กมธ.ความมั่นคง ไล่บี้เอาผิด 'กองทัพ' ทำไอโอ ควานหาตัว 'เจ๊จุก' โจทก์ม็อบสามนิ้ว

ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ เผยหน่วยงานยอมรับ 'เอกสาร กอ.รมน.-คณะทำงานพิเศษ ทบ.' เป็นเรื่องจริง แต่ปฏิเสธทำปฏิบัติการไอโอ โจมตีนักการเมือง แค่ประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริง พร้อมเดินหน้าเอาผิดคนทำเอกสาร-ข้อมูลหลุดไปถึงเพจและอินฟลูฯ 

1 พฤษภาคม 2568 - ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ แถลงผลภายหลังการประชุมของคณะกรรมาธิการฯ วาระการพิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร หรือ IO ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

อาทิ พลอากาศตรี วิศัลย์ ธรรมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและการข่าว สำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก, พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาฯจักร ( กอ.รมน.), พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ, พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และเชิญ นายวิสูตร ด้วงมาก ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.), นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน ผู้ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี การประชุมในวันนี้ มีหน่วยงานเข้ามาครบ แต่ขาดเพียงบางรายบุคคล เช่น พลเอกชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พลตรีนิพัฒน์ เล็กฉลาด ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก พันเอกรัตติพล ตันยา ผู้อำนวยการกองรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก และพันโทประนาถ รัตนศิริ

โดยนายรังสิมันต์ กล่าวถึงเอกสารของ กอ.รมน.ที่มีการสรุปข่าว และประเมินเป็นประจำ พบปัญหาว่า มีการสรุปข้อมูลข่าวสาร และการกระจายต่อ ในลักษณะที่เป็นการกล่าวหา และใส่ความเท็จ ต่อบุคคลต่างๆ ทั้งยังมีการจัดหมวดหมู่ต่างๆ เช่น กลุ่มบุคคลที่แอบอ้างสถาบันฯ ใช้หาประโยชน์ ซึ่งมีชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อยู่ในรายชื่อ ทั้งยังมีการรวมรายชื่อกลุ่มต่อต้านสถาบันฯ ที่เพจของพรรคประชาชนรวมอยู่ในกลุ่มนี้

เอกชนชิ้นนี้ กอ.รมน. ยอมรับว่า เป็นเอกสารจริง ไม่มีข้อโต้แย้ง หรือถกเถียง ว่าเอกสารนี้ปลอม แต่ กอ.รมน.ปฏิเสธว่า ในส่วนเนื้อหาเป็นการกระทำที่ผิดพลาดของคนใน กอ.รมน. และข้อมูลบางอย่าง ก็เป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราไม่ทราบว่า ขั้นตอนที่นำข้อมูลมานั้น นำมาจากส่วนไหน หรือเพจใดบ้าง เนื่องจากไม่ปรากฏอยู่ในรายละเอียด

คณะกรรมาธิการฯ จึงตั้งข้อสังเกตว่า หากเกิดข้อผิดพลาดจริง ต้องมีการลงโทษผู้กระทำความผิด เพราะความผิดปกติของการใส่ร้ายนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นในหลายครั้ง และการจะบอกว่าเป็นการผิดพลาดหลายๆ ครั้งนั้น จึงดูไม่น่าเป็นความผิดพลาด แต่อาจเป็นความจงใจ ที่ทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม ซึ่งเอกสารเหล่านี้ ต้องมีการลงนาม โดยบุคคลสำคัญใน กอ.รมน.หลายคน ดังนั้น จึงสามารถเอาผิดได้เลย เบื้องต้น เรายืนยันว่า ถ้า กอ.รมน.บริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสี สร้างความแตกแยกทางการเมืองหรือสังคม ต้องมีบุคคลที่รับผิดในเรื่องนี้

สำหรับกรณีการใช้ IO ตนขอแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คณะทำงานพิเศษ ทบ. ซึ่งในโครงสร้างคณะทำงานพิเศษนั้น มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อพลเอกธรรมนูญ วิถี รองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ระบุเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษนี้ และพลตรีวินธัย ก็ยอมรับว่า คณะทำงานพิเศษชุดนี้ มีอยู่จริง

แต่ทาง ทบ.ปฏิเสธ โดยยืนยันว่า ไม่มีการดำเนินการใดๆ ในลักษณะที่ใส่ร้ายป้ายสี หรือสร้างความแตกแยกทางการเมือง ที่เราเรียกกันว่าปฏิบัติการ IO เลย ทำเต็มที่เพียงเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ งานของกองทัพบกเท่านั้น อาจมีเพียงการส่งต่อไปยังอินฟลูเอ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งเรายังไม่ทราบรายชื่อ โดยส่งต่อผ่านผู้สื่อข่าวที่ติดตามกองทัพเป็นประจำ

คณะกรรมการธิการฯ ยังตั้งข้อสังเกตถึงบัญชี io สำคัญๆ ที่อาจมีความเชื่อมโยง ไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพ หรือตำรวจ เช่น เจ๊จุกคลอง 3 ซึ่งมีการรายงานว่า เป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยแน่นอน และในครั้งหนึ่ง เคยมีโลโก้บัญชีนี้แสดงอยู่บนหน้าจอของกองทัพบกด้วย โดยพลตรีวินธัย ชี้แจงว่า เป็นข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ กองทัพบกไม่ได้อยู่เบื้องหลังของบัญชีผู้ใช้ดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังพบการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งภาพถ่ายตำรวจควบคุมฝูงชน ซึ่งคนที่จะเข้าไปในจุดนั้นได้ จะต้องเป็นตำรวจเท่านั้น หรือภาพที่มีการอ้างถึงม็อบ Vivo แต่เมื่อดูจากมุมการถ่ายภาพ ก็คือมุมจากทางด้านตำรวจ โดยโฆษก ตร.ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้นคณะกรรมาธิการฯ จึงตั้งข้อสังเกตว่า อย่างน้อยต้องมีการตรวจสอบเจ้าของบัญชีนี้ ที่มีการนำข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลลับราชการไปเผยแพร่ ว่าตกลงแล้วเป็นคนในราชการ ตร.หรือกองทัพ หรือไม่

ภาพรวมทั้งหมด คณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า 1.มีการยอมรับว่า เอกสาร กอ.รมน.เป็นของจริง โดยเราจะรับไปดูว่า จะมีการดำเนินการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องกับการทำเอกสารนี้หรือไม่

2.มีคณะทำงานพิเศษ ทบ.จริง มีโครงสร้างที่ปรากฏรายชื่อ พลเอกธรรมนูญจริง แต่ปฏิเสธว่ามีการทำ IO โดยจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป

คณะกรรมาธิการฯ จึงหวังว่า ในเมื่อทุกฝ่ายปฏิเสธถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IO แต่ปฏิบัติการนี้ สร้างความเสียหาย หลายส่วนละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หลายการกระทำผิดกฎหมาย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หน่วยงานความมั่นคงจะทำหน้าที่ ในการใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการ IO เกิดขึ้นต่อไป และถึงที่สุดต้องมีผู้รับผิดต่อเรื่องนี้

"คณะกรรมาธิการฯ จะมีการทำหนังสือไปถึงหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอคำชี้แจงอธิบายที่ชัดเจนเรื่อง IO พร้อมทั้งแจ้งเรื่องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ป.ป.ช. หวังให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป เราพูดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ IO ยังไม่หมดไปสักที ปฏิบัติการเหล่านี้ต้องยุติลงได้แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่ใช่ทุกคนในกองทัพเห็นด้วย และส่วนใหญ่ของกองทัพเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำด้วยซ้ำไป แต่อาจมีบางคนยังเป็นหลืบไร ใช้กองทัพ เครื่องมือกองทัพ ทำร้ายประชาชนชาวไทย" นายรังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่นายชยพล กล่าวเสริมถึงการที่ กอ.รมน.ไม่ยอมรับ เรื่องการทำ IO ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลนั้น จะอยู่ในเอกสารเดียวกัน แต่ก็มีการรับเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น จึงอยากให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนบัญชี เจ๊จุกคลอง 3 ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลทางการเมืองหลายคน หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงระบุว่า ไม่ใช่หน่วยงานส่งข้อมูลให้โดยตรง แต่อาจเป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ ซึ่งน่ากังวลว่า ข้อมูลที่รั่วไหลไปสู่เพจที่มีแนวคิดสนับสนุนวิธีการของกองทัพ นำไปใช้โจมตีบุคคลทางการเมืองต่างๆ นั้น จึงสอบถามว่าหน่วยงานความมั่นคงจะสามารถติดตามบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีได้หรือไม่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ หรือการยืนยันใดๆ ว่าจะสามารถติดตามบัญชีในลักษณะแอคหลุมได้จริงหรือไม่

นายชยพล ยังได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติม รายงานภัยคุกคามภายในราชอาณาจักร ของจังหวัดสกลนคร ที่ระบุถึงการที่กองทัพไปดำเนินคดีกับบัญชีผู้ใช้หลายคน ที่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเอง ซึ่งโพสต์ในลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ต่อกองทัพ และกองทัพก็สามารถติดตามตัวจนเจอ รู้ชื่อนามสกุล เพื่อจับตัวนำมาดำเนินคดี จึงต้องตั้งคำถามว่า นี่คือการเลือกปฏิบัติหรือไม่ คือจะดำเนินคดี และติดตามอย่างจริงจัง เฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อกองทัพหรือไม่ และจงใจปล่อยข้อมูล ปล่อยให้บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันกับกองทัพลอยนวล กองทัพควรมีแนวคิดเช่นนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกองทัพแน่นอน

ทั้งนี้ การดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องมีการดำเนินการร้องเรียน และส่งหลักฐานไปที่หน่วยงานใดบ้าง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นแขนขาสำคัญของโครงสร้างคณะทำงานพิเศษ ทบ. และจะมีการตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานย้อนหลัง ว่ามีหน่วยงานใดเป็นผู้รวบรวมข้อมูลส่งเข้ามา และใครเป็นผู้เซ็นต์รับรอง รวมถึงการขอรายชื่ออินฟลูเอ็นเซอร์ด้วย เพราะแม้เนื้อหาบางส่วนจะมาจากสื่อมวลชนกระแสหลัก แต่กองทัพก็ยอมรับว่า สื่อนั้น ผิดพลาด บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับของกองทัพ จึงใช้ขอความร่วมมือให้อินฟลูเอ็นเซอร์สื่อสารแทนกองทัพ เพื่อเผยแพร่ข้อจริงที่กองทัพเห็นว่า คือข้อเท็จจริง และกองทัพยืนยันว่า ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน

'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

'ปชน.' กระจายแกนนำสมัคร สส. 'เท้ง' หัวเรือ กทม. 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงิน

'ปชน.' กระจายแกนนำให้กำลังใจผู้สมัครแบบเขตทุกภูมิภาค 'เท้ง' นำทีม กทม. 7 โมงเช้าถึงกีฬาเวสน์ 2 'ไหม' บุกถิ่นน้ำเงินบุรีรัมย์ 'อ.ต้น' ลงใต้ 'ต๋อม' ปักหลักหัวเมืองเหนือ

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน