7 มี.ค.2568- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ของดีเอสไอ ประชุมเมื่อ 6 มี.ค.นั้น ไม่ได้พิจารณาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร ฐานฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ แต่มีมติ 11 เสียงให้อธิบดีกรมดีเอสไอดำเนินการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการได้มา สว. คงสะท้อนถึงไม่ดำเนินการตามอำนาจต้องการ เพราะสุ่มเสี่ยงกับชีวิตอนาคตของกรรมมการ
นายจตุพร ระบุว่า คดีฟอกเงินให้ได้มา สว. โดยทุจริตนั้น เป็นอำนาจโดยตรงของอธิบดีดีเอสไออยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นนำเรื่องเข้าที่ประชุม กคพ. ก็ได้ อย่างไรก็ตาม คดีฟอกเงินมีเงื่อนไขสำคัญต้องเข้าข่ายความเสียหายเกิน 300 ล้านขึ้นไป และต้องมีลักษณะความผิดตามลักษณะอั้งยี่ ซ่องโจรประกอบกับมีทุจริตเลือก สว.โดยการฟอกเงินด้วย ซึ่งต้องประสานหน้าที่กับอำนาจของ กกต. ด้วย
สิ่งสำคัญ เมื่อ กกต.มีหน้าที่ตรวจสอบทุจริตเลือก สว. ถ้าพบเข้าข่ายการฟอกเงินประกอบด้วย ย่อมนำเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนความผิดทางคดีอาญา ดังนั้น จุดเริ่มต้นคดีฟอกเงินยังเป็นหน้าที่ของ กกต. คงมอบหมาย ตกลง หรือให้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญา เมื่อเป็นเช่นนี้ การประสานของ กกต.กับดีเอสไอจึงจำเป็นในการสอบสวนหาความผิดจากทุจริตเลือก สว.ที่เข้าข่ายการฟอกเงินด้วยหรือไม่
"การประชุม กคพ. โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และตั้งใจจะดำเนินคดีอั้งยี่ ซ่องโจรเลือก สว. (ซึ่งต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือจำนวน 15 เสียงจากทั้งหมด 22 เสียง) แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ กคพ.ไม่พิจาณาเรื่องนี้ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า อำนาจไม่มีอยู่จริงและกำลังจะหลุดลอย"
นายจตุพร กล่าวว่า การฮั้วเลือก สว. 67 เกิดจากกำหนดแบบไว้ใน รธน. 60 ให้ผู้สมัครกลุ่มอาชีพจ่ายเงิน 2,500 บาท ไปเลือกผู้สมัครคนอื่นในระดับอำเภอ แต่ห้ามหาเสียง ให้แนะนำตัวเองได้ 3 บรรทัด ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อผ่านมาถึงการเลือกระดับจังหวัด แล้วไปสู่การนำกลุ่มอาชีพอื่นมาเลือกไขว้ในระดับประเทศ ดังนั้น โพยล็อก สว.ย่อมจำเป็นกับระบบที่ปวดหัวมึนงงเช่นนี้
"ระบบเลือก สว.เป็นการฝืนธรรมชาติมาตั้งแต่ต้น ถ้าเลือกตรงจะง่ายกว่ามาก ดังนั้น กติกาเลือก สว.เช่นนี้ ไม่ใช่ผู้มีคุณสมบัติเฉพาะตัวดี เด่น ดัง แล้วจะได้รับเลือก และถ้าคิดว่า ฮั้วเลือก สว.เป็นปัญหา ก็ต้องโมฆะกันทั้งหมด เพราะกติกามันเป็นปัญหา"
อีกทั้งกล่าวว่า ถัดจากนี้ไปการขัดแย้งเชิงอำนาจยังไม่จบลง เพราะ สว.ตั้งป้อมต่อสู้เอาคืนกับ นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แล้วยังจะลุกลามไปถึงการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบนายกฯ ผิดจริยธรรมร้ายแรงกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า อำนาจดีลเริ่มถดถอย ไฟที่เคยบอกว่าเขียว ก็เริ่มริบหรี่ลง
นอกจากนี้ ผลการการประชุม กคพ.เมื่อ 6 มี.ค. แสดงว่า การพบกันของระดับนำทางการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับทักษิณ ชินวัตร ที่บ้่านจันทร์ส่องหล้านั้น ยังตกลงอำนาจทับเส้นกันไม่ได้ เพราะไม่ได้เล่นงาน สว.ข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และแม้ไม่โหวตมติ 15 เสียงเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ แต่ให้ดำเนินการข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเป็นอำนาจพิจารณาของอธิบดีดีเอสไอโดยตรงอยู่แล้ว
“ดังนั้น การประชุม กคพ. สะท้อนให้เห็นว่า กรรมการที่มาจากตำรวจไม่เข้าประชุมถึง 3 คน คงไม่เอาด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลต้องการ และอำนาจไฟเขียว ซึ่งมักกล่าวอ้างกันนั้น กำลังเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ได้อยู่ในสถานะเดิมตามดีลกลับเข้าประเทศ”
ส่วนศาลอาญาไม่อนุญาตให้ทักษิณ ไปประเทศอินโดนีเซียนั้น นายจตุพร กล่าวว่า การตรวจสอบของแพทยสภาใกล้ยุติกันทุกขณะ โดยผลตรวจสอบจะนำไปสู่สถานการณ์แพทยภิวัฒน์ เป็นจุดชี้ขาดไปถึงกรณีชั้น 14 โดยตรง และยังจะเป็นต้นเรื่องการพิจารณาคำร้องทักษิณ ฝ่าฝืนคำพิพากษาลงโทษติดคุกของศาลฎีกาด้วย
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น ประธานสภายังไม่บรรจุระเบียบวาระประชุมสภา ดังนั้น ขณะนี้ นายกฯ ยังมีอำนาจยุบสภาได้เหมือนเดิม แต่ถ้าบรรจุญัตติเป็นวาระประชุมสภาก็มีเพียงการตัดสินใจลาออกเท่านั้น สิ่งนี้เป็นข้อสังเกตน่าสนใจ แม้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แต่อาจเป็นทางเลือกที่ใครคาดไม่ถึงก็ได้
นายจตุพร กล่าวถึงร่างกฎหมายบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ที่รอเข้าพิจารณาใน ครม. ว่า เป็นปัญหาการเมืองสุ่มเสี่ยงในวันข้างหน้าของพรรคร่วมรัฐบาลจะตัดสินใจร่วมก่อความเสียหายให้ชาติครั้งสำคัญหรือไม่ และยังถูกสาปแช่งจากประชาชน ดังนั้น ขอให้แต่ละพรรคการเมืองคิดกันดีๆ กับการประกาศศึกกับประชาชน และถ้าเข้า ครม. เชื่อผลลัพธ์จะไม่แตกต่างจากการประชุม กคพ.เช่นกัน
"ถ้า บ่อนกาสิโนเข้า ครม. ผมคนหนึ่งแสดงความชัดเจนว่า จะสู้สุดความสามารถและจะต้าน จะขัดขวางโดยไม่รู้ว่าประชาชนจะมาร่วมกันเท่าไร แต่หวังว่า เมื่อถึงวันนั้นประชาชนที่มีความรักชาติบ้านเมืองจะได้ออกมาต่อสู้ร่วมกัน" นายจตุพร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ราชทัณฑ์' ยันพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา บังคับโทษ 'ทักษิณ'
'ราชทัณฑ์' พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกาฯ หากมีหมายขังจำคุก กรณีบังคับโทษตามคำพิพากษา ปมนัดไต่สวน 'ทักษิณ' นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังถูกจับตาคดีประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 ต่อจาก 'จตุพร พรหมพันธุ์'
ดาบสองปปช.รอเชือดซ้ำม.157 ขรก.เอื้อ 'ป่วยทิพย์' ศาลฎีกาไต่สวน 'ทักษิณ' ไม่หนีก็ต้องกล้าติดคุก
'จตุพร'เชื่อ ปชช.เห็นแสงยุติธรรมปลายอุโมงค์แล้ว เมื่อ 'แพทยสภา' ลงมติท่วมท้นยืนมติลงโทษจริยธรรมเดิม ตบหน้า'สมศักดิ์'วีโต ฉาดใหญ่ คาดดาบสอง ปปช. จ่อเชือดซ้ำ ม.157 ขรก.เอื้อป่วยทิพย์ ขณะที่ด่านหินศาลฎีกาฯไต่สวนเอาผิดละเมิดหมายศาลหรือไม่ ชี้ชะตากรรม 'ทักษิณ' เดินวนย่ำวิบากกรรมเดิม ไม่หนีก็ต้องกล้าติดคุก ส่วน 'อุ๊งอิ๊ง' คงจบสิ้น ไม่ผ่านฝึกงานนายกฯ
'บิ๊กอ้วน' บอกไม่เป็นไรเขมรยังดื้อฟ้องศาลโลก
'ภูมิธรรม' บอกไม่เป็นอะไร หลังกัมพูชายังดื้อฟ้องศาลโลก ชี้สถานการณ์ชายแดนยังไม่ยกระดับ มีเขาพระวิหารเป็นบทเรียน ตอบ 'สนธิ' หลังจี้เปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมคุยเจบีซี บอกผู้ที่อยู่ในพื้นที่รู้ดีที่สุดใครเหมาะสม
'ภูมิธรรม' ท่องคาถาปรับ ครม.อำนาจอยู่ที่นายกฯ
'ภูมิธรรม' ชี้อำนาจปรับครม.อยู่ที่นายกฯ ชี้หลักการเสนอชื่อต้องยึดมติพรรค โบ้ย รทสช.เคลียร์ภายในกันเอง
'ดร.สังศิต' แพร่บทความ สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ
รศ.ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ มีเนื้อหาดังนี้
'ภูมิธรรม' บอกปรับครม.รอฟัง 'นายกฯอิ๊งค์' ปัดข่าวนัดคุยพรรคร่วมสัปดาห์นี้
‘ภูมิธรรม’ ยํ้า ปรับครม.ต้องรอฟัง ‘อิ๊งค์’ ไม่ทราบข่าว นัดคุยพรรคร่วมสัปดาห์นี้ ระบุ ดีลตั้งรัฐบาล เจรจาเอง คุยเรื่องเห็นด้วยนโยบาย ไม่ใช่ต่อรองตำแหน่ง โยน ป.ป.ช. ดำเนินการตามกม. ปมป.ป.ช. ฮึ่มสอบ ‘ประเสริฐ’