
'จตุพร' ฟาด 'ทักษิณ' สทร.พูดมากอยากดันเพื่อไทยยิ่งใหญ่เท่า ทรท. ย้อนจะถูกยึดอำนาจปิดฉาก ปชต.อีก ชี้สังคมครหา พิรุธแจกเงินหมื่นหวังคะแนนเสียง จวกปากไม่มีหูรูดพูดเหยียดอัตลักษณ์คนแอฟริกา หลอกเสื้อแดงเป็นป้อมปราการทำปู้ยี่ปู้ยำหาประโยชน์ให้ทุนพลังงาน ลั่นโรงละครลวงโลกจวนจบ
10ม.ค.2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตคอรร์รัปชั่น ถูกศาลตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต ประกาศสร้างพรรคเพื่อไทยให้ใหญ่เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เมื่อปี 2544-2549 แต่ปัญหาคือ จะนำบ้านเมืองเดินไปสู่การถูกล้มกระดานประชาธิปไตยอีกครั้งหรือไม่
ทั้งนี้ เพราะพรรคเพื่อไทย ถูกสังคมครหาการใช้งบประมาณแผ่นดินแจกเงินหมื่นเพื่อประโยชน์คะแนนเสียงที่จะเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ. นี้ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องอธิบายสังคมให้ชัดว่า การแจกเงินหมื่นเฟส 2 ไม่เกี่ยวกับประโยชน์คะแนนเสียงที่จะได้รับ
อีกทั้งเงินหมื่นมาจากงบประมาณขาดดุลและต้องกู้มาชดเชยให้สมดุลจึงทำให้ทุกคนเป็นหนี้ แต่นักการเมืองได้ประโยชน์จากคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วยังจะมีโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่เลียนแบบบ้านเอื้ออาทรในยุคพรรคเพื่อไทยเช่นกัน แต่เกิดการทุจริตถูกศาลพิพากษาจำคุกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ
นอกจากนี้ ในสมัย ทรท. ยุคทักษิณ อ้างเป็นพรรคยิ่งใหญ่ กลับทำให้สภาอ่อนแอ โดยดึงพรรคเล็กพรรคน้อยมาควบรวมทำให้เสียงฝ่ายค้านในสภาไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีในกรณีทุจริต จึงเป็นแรงเหวี่ยงเกิดการชุมนุมบนถนนไล่รัฐบาล และนำไปสู่การยึดอำนาจปิดฉาก ทรท. ดังนั้น ถ้าทักษิณ อยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่แล้ว โอกาสเสี่ยงนำพาให้ประชาธิปไตยถูกปิดฉากเหมื่อนเดิมอีกเช่นกันหรือไม่
"คุณทักษิณ ผมไม่ทราบว่า คนไทยเป็นหนี้อะไรพวกคุณนักหนา วันนี้เราจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์เพราะหลายเรื่องมันชักจะมากไป ที่พยายามพาประเทศไปสู่จุดจบเหมือนเดิมเพราะการขยับทำเรื่องบ่อน เรื่อง mou 44 ที่ต้องการแบ่งผลประโยชน์พลังงาน และเรื่องอื่นๆนั้น เมื่อคนทนไม่ไหวก็ลงถนนมาไล่คุณอีก"
นายจตุพร กล่าวว่า การขยับทำโครงการหาประโยชน์มากมาย ทักษิณรู้อยู่ว่า ปัญหาต้องเกิด จึงคิดจะกวาดต้อนคนเสื้อแดงให้กลับมาปกป้องและใช้เป็นพลังต่อรองทางการเมืองกันอีก โดยการยื่นทวงถามคดีสลายชุมนุมคนเสื้อแดงกับดีเอสไอ ซึ่งทำเหมือนคนเสื้อแดงเป็นกระดาษชำระ เมื่อต้องการใช้ก็เรียกหา ใช้เสร็จก็ทิ้งอีก
พร้อมทั้งกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยหาเสียงปี 2566 ประกาศตามคนเสื้อแดงกลับบ้าน โดยชูนโยบาย 100 วันคนเสื้อแดงสามารถฟ้องคดีตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ โดยไม่ผ่าน ปปช.
เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ตัวแทนคนเสื้อแดงไปยื่นเรื่องมีการต้อนรับใหญ่โต ซึ่งเสมือนเป็นละครฉากหนึ่ง เพราะก่อนทักษิณ ออกจาก รพ.ตำรวจ พรรคเพื่อไทยถอนกฎหมาย 100 วันคนเสื้อแดง จากสภาอ้างนำมาปรับปรุง
กระทั่งบัดนี้คงปรับปรุงยังไม่เสร็จ จนไม่เสนอกฎหมายเข้าสภากลับไปใหม่เลย แต่สุดท้ายมีการแต่งตัวคนเสื้อแดงไปยื่นหนังสือกับดีเอสไออีกเพื่อให้ไต่สวนสำนวนพลิกศพ ซึ่ง ปปช. เคยตีตกไม่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองมาแล้ว ดังนั้นผลลัพธ์เรื่องนี้ในท้ายที่สุดย่อมเหมือนเดิมอีก
"การไปยื่นกับดีเอสไอ โดยนายกฯ เป็นประธาน ยังไม่ทำอะไรเลย แต่คนเสื้อแดงพร้อมจะถูกหลอกต่อไป ต้องการใช้เสื้อแดงจากคนเป็นไปยันคนตาย นึกอยากจะใช้ก็ใช้ อยากจะหลอกก็หลอก ใครจะเชื่อก็เชื่อไป แต่ลองไปไล่แต่ละประเด็นกันดีๆ จะเห็นว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคนเป็นและทรยศต่อคนตายด้วยซ้ำ ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงน่าเห็นใจที่สุด"
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อประชาชนถูกหลอกกันทุกฝ่าย แต่สถานการณ์ข้างหน้ารอกันไม่ได้่ เพราะการแก้ไขเรื่องพลังงานภายใต้ทุกผูกขาดและการเมืองแบบนี้ ย่อมเล่นละครกันไป แต่แก้ไขไม่ได้ ส่วนประชาชนกลายเป็นเหยื่อถูกหลอกกันซ้ำซากมาต่อเนื่อง
อีกทั้งกล่าวว่า ถ้าประชาชนไม่ติดตามละครการเมืองกันทุกเรื่องแล้ว จะถูกทักษิณ เสือกหลอกกันทุกเรื่องเพื่อเอาประโยชน์ให้กลุ่มทุน ทั้งกรณีตั้งบ่อนซ่อนพนันออนไลน์มอมเมาคนไทย อย่างไรก็ตาม สักวันหนึ่งเมื่อทักษิณไป แต่ประเทศยังอยู่จะทำกันอย่างไร ดังนั้น คนรุ่นนี้ต้องทำในสิ่งที่ดี หรือจะทำอัปรีย์ไว้ให้คนรุ่นลูกหลาน
พร้อมกับเชื่อว่า ถัดจากนี้ไปประเทศจะเต็มไปด้วยปัญหา ยิ่งขณะนี้ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างรุนแรง โรงงานปิดคนตกงานมากขึ้น สินค้าแพงแต่แรงงานถูก ราคาผลผลิตโดยส่วนใหญ่ตกต่ำ ดังนั้นชะตากรรมของประเทศจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของทักษิณที่โหมอ้างชวนเชื่อกันอยู่
"ความสำเร็จเพียงอย่างเดียวจะมาอ้างสำเร็จทุกอย่างไม่ได้ เมื่อคำพูดได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่รับผิดชอบคำมั่นสัญญากับประชาชน ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าเป็นตัวอย่างการลวงโลกได้เป็นอย่างดี เพราะเคยประกาศหาเสียงจะลดลงทันที แต่เป็นรัฐบาลเมื่อ 2566 ถึงบัดนี้นโยบายที่ประกาศทันทียังไม่บังเกิดอะไรทั้งสิ้น”
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าไล่เรียงทุกเรื่องตั้งแต่ทักษิณขออนุญาตกล้บไทยมาเลี้ยงหลาน แต่จนถึงขณะนี้ไม่ได้เป็นไปตามพูด เอาแต่อ้าง สทร. (เสือกทุกเรื่อง) เดินสายปากไวหาเสียง ดังนั้น ขอให้คิดกันดีๆ อีกไม่นานประเทศนี้ใครจะยอมให้ปู้ยี่ปู้ยำนำพาไปสู่ความเสียหายชนิดกลับหลังหันไม่ได้
"ผมเชื่อคนมีหน้าที่และคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครยอม และสถานการณ์ดูเหมือนกำลังใกล้จบกันเต็มทีแล้ว"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ครอบครัวชินวัตร โชว์ภาพเยี่ยม 'ทักษิณ' แบบใกล้ชิดที่สุด โอกาสพิเศษช่วงปีใหม่
ครอบครัวชินวัตรเยี่ยม “ทักษิณ” ครั้งที่ 20 แบบใกล้ชิดในโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่ที่คลองเปรม "อิ๊งค์-โอ๊ค"อุ้มภาพร่วมเฟรมพ่อในชุดนักโทษ โชว์สุขภาพสดใส ระบุได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน 2 ชั่วโมงเต็ม ทั้งก๋วยจั๊บ–แฮมเบอร์เกอร์ พร้อมพูดคุยยาวเรื่องน้ำท่วมภาคใต้


