ท้านายกฯ-เพื่อไทย อยากได้กาสิโนเร่งเอาเข้าสภาวิสามัญเลย ย้ำ ร.9 ทรงเตือนการพนันผลเสียมากกว่าผลดี

6 พ.ค. 2568- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ย้อนนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ว่า โหมปั่นกระแสฉ่ำทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และกาสิโนให้ได้ ทั้งที่ประเทศมีปัญหารอบด้านกลับไม่ใส่ใจ

“ถ้าต้องการจะเอาบ่อนกาสิโนให้ได้ก็เอาไป ถ้าคิดว่าบ้านเมืองนี้เป็นของพวกคุณ ช่วงปลายเดือน พ.ค. ก็เอาเข้าสภาสมัยวิสามัญพิจารณา ไม่เห็นมีปัญหาอะไรก็สู้กันเท่านั้น เพราะคุณอยากได้ แต่เราไม่อยากได้”

ส่วนนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องการเปิดเวทีถกเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ โดยมีคนกลางและไม่มีธงคำตอบของแต่ละฝ่ายนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีคนกลาง และต่างฝ่ายที่จะมาถกย่อมมีธงมาอยู่แล้ว เมื่อมีฝ่ายอยากได้บ่อนกาสิโนก็มีประชาชนอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยจึงต่อต้านบ่อนการพนัน ดังนั้น เรื่องนี้ไม่มีฝ่ายเป็นกลาง

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับบ่อนกาสิโนนั้น เป็นประชาชนหลากหลายองค์กร มีทั้งองค์กรศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม และพราหมณ์ ออกแถลงการณ์ต่อต้านบ่อนกาสิโน สิ่งสำคัญองค์กรเหล่านี้ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ไม่เพียงเท่านั้น ราชบัณฑิตยสภาและแพทย์ในแต่ละรุ่นหลายโรงพยาบาล รวมทั้งองค์กรภาคประชาชนออกมาคัดค้านบ่อนกาสิโนเช่นกัน

อีกฝ่ายเป็นรัฐบาลและนางแบกกองเชียร์ กองหนุนพยายามโหมปั่นกระแสว่า ฝ่ายต่อต้านถูกทุนสีเทาจ้างมา ซึ่งทุนเทาและนอมินีนั้นเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องจัดการ สิ่งสำคัญรัฐบาลรู้ว่ามีทุนเทาตั้งนอมินีซื้อหมู่บ้านหรูๆ ในไทยเป็นอย่างดี ดังนั้นเรื่องนี้ไม่น่ามาบิดเบือน

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อพ่อนายกฯ กับตัวนายกฯและรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยต้องการจะเอาบ่อนกาสิโนให้ได้ ถึงกล้าละเลยพระบรมราโชวาทของ ร.9 เมื่อปี 2517 ซึ่งความตอนหนึ่งทรงเตือนสติว่า “คนไทยชอบการพนันก็ว่าจริง แต่ต้องระวัง การพนันไม่ใช่สิ่งดี และไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาสังคมได้เลย ประเทศที่เปิดบ่อนเสรีแม้มีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่มีปัญหาสังคมตามมาอย่างมากมาย เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าเห็นว่า เป็นทางลัดในการหาเงินเข้าประเทศเพราะผลเสียอาจมากกว่าผลดี”

ดังนั้น นายกฯและพ่อนายกฯ ต้องหักล้างพระบรมราโชวาทของ ร.9 ให้ได้ก่อน อย่าเอาแต่ความอยากจะได้บ่อนกาสิโนโดยไม่สนใจปัญหาอื่นๆ ในประเทศ ทั้งปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาทุจริตที่ลามไปแทบทุกหน่วยงานของรัฐ และปรากฎชัดเจนในเหตุการณ์ตึก สตง. กำลังสร้าง 30 ชั้นถล่มราบเป็นหน้ากอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลแทบไม่ใส่ใจ กลับเร่งปั่นกระแสฉ่ำๆ อยากจะได้บ่อนกาสิโนกันอย่างเดียว

“ไม่มีใครไปตี (บ่อนกาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ) ให้ฉ่ำเลย มีแต่ข้อเท็จจริงเท่านั้นที่ทำให้ฉ่ำ และโคตรฉ่ำเลย…แล้วคำการันตีทั้งหลายเราจะไปถือสากับพวกตระบัดสัตย์ได้อย่างไร ถ้าบ้านเมืองเกิดความเสียหาแล้วคุณรับผิดชอบอะไร ที่ผ่านมาถ้าเรียงกันแล้ว คุณได้รับผิดชอบอะไรบ้าง ไม่ว่าการต่อสู้ของภาคประชาชนที่บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก”

นายจตุพร กล่าวว่า เรากำลังเป็นประเทศประหลาดที่นายกฯ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอธิบายอ้างทำบ่อนกาสิโนในเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ เพื่อสร้างสนามกีฬากับศูนย์แสดงคอนเสิร์ตในร่ม ซึ่งเป็นเรื่องเหลวไหล ทั้งที่จริงอยากจะเอาบ่อนให้ได้เท่านั้น แล้วยังอ้างเอาแบบอย่างประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์กับญี่ปุ่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีปัญหากระบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่ในขณะนี้

อีกทั้งสงสัยว่า ถ้าสร้างบ่อนกาสิโนแล้วเกิดความเสียหายขึ้น จะทวงหาความรับผิดชอบจากใคร เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ต้องรับผิดชอบกลับไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย อีกอย่างไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาความโปร่งใส บ้านเมืองและหน่วยงานรัฐเต็มไปด้วยความทุจริต

ส่วนการแก้ปัญหากำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายกฯ อ้างไทยมีดีลลับนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ไทยไปดีลลับกับใคร ถ้ามีดีลลับจริงแล้ว ทำไมรัฐบาลไทยจึงน่าแหกต้องเลื่อนนัดเจรจากับสหรัฐ

สิ่งสำคัญแล้ว เรื่องชาติบ้านเมือง เรื่องของผลประโยชน์ชาติจะมีดีลลับกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะการไปตกลงอะไรก็ตาม ย่อมเป็นสิทธิของประชาชนพึงต้องรู้ ดังนั้น อะไรเป็นผลประโยชน์ชาติจะมีดีลลับกันไม่ได้

“คนสงสัยดีลลับว่า ถ้ามีจริงแล้ว ประเทศไทยต้องแลกกับอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และรัฐบาลนี้ ไทยถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้ามคนเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ให้จีนเข้าสหรัฐ ดังนั้น นายกฯและทีมไทยแลนด์จะไปเจรจาอยู่ในบัญชีแบล็กลิสต์หรือไม่ แต่ท้ายที่สุดเขาไม่ให้ค่าอะไรเลย จนหน้าแหกยับ โทรศัพท์ไปสหรัฐก็ไม่รับสายอีก และการถอนบัญชีห้ามเข้าสหรัฐ ประเทศไทยต้องเสียอะไรบ้าง”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

'อนุทิน' รับรู้จัก 'เบน สมิธ' แต่ไม่สนิท ชี้ภาพเก่า 10 ปี รู้อยู่แล้วใครปล่อย

“อนุทิน” รับรู้จัก “เบนสมิท” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน ชี้ภาพที่เห็นออกเป็นรูปเก่า10ปี บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ไทย รับเป็นเหตุต้องพ้น มท. 1 โต้ “โรม” รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์

ที่ปรึกษาโรม ชี้นับหนึ่งล้างสแกมเมอร์ข้ามชาติ กังขาไม่ออกหมายจับ-กลต.ไม่ขยับ

น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ(นายรังสิมันต์ โรม) โพสตเฟซบุ๊กว่าหลังจากที่ ปปง. แถลงข่าวเรื่องอายัดทรัพย์

นายกฯอนุทิน นำแถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน 'สแกมเมอร์ข้ามชาติ' ลั่นต้องขยายผลไม่มีหยุดพักปีใหม่

นายกฯ อนุทิน นำแถลง ยึดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ "เฉิน จื้อ - ก๊ก อาน - ยิม เลียก - เบน สมิธ" พร้อมยึดทรัพย์มูลค่าหมื่นล้านบาท ยันพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่ เดินหน้าขยายผลต่อไม่มีหยุดพักร้อน มอง "เบน สมิธ" โยงคนในรัฐบาล เป็นเรื่องคนรู้จักกันได้ แต่หากเจอหลักฐานถึงใครไม่มีละเว้น

ด่วน! ป.ป.ง. แถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน ตัวการใหญ่สแกมเมอร์ 5 คดี

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2568 เกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธุรกรรมในการยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer)