฟฟ้าให้เอกชนแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปเก็บค่าไฟฟ้าพลังงานสำรอง จนส่งผลกระทบให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น อย่างไรก็ตาม เอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าที่ได้ประโยชน์ยังเห็นหน้าเห็นตากันในก๊วนกอล์ฟและในงานไทยแลนด์วิชั่นที่ทักษิณ โชว์วิสัยทัศน์ทิศทางอนาคตของประเทศ
"สิ่งสำคัญ เมื่อทักษิณประกาศทุบค่าไฟฟ้าลดเหลือ 3.70 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้ทุบให้เกิดเป็นจริงเป็นจังขึ้น และไม่รู้จะทุบเมื่อไร แต่คำพูดทำให้หุ้นพลังงานเกี่ยวกับไฟฟ้าตกลงระเนระนาดทันที่ ซึ่งในประเทศที่ไม่มีความตรงไปตรงมานี้ อาจมีมือดีฉวยโอกาสไปช้อนซื้อหุ้นไว้ทำกำไรก็ได้ ดังนั้น แค่คำพูดของทักษิณมีผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างกว้างขวาง"
พร้อมทั้งกล่าวว่า ปัญหาอีกส่วนหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายหาเสียงลดค่าไฟฟ้่าทันที แต่เป็นรัฐบาลมาปีกว่ายังไม่มีปัญญาทำให้ลดได้จริง แล้วยังประกาศซ้ำอีกถึงการทลายทุนผูกขาดพลังงานซึ่งจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอดีตได้ยกการผูกขาดการผลิตไฟฟ้าสำรอง 5,000 เมกะวัตต์ให้ทุนจนมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าสูงขึ้นในปัจจุบัน
"ทักษิณ เป็นคนต้องห้ามทางการเมืองตลอดชีวิต กลับประกาศทุบค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.70 บาท แต่คนทำคือ รมว.พลังงาน หากไม่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มทุนและพรรครัฐบาลก็ลำบาก ซึ่งอาจทำไม่ได้อยู่ดี ดังนั้น การทุบค่าไฟของทักษิณ จึงเป็นแค่การพูดเอามัน จนทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกดิ่งทันที"
นายจตุพร กล่าวถึงไทยสั่งซื้อน้ำมันและแก๊สว่า เป็นการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วยราคาจากประเทศซาอุดิอารเบียและสิงคโปร์เป็นมาตรฐาน ส่วนไทยกลับทำให้ราคาขึ้นลงเป็นรายวันแล้วทุนผูกขาดได้กำไรทั้งขึ้นทั้งล่อง และเป็นต้นทุนการผลิตทางเศรษฐกิจทุกอย่างต้องแบกราคาพลังงานแพง และกระทบต่อการผลิตในระบบเศรษฐกิจจนพัง และเกิดการย้ายฐานการผลิตไปอยู่ประเทศอื่นกันระนาว
"นายกฯ บอกจะเรียกรัฐมนตรีมาพบ มาคุยเรื่องงานอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ปัญหาสำคัญคือ นายกฯ พูดอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย จึงควรเรียกตัวเองมาพบมาคุยกับนายกฯ ก่อนเป็นอันดับแรก"
นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ เป็นผู้ทรงอิทธิพล เมื่อพูดให้ลดค่ไฟฟ้าเหลือ 3.70 บ. ก็กระเทือนถึงหุ้นพลังงานตลาดหลักทรัพย์ตกดิ่งทันที เช่นเดียวกับการประกาศขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 400 บาท แต่ได้เพียง 4 จังหวัดกับ 1 อำเภอ ส่วนราคาสินค้าขยับแพงขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วประเทศแล้วยังไม่รับผิดชอบ สิ่งนี้สะท้อนถึงการหาเสียงโกหกประชาชน เป็นประชาธิปไตยแบบโกหก ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์ในชีวิตอะไรเลย
"การหาเสียงก็โกหก นโยบายก็โกหกท่ามกลางความฉิบหายของบ้านเมือง การแจกเงินหมื่นให้ประชาชนก็เละไม่เป็นท่า ประกาศแจกพร้อมกันทั่วประเทศ แต่กลับทยอยแจกเป็นช่วงๆ ให้สอดคล้องกับประโยชน์ทางการเมือง โดยแจกเฟส 2 ก่อน 3 วันจะมีการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ามีผลต่อคะแนนเสียงได้เช่นกัน"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศเหลวแหลกมากมาย ดังนั้น ต้องปรับโครงสร้างกันใหม่ให้เป็นธรรมทุกฝ่ายทั้งรัฐ ทุน และประชาชนพึงได้รับประโยชน์ในสิ่งที่พึงจะได้รับ โดยระบบสาธารูปโภคต้องสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญต้องทำลายการเอาเปรียบทุกรูปแบบจากรัฐและทุนด้วย
"เชื่อว่ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ถ้าไต่สวนชั้น 14 ให้รวดเร็ว เพราะผลที่ออกมาจะหยุดความเสียหายทุกชนิดที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองได้ทันที"นายจตุพร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ
สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม
จบไม่สวยสักคน 'จตุพร' เตือนการเมืองแบบเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียนอย่างที่เห็น
'จตุพร' เตือนการเมืองแบบวงศ์วานเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียน รู้ผลลัพธ์จบไม่สวย มาแบบไหน ไปแบบนั้น ลั่นประเทศไม่ใช่ห้องทดลองการบริหารบ้านเมือง
'จตุพร' ฟาด กกต.ขี้โม้ อวดจัดเลือกตั้งกลางสนามรบ แนะเลื่อนรับสมัครสส. ไปปีหน้า
'จตุพร' เตือนการเมืองแบบวงศ์วานเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียน รู้ผลลัพธ์จบไม่สวย ลั่นประเทศไม่ใช่ห้องทดลองการบริหารบ้านเมือง
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
'จตุพร' เตือน 'อนุทิน' ถ้าตามใจ 'ทรัมป์' กดดันไทยหยุดยิง ระวังจะถูกประชาชนขับไล่
ชายแดนไทย-เขมร ต้องไม่ปล่อยค้างคาใจอีก หนุนสู้รบให้จบก่อนเจรจาสันติภาพ ฟาด "อันวาร์" อย่าเผือก ชี้คนไทยแสดงความเห็น

