
นักวิชาการหวั่น ร่างแก้ไขพรบ.การพนัน มหาดไทย เสี่ยงเปิดช่องพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย กระตุกนักการเมืองไทย ยึดต้นแบบ ‘สีจิ้นผิง’ที่ไม่หารายได้เข้ารัฐ จากพนันเพราะเป็นนโยบายที่สิ้นคิด ทำลายความมั่นคง
2 ก.พ.2568-รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวหลังถูกถามถึงกรณี ขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยกำลังจัดให้มีการประชาพิจารณ์แสดงความเห็นร่างแก้ไขพรบ.การพนัน ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อหาของร่างฯ จะทำให้มีพนันออนไลน์ในประเทศหรือไม่ โดยกล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๓ วรรค ๒ บัญญัติว่า “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม”
การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายการพนัน เพื่อให้การพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย พร้อมกับร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ใช้นโยบายนี้ในการหาเสียงเลือกตั้งปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งต้องรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมถึงไม่เคยมีการศึกษาผลกระทบใด ๆ ตามวิสัยของผู้ออกนโยบายสาธารณะพึงกระทำ ทั้งหมดนี้ถือว่าคณะรัฐมนตรีไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๓ วรรค ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และกรณีดังกล่าวย่อมเข้าข่ายการขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคย่อมรู้ หรือควรรู้ได้ว่า พรรคของตนมีการรายงานนโยบายใดบ้างต่อ กกต. ตามที่กฎหมายกำหนด แต่ยังดึงดันผลักดันนโยบายที่ไม่ได้มีการระบุไว้ในรายงานต่อ กกต. ดังนั้น จึงเข้าข่ายมีพฤติกรรมขาดความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ การที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ รับดำเนินการแก้กฎหมายการพนันออนไลน์ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๓ วรรค ๒ และมาตรา ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วย โดยมาตรา ๕ บัญญัติอย่างชัดเจนว่า “รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้”เช่นเดียวกับการที่ กกต. ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในกรณีข้างต้น ถือว่าเป็นกรณีองค์กรอิสระไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา ๓ วรรค ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ กกต. ทำให้ราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
เมื่อถามว่า รัฐบาลมักอ้างว่า การนำธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดินจะสร้างรายได้ให้รัฐมหาศาล เงินที่นักพนันเล่นไม่รั่วไหลไปสู่ต่างประเทศด้วย รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวว่า รายได้ของรัฐจากการพนันเป็นประโยชน์ในระยะสั้น แต่การมีบ่อนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ ผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ มองเห็นประโยชน์ของชาติและประชาชน จะไม่ทำให้การพนันเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีประเทศกำลังพัฒนา ที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันทางปัญญาที่มากเพียงพอ
รศ.ดร.ชิดตะวัน ยกตัวอย่างว่า ขอยกตัวอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน นับแต่ ค.ศ.1949 รัฐบาลจีนประกาศให้การพนันทุกชนิดเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และการเล่นพนันของชาวจีนในประเทศอื่น ก็ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพลเมืองจีนจำนวนมากนิยมเดินทางไปใช้จ่ายเงินในบ่อนกาสิโนของมาเก๊า ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมีการเล่นพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย การประมาณการโดยบริษัทในเครือของสำนักข่าว Xinhua พบว่า ในแต่ละปีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ใช้เงินเดิมพันผ่านการพนันออนไลน์มูลค่ามากกว่า 145 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น จึงมีกระแสกดดันเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเปิดกาสิโนและนำพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย โดยอ้างว่า จะสามารถสร้างรายได้ให้รัฐบาลจีนจำนวนมหาศาล รวมถึงเงินไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ อย่างไรก็ดี จุดยืนและหลักการของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ยังคงชัดเจนตลอดมาว่า รัฐบาลจีนไม่มีความคิดในการนำการพนันทุกประเภทเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย เพราะแม้ภาครัฐจะมีรายได้มหาศาลจากการนำธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มาอยู่บนดิน แต่ก็ไม่อาจเทียบเท่ากับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการที่ชาวจีนจำนวนมากกลายเป็นผีพนัน ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลจีนใช้ในการแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย คือ เร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยรัฐบาลจีนเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการพนันข้ามพรมแดน เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุทำให้ชาวจีนติดการพนันแล้ว ยังมักนำมาซึ่งการฉ้อโกง การฟอกเงิน การลักพาตัว การกักขัง การค้ามนุษย์ และการลักลอบค้ายาเสพติด โดยรัฐบาลจีนได้ใช้วิธีทางการทูตและคำเตือนไปยังหลายประเทศ อาทิ สถานทูตจีนในสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ประกาศให้ชาวจีนอยู่ห่างจากการพนันทุกรูปแบบ โดยระบุว่า การเล่นพนันของชาวจีนในต่างประเทศเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
นักเศรษศาสตร์ผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ในประเด็นการพนันออนไลน์ ความพยายามของทางการจีนในการกดดันประเทศในภูมิภาคอาเซียนให้จัดการกับฮับที่มีต้นทางจากประเทศเหล่านี้ ทำให้ช่วงปลายปี 2562 รัฐบาลกัมพูชาต้องยกเลิกการพนันออนไลน์อย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ผู้บริการการพนันออนไลน์ชาวจีนจำนวนมากต้องเดินทางออกจากสีหนุวิลล์ สำหรับพม่าได้ร่วมมือกับประเทศจีนในการปราบปรามและดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยจับกุมบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาญาออนไลน์เมื่อปลายปี 2566 ส่วนในกรณีของฟิลิปปินส์ หลังจากปี 2016 ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีดูเตอร์เตได้อนุญาตให้สร้างฐานเวปไซต์ในประเทศฟิลิปปินส์เพื่อให้บริการพนันออนไลน์แก่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ (Philippines Offshore Gaming Operators: POGOs) รัฐบาลจีนได้ใช้ความพยายามหลายครั้งเพื่อขอให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยกเลิกการให้ใบอนุญาตแก่ POGOs เนื่องจากมองเห็นอย่างชัดเจนว่า นอกจากการพนันออนไลน์บ่อนทำลายความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจีนแล้ว ยังสร้างปัญหาอาชญากรรมและปัญหาทางสังคม จนในที่สุดประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ได้ยกเลิกการให้ใบอนุญาตแก่ POGOs ในปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า มาเก๊าเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่เป็นนครแห่งการพนันกาสิโน สร้างรายได้มหาศาล ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมีท่าทีเช่นใดหรือไม่ต่อกรณีมาเก๊า รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวว่า เมื่อพิจารณามาเก๊าพบว่า นับจากอดีตถึงปัจจุบันกาสิโนเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้มหาศาล โดยปี 2566 สร้างรายได้มากกว่า 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่นมาเก๊าได้ภาษีจากธุรกิจกาสิโนคิดเป็นร้อยละ80 ของรายได้รัฐทั้งหมด แต่การเฟื่องฟูของอุตสาหกรรมกาสิโนก็ทำให้มาเก๊ากลายเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงิน อย่างไรก็ดี การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเอาจริงเอาของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ทำให้ลูกค้าวีไอพีที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ไม่สามารถใช้มาเก๊าเป็นฐานของการฟอกเงินได้อย่างสะดวกอีกต่อไป ส่งผลให้ปัจจุบันรายได้ของอุตสาหกรรมกาสิโนในมาเก๊าลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับอดีต นอกจากนี้ เมื่อครั้งเริ่มต้นขึ้นสู่อำนาจในปี 2555 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงก็ได้เรียกร้องให้มาเก๊าสร้างเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และเมื่อเดือนธันวาคมปี 2567 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงก็ยังปราศรัยกระตุ้นให้มาเก๊าลดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมการพนัน แต่ให้เพิ่มขีดความสามารถในอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งจะดึงดูดแรงงานทักษะสูงเข้ามาในพื้นที่
“ในทรรศนะของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เงินจากการพนันไม่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศจีน การใช้นโยบายรัฐเพื่อหวังรายได้จากประชาชนผ่านการพนันเป็นนโยบายที่สิ้นคิด เพราะการที่ประชาชนติดการพนัน จะทำลายความมั่นคงของชาติ จนทำให้จีนไม่สามารถหยัดยืนเป็นประเทศที่เข้มแข็ง และต้องตกเป็นเบี้ยล่างของประเทศอื่นในที่สุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการชี้ไทยสวนทางโลกปลดล็อกขยายเวลาชนแก้ว!
นักวิชาการเป็นห่วงหลังปลดล็อก ขยายเวลาชนแก้ว เกิดผลกระทบสังคมตามมา
ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร
ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่
'อนุทิน' นำ 'ราชสีห์-สมาชิกราชสกุลดิศกุล' วางพวงมาลา เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ
นายกรัฐมนตรี นำราชสีห์ และสมาชิกราชสกุลดิศกุล วางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ พร้อมมอบรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ปลัดอำเภอแหวนทองคำ ประจำปี 2568
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
พนันออนไลน์เขย่าเก้าอี้ 'บิ๊กต่าย-รองผบ.ตร.' 'ปธ.กมธ.ตำรวจ' เชิญเข้าแจง
ปธ.กมธ.ตำรวจ สภาฯ' เผย จ่อเชิญ 'บิ๊กต่าย-รอง.ผบ.ตร.' แจงปม ตำรวจรับส่วยพนันออนไลน์ 26 พ.ย.นี้
แจ็คพอตแตก! นครบาลบุกค้นยานรก เจอรังจีนเทาแทน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.)


