'โรม' ซัด 'รัฐบาล' แก้ปัญหาล่าช้า ปม 'สารพิษแม่น้ำกก' ชี้สร้างเขื่อน-ฝาย ก็ต้องใช้งบดูดตะกอน แนะคุยจีน-ว้า หาทางออก
22 พ.ค. 2568 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก เนื่องจากการสร้างเหมืองแร่เอิร์ธในประเทศเมียนมาว่า ได้ลงพื้นที่แม่น้ำกกพบว่าสารที่หนักที่สุดคือ สารหนูเกินกว่าค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในลำน้ำสาขา และแม่น้ำกกที่ไหลจากเชียงใหม่มาเชียงรายจะมีสารหนูที่เข้มข้นมาก ดังนั้น การจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ คงจะได้เห็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอทำเขื่อนกรองสารพิษ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจผิดหรือมีคนมาบรีฟไม่ถูกต้องหรืออย่างไร เพราะมีข้อเสนอคล้ายกันคือ การทำฝายชั่วคราวหรือถาวร อยู่ที่ว่าเราจะประเมินว่าปัญหาแม่น้ำกกหนักหนาแค่ไหน
สำหรับการสร้างเขื่อนหรือฝายสามารถทำได้ แต่มีปัญหาอยู่ข้อหนึ่งคือ หากทำในลักษณะแบบนี้จะเกิดตะกอนที่เกาะกับสารหนู ขั้นตอนต่อไปคือจะต้องมีการดูดตะกอนเข้าไปบำบัด เข้าใจว่าในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีศักยภาพที่จะทำได้เองต้องส่งไปที่จังหวัดสระบุรี จึงจะต้องใช้ภาษีประชาชนที่ต้องเข้าไปใช้การแก้ปัญหา
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมคนไทยจะต้องรับชะตากรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแม่น้ำกก ทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ ปัญหานี้มีสาเหตุมาจากการทำเหมืองทองในฝั่งเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอิทธิพลของกลุ่มว้า ภาคประชาสังคมได้นำคลิปวิดีโอมาให้ตนเองดูพบว่า มีการทำลายสิ่งแวดล้อม มีการร่อนแร่โดยใช้แม่น้ำธรรมชาติ ปัญหาแม่น้ำกกจึงเป็นปัญหาที่รุนแรง มีทั้งสารหนูและสารอื่น ๆ เกิดค่ามาตรฐานมากกว่าเท่าตัวไปแล้ว
นายรังสิมันต์ มองว่า ความน่าเป็นห่วงจะยิ่งมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสารหนูที่อาจจะเพิ่มสูงกว่านี้ หรือถ้าเกิดอุทกภัยเหมือนแม่น้ำสายก็จะพลัดดินโคลนที่หนักกว่าเดิม เนื่องจากมีการขยายเหมืองในพื้นที่ว้า เรื่องนี้ประเทศไทยจะทำลำพังโดยไม่พูดคุยกับเพื่อนบ้านก็จะทำได้แค่ลดปัญหา หรือการสร้างเขื่อนสร้างฝายเท่านั้น แต่จะมีภาระการบำบัดตลอดเวลา
นายรังสิมันต์ ชี้ว่า ถ้าอยากให้ปัญหานี้จบอย่างถาวรจะต้องพูดคุยและใช้มาตรการกับกลุ่มว้า การที่นายภูมิธรรม ออกมาบอกว่าได้คุยกับเมียนมาแล้วเขาไม่มีอำนาจเพราะเป็นพื้นที่ของว้า การตัดบทแบบนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจ เพราะสุดท้ายกลุ่มว้าไม่เกรงใจประเทศไทย เพราะเราไร้น้ำยา ดังนั้นรัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนคนไทยรู้สึกอุ่นใจปลอดภัยที่มีรัฐบาลแบบนี้ เนื่องจากรัฐบาลทำงานช้ามากเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคง โดยเฉพาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับชีวิต อนามัย และสุขภาพ คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ได้ติดตามเรื่องนี้และได้การประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแล้ว และจะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ หารือเรื่องการสร้างฝาย ซึ่งอาจใช้งบประมาณไม่เยอะและไม่น่าจะใช้ถาวรได้ จังหวัดควรสนับสนุน แต่ในระยะยาวจะต้องมีการแก้ปัญหาเหมืองที่ต้นตอ
นายรังสิมันต์ ยืนยันว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลล่าช้า ไม่ชัดเจน และไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร เหตุใดถึงปล่อยให้สารพิษเกินมาตรฐานหลายเท่าตัว อีกทั้งรัฐบาลยังไม่รู้ว่าจะสร้างความชัดเจนให้กับประชาชนอย่างไร ช่วยอะไรไม่ได้ก็จะต้องอยู่ๆ กันไปหรือ เสี่ยงเรื่องสุขภาพการท่องเที่ยวถูกทำลายเละเทะ
ทั้งนี้ ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวที่นั่นจะมีร้านเรือนแพ เมื่อมีปัญหาแบบนี้ส่งผลกระทบทั้งระบบ ไม่มีนักท่องเที่ยว เพราะทุกคนกังวลเรื่องอันตราย สัตว์น้ำจับกินไม่ได้ สร้างผลกระทบทั้งระบบ เราไม่ควรปล่อยให้พี่น้องประชาชนลอยคอรอความช่วยเหลือ โดยไม่รู้ว่าความช่วยเหลือจะมาเมื่อไร
ส่วนที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าจะพุ่งเป้าไปที่เมียนมา นายรังสิมันต์ จึงขอแนะนำนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม และนายมาริษว่า การจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องคุยกับจีนอย่างเป็นทางออก แต่จีนคงจะไม่รับปากหรือให้หลักประกัน ไทยควรแสดงจุดยืนว่าปัญหาเรื่องนี้ร้ายแรง เมื่อเราเห็นว่าจีนมีจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างไร ประเทศไทยต้องแสดงความจำนงว่าจะไม่นิ่งเฉยกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด มีมาตรการจะเบาไปหาหนัก จำเป็นอย่างมากที่ รัฐบาลจะต้องแสดงความเป็นผู้นำ ซึ่งเราแทบจะไม่เห็น
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า คีย์สำคัญคือ ภาคประชาชนบอกว่าถ้ารัฐบาลไม่ทำ เขาจะไปทำหนังสือยื่นถึงรัฐบาลจีน ขนาดประชาชนยังรู้เลย ทุกคนรู้ว่าถ้าต้องการแก้ปัญหาต้องไปคุยว้าและจีน ทำไมรัฐบาลถึงไม่ทำ จะมาบอกว่าไม่ใช่รัฐมีพฤติกรรมไม่ต่างจากกลุ่มก่อการร้ายไม่ได้ เพราะวันนี้ปัญหาเกิดขึ้นร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม สส.ในพื้นที่ก็พยายามผลักดันและหารือเรื่องนี้ คงจะต้องหาทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา และมีตัวอย่างคดีในบางประเทศที่มีการฟ้องร้อง สอดคล้องกับข้อเสนอของนักวิชาการในคณะทำงานที่เห็นว่า ควรจะมีการฟ้องร้องเอาค่าสินไหมทดแทน แต่คงไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน
สุดท้าย การฟ้องร้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาออกมา หากคำพิพากษาเป็นคุณกับประชาชนคนไทยในวันข้างหน้า เราก็อาจจะนำคำพิพากษานี้ไปเรียกร้องชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะต้องนำงบประมาณไปปรับปรุงสภาพแวดล้อมแม่น้ำกก ยังมีอีกหลายสเต็ปที่ต้องดำเนินการ กลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วคนไทยเดือดร้อน ทั้งเรื่องสุขภาพ และการนำเอาภาษีของประชาชนไปใช้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วิโรจน์' บอกไม่มีไลฟ์สดประชุมงบแล้วแต่จะขอนับองค์ประชุมแค่วันละ 3-4 ครั้งเท่านั้น!
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
'ไอซ์ รักชนก' เล่านาทีประชุมลับกมธ.งบ69 โกรธจนหน้าสั่น แต่ถูกห้ามไม่ให้ร้องไห้ ทั้งที่เป็นสิทธิ์!
ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสา
'วิโรจน์' แนะรัฐบาลอ่านเกมรับมือ 'พ่อลูกตระกูลฮุน' ให้ขาด กำหนดมาตรการต้องชัดเจน
การรับมือกับสองพ่อลูกตระกูลฮุน เราต้องอ่านเกมให้ขาด และต้องกำหนดมาตรการทางการเมืองระหว่างประเทศให้เจาะจง พุ่งเป้าไปที่ กลุ่มทุนในเครือข่ายของตระกูลฮุน เป็นสำคัญ นั่นก็คือ LYP Group
'รักชนก-สหัสวัต' หอบหลักฐานร้อง ป.ป.ช. ฟัน 'สุชาติ' ปมซื้อตึก สปส. แพงหูฉี่
'รักชนก-สหัสวัต' ยื่นคำร้อง 'ป.ป.ช.' สอบ 'สุชาติ' พ่วงปลัดแรงงาน ปมซื้อตึกสกายไนน์แพงเกินจริง 2 เท่า ฟาด 'นายกฯ' ตั้งใครเป็น รมต. ควรเกรงใจประชาชน-ผู้ประกันตนด้วย
'รังสิมันต์' จี้ 'แพทองธาร' ประกาศให้ชัดความสัมพันธ์ครอบครัวไม่ใหญ่กว่าความสำคัญของชาติ
'รังสิมันต์' เชื่อ ปม 'ไทย-กัมพูชา' คุยแบบทวิภาคีสร้างบาดแผลน้อยที่สุด แนะตัดไฟก่อนประชุม JBC สร้างแต้มต่อให้ไทย ซัด 'นายกฯ' ต้องประกาศให้ชัดความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่มีวันใหญ่กว่าความสำคัญของประเทศ
'ศิริกัญญา' ชี้โยกงบ 68 ไม่เข้าข่ายมาตรา 144
'ศิริกัญญา' มอง ป.ป.ช.รับเรื่อง กมธ.ปรับลดงบ 68 รวม 3.5 หมื่นล้านไปกระตุ้น ศก.ไม่เข้าข่าย ม.144 ชี้ แต่หากผลออกมาว่าผิด อาจเป็นนิติสงคราม