'รวมไทยยูไนเต็ด' เสนอเลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศ พลิกโฉมประเทศไทย กระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้าง ตั้งคำถาม ทำไมคนกรุงเทพ 6 ล้านคน มีอภิสิทธิ์เหนือคนต่างจังหวัด 60 ล้านคน
4 ก.พ.2565 - นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเรื่อง “ความเหลื่อมล้ำ คือคนกรุงเทพ 6 ล้านคน มีอภิสิทธิ์เหนือคนไทยอีก 60 ล้านคน” มีเนื้อหาดังนี้ ว่า
กระทรวงมหาดไทยส่งสัญญาณแล้ว ชาวกรุงเทพจับตาการเลือกตั้งผู้ว่าที่อาจเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่ผมขอตั้งคำถาม ทำไมคนกรุงเทพ 6 ล้านคน ถึงมีอภิสิทธิ์เหนือคนต่างจังหวัด 60 ล้านคน ?
นี่คือความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้าง อำนาจที่กระจุกอยู่ในเมืองหลวง ที่ผมได้พูดถึงตั้งแต่วันเปิดตัวพรรคเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว
นโยบาย ไม่ว่าจะเลิศหรูขนาดไหน ก็เปรียบเสมือนซื้อรองเท้าวิ่งแพงๆให้คนขาหักใส่แล้วหวังว่าเขาจะวิ่งชนะ ปัญหาของประเทศไทยคือโครงสร้างที่ล้าสมัย จะพลิกโฉมประเทศไทยเราต้องปฏิรูปโครงสร้าง ถ้าประเด็นคืออำนาจกระจุก คําตอบคือกระจายอำนาจ
ในยุคโลกาภิวัฒน์ โครงสร้างเรายังเปรียบเสมือนรัฐโบราณส่งตัวแทนไปปกครอง 76 เมืองขึ้น มันคือโครงสร้างของอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว
มหาดไทยจิ้มใครก็ได้ ย้ายใครก็ได้ เพราะฉะนั้นโดยเนื้องานแล้ว ผู้ว่ายึดโยงต่อมหาดไทยซึ่งเป็นนาย ไม่ได้ยึดโยงต่อประชาชนในพื้นที่ ในแต่ละจังหวัดผู้ว่ามีอำนาจบริหารสูงสุด แต่อำนาจนี้มาจากมหาดไทย ไม่ใช่มาจากประชาชนในพื้นที่ ประชาชนไม่มีสิทธิไม่มีเสียงที่จะเลือกเส้นทางของจังหวัดตนเอง
ผมไม่ได้หมายความว่าบรรดาผู้ว่าแต่ละคนนั้นไม่ดี ปัจจุบันมีทั้งผู้ว่าที่ดีและไม่ดี แต่ปัญหาคือ ระบบโครงสร้างมันล้าสมัย อำนาจกระจุก ความเหลื่อมล้ำกระจาย
มันเป็นขั้นพื้นฐานของหลักการรัฐศาสตร์ จะพัฒนาประเทศ ก็ต้องสร้างความเจริญให้ทั่วหน้า ต้องกระจายอํานาจทางการเมืองให้ประชาชน เมื่อประชาชนมีอำนาจทางการเมืองที่จะเลือกผู้ว่าในจังหวัดของตน นโยบายของผู้ว่าแต่ละจังหวัดก็ต้องยึดโยงกับคุณภาพชีวิตและโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ ของประชาชนที่เลือกตนเข้ามา
ทํางานไม่ดีประชาชนก็ไล่ออกได้ทุก 4 ปี ทํางานดีประชาชนก็ให้ทําต่อ เป็นสิทธิ อำนาจและความรับผิดชอบของคนในท้องที่ ไม่ใช่เป็นอภิสิทธิ์ของนักการเมืองที่นั่งอยู่ในกรุงเทพ แต่ละพื้นที่ก็จะพัฒนาด้วยการขับเคลื่อนโดยประชาชนในท้องถิ่น ที่เข้าใจความต้องการของตนและของท้องถิ่นดีที่สุด
ปัจจัยหลักคือ ประชาชนจะลืมตาอ้าปากทางด้านเศรษฐกิจได้ ประชาชนต้องมีอำนาจทางการเมือง
นี่คือก้าวแรก ของการพลิกโฉมประเทศไทย ถ้าเราไม่มีก้าวนี้ เราก็ไม่สามารถก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ เราก็จะล้มลุกคลุกคลานต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง บิ๊ก มท. 20 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯคนใหม่ 18 จังหวัด-2 ผู้ตรวจราชการ
ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างจากการโยกย้ายและเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ตำแหน่ง ดังนี้
ไฟเขียวจ่ายเยียวยาน้ำท่วมสงขลา 5 แสนครัวเรือน 4.75 พันล้าน
'ก.ช.ภ.จ.' สงขลา เคาะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5.28 แสนครัวเรือน วงเงิน 4.75 พันล้านบาท 'ปลัด มท.' สั่งเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด
'นายกฯหนู' คิกออฟ ยุติความรุนแรงสตรี ยับยั้งก่อนเกิดเหตุจริง
นายกฯ Kick off นโยบายยุติความรุนแรงสตรี พร้อมทำงานเชิงรุก สร้างความปลอดภัย รับบทบาทผู้หญิงพลังสำคัญของประเทศ
นายกฯ ชี้โยกย้ายทั้งวงรอบและตามความเหมาะสม เป็นเรื่องปกติการบริหารราชการแผ่นดิน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยจะมีโยกย้ายนอกฤดูหรือไม่
ช่วยครัวเรือนละ 9 พันบาท หลักเกณฑ์ใหม่เยียวยาผู้อาศัยในพื้นที่น้ำล้อมรอบเกิน 7 วัน แม้ไม่ท่วมบ้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 เพิ่มเติมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขรก.มหาดไทย รองปลัด-ผู้ตรวจ-อธิบดี-ผู้ว่าฯ 45 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ


