'เอ็ดดี้' ชำแหละทุกเม็ดคำพูด 'ทิดสมปอง' ว่าด้วย 'หิวเงิน-3เดือนจะโกยร้อยล้าน'

5 ก.พ.2565 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" โดยมีรายละเอียดดังนี้

เสียพระดีไป 2 รูป จริงหรือ?

มหาไพวัลย์สึกแล้วเปิดตัวหนุ่มเกาหลี!

มหาสมปองสึกแล้ว มีเรื่องหนีสิน เงินทอง การพูดปด!

ตอนยังเป็นพระมหาไพวัลย์ มีประเด็นที่แรงกว่ามหาสมปอง

แต่พอสึกแล้ว สมปองมีประเด็นที่แรงกว่าไพวัลย์เยอะ
…………………………………
• ประเด็นที่ 1

“หนี้ 10 ล้าน”

คุณติ๋ม ทีวีพูล พูดว่า….

สมปอง มาพร้อมกับปัญหาเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินกว่า 10.9 ล้านบาท ตนเคยถามว่าเป็นพระทำไมมีหนี้เยอะแบบนี้ โดยเขาบอกว่าเป็นหนี้จากการซื้อที่ดิน 300 ไร่ ทำสวนยางพารา และต้องดูแลครอบครัวมีค่าใช้จ่ายเดือนละแสนกว่าบาท”

ย้อนไปเมื่อ วันที่ 30 ธ.ค. 64 รายการโหนกระแส

หนุ่ม-กรรชัย พิธีกรถามว่า…

“มีประเด็นที่คุณพูดเมื่อกี้ ว่าคุณไปขอคุณวัน ใช้หนี้ให้สิบล้านและเงินก้นถุง?”

“ตอนเป็นพระ เป็นหนี้อะไรสิบล้าน?”

สมปองตอบว่า…

“บางทีทำโรงเรียน ห้องเรียน สนามฟุตบอล หน้าใหญ่ใจโต สนามกีฬาสามสี่สนามก็หลายแสน เราไม่มีเราก็ไปยืมมาก่อน”

ศีล 5 ข้อที่ 4 มุสาวาทาเวรมณี อันหมายถึง การละเว้นจากการพูดปดงดเท็จ พูดจาโกหก พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย

แค่ 1 ในศีล 5 สำหรับฆราวาสยังรักษาไม่ได้

ทำให้คิดถึงตอนที่เป็นพระที่ต้องที่ถือศีลถึง 227 ข้อทันที ว่า…มันจะเป็นยังไง!!!

………………………………

• ประเด็นที่ 2

“พี่สาวไม่ได้ใช้หนี้ให้ผมนะ แต่เป็นเงินจากการทำงานของผม”
คุณติ๋ม ทีวีพูล พูดว่า….

“พี่วางแผนจะใช้หนี้ให้เขา ก็เลยจะทำรายการให้เขา 3 รายการ ค่าตัวเขาแพงกว่าดาราดังๆ อีก ให้คิวละ 5 หมื่น-แสนบาท ทั้งหมดได้ 250,000 2 ปี วางแผนให้หมดแล้ว"

ช่วยหางานให้ โดยดีลโฆษณา(เสนอตัวสมปองให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์)กับค่ายยักษ์ใหญ่ให้เขาหมดแล้ว

"พี่โทรไปหาค่ายรถ ค่ายมือถือที่ดังที่สุด ค่ายรถ”

สรุปว่า…

คุณติ๋ม ทีวีพูล ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในวงการ เป็นผู้ที่ช่วยวางแผน ติดต่อ ออกหน้า ประสานงาน เพื่อให้สมปองหาเงินปลดหนี้ให้ได้ภายปีสองปี

แต่สมปองพูดต่อว่า….

“ขออนุญาตพูดว่าพี่สาวท่านนั้นไม่ได้ใช้หนี้ให้ผมนะครับ แต่เป็นเงินจากการทำงาน"

มันแปลว่า…

ไม่มีสำนึกถึงบุญคุณที่เขาวิ่งเต็มจัดการหางานเพื่อจะได้เงินไปใช้หนี้เลย แถมยังทนงตนว่า หาเงินใช้หนี้ด้วยตัวเอง
………………………………

• ประเด็นที่ 3

“ไม่ใช่เรื่องค่าตัว ไม่ได้หิวเงิน”

สมปองพูดว่า…

“หากอยากรวยจริงๆ คงไม่บวชเป็นพระ เพราะไม่ได้เงินอยู่แล้ว ตนเรียน ป.โท สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ อาจารย์ก็บอกเรียนชั่วโมงแรกๆ ว่าเรียนคณะนี้ไม่รวย”

“ไม่รู้ว่าวันนั้นจะได้เซ็น ตอนเแรกทีมงานคิดว่าได้เดือนละล้าน ก็เซ็นกันจริง พอซิทคอมออกมาครั้งแรก ต้องตื่น 6 โมงเช้า ทำงาน 9 โมง ถึงตี 2 ยืนยันเราทำงานให้ใครก็คุ้มค่าเขา เป็นตัวตนอย่างเต็มที่ แต่เมื่อรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง และรู้สึกว่าทำงานให้เขาได้ไม่คุ้ม จึงไปขอคุยเรื่องเปลี่ยนแปลงสัญญา”

แปลว่า….

คิดว่าได้ค่าจ้างเดือนละล้าน

พอรู้ว่า 4 เดือนล้าน แถมต้องตื่น 6 โมงเช้า ทำงาน 9 โมง ถึงตี 2 เลยอยากเปลี่ยนใจ!!! รึเปล่า?

สมปองพูดต่อว่า….

"ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องค่าตัวอย่างแน่นอน ไม่ได้หิวเงิน ยึดตัวเนื้องานที่รับมาเป็นหลัก แต่เป็นเรื่องของความไหว ไม่ไหวของผมด้วย ขอย้ำผมไม่ได้หิวเงินขนาดนั้น ผมจะได้เงินเมื่อมีงาน”

คำพูดที่ว่า…

“ไม่ใช่เรื่องค่าตัว ไม่ได้หิวเงิน ยึดตัวเนื้องานที่รับมาเป็นหลัก”
แต่….

แต่ก็พูดเองว่า…

•1 คิดว่าได้เดือนละล้าน ก็เลยเซ็นสัญญา

•2 พอซิทคอมออกมาครั้งแรก ต้องตื่น 6 โมงเช้า ทำงาน 9 โมง ถึงตี 2

•3 บอกว่า “รู้สึกว่าทำงานให้เขาได้ไม่คุ้ม”

•4 หรือว่าความจริง”ทำงานให้เขาแล้ว แต่ตัวเองรู้สึกว่าไม่คุ้มกันแน่”

เพราะคำพูดที่ว่า”ทำงานตั้งแต่ 9 โมง ถึงตี 2” นี้มันคือการบอกว่าทำงานหนักมาก เพราะฉะนั้นมันต้องแปลว่าตัวเองรู้สึกไม่คุ้ม เพราะเข้าใจว่าจะได้ค่าจ้างเดือนละล้าน มากกว่าจริงมั้ย

แบบนี้หรือที่บอกว่า…

“ไม่ใช่เรื่องค่าตัว ไม่ได้หิวเงิน ยึดตัวเนื้องานที่รับมาเป็นหลัก”

ผู้สื่อข่าวถามว่า…

เรื่องอยากได้เงินเยอะๆ 3 เดือนร้อยล้านจริงไหม ?

สมปองตอบว่า…

ก็เป็นเชิงขำๆ ฟังจากพระอาจารย์มาเป็นทีเล่นทีจริง ก็เป็นแค่เป้าหมาย เป็นแค่แรงผลักดันเท่านั้น หลังจากนี้ก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

ขึ้นต้นแก้เก้อว่า “เป็นเชิงขำๆ”

แต่คำต่อมาคือเป้าหมายที่แท้จริงของชาติ

“ก็เป็นแค่เป้าหมาย เป็นแค่แรงผลักดัน”

ซึ่งมันแปลว่า…

“ตั้งเป้าไว้ว่า…จะหาเงินร้อยล้านให้ได้ภายใน 3 เดือน”

แล้วย้อนกลับไปที่คำพูดตอนต้นอีกครั้งที่พูดว่า…
“ไม่ใช่เรื่องค่าตัว ไม่ได้หิวเงินแน่นอน”

เฮ้ย…มันย้อนแย้ง มันขัดกันนะ
………………………………

ตอนที่เขายังเป็นพระอยู่นั้น เขาดูมีสง่าราศี ดูมีบารมีอยู่มากทีเดียว นั้นคงเพราะบุญ

แต่พอถอดผ้าเหลืองแล้วความมีสง่าราศี ความมีบุญบารมี หายไปหมดเลย นั้นคงเพราะหมดบุญ เป็นแน่แท้

ทอง…เอาผ้าไปห่อไว้มิดชิดขนาดไหน ก็ยังเป็นทอง

ขี้…เอาผ้าไปห่อไว้มิดชิดขนาดไหน ก็ส่งกลิ่นเหม็น

พระห่มผ้าสีเหลือง ทองก็สีเหลือง ขี่ก็ยังเป็นสีเหลือง

แต่เหลืองทั้ง 3 แบบ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เหลือพระ คือความบริสุทธิ์อันเป็นผลมาจากการละกิเลส

เหลืองทอง คือกิเลส

เหลืองขี่ คือสิ่งปฏิกูล

ผู้ที่บวชเป็นพระนั้นสังคมไทยใช้คำว่าบวชเรียน

แต่ 30 ปีกับการเรียนนักธรรม เปรียญธรรม ปริญญาตรี-โท อีก 2/3 ใบ แถมด้วยปริญญาเอกที่กำลังเรียนอยู่ ไม่ได้สามารถทำให้ขี่กลายเป็นทองได้เลยหรือ?

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอ็ดดี้' ข้องใจ! 'โชกุน' ทำตามออร์เดอร์ 'พญาอินทรีย์'

อัษฎางค์ ยมนาค โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุข้อความว่า น่าแปลใจไหมครับ ญี่ปุ่นให้รางวัลนี้กับ อ.ธงชัย ทั้งที่ญี่ปุ่นนี้ โค-ตะ-ร

ต่างชาติยังรู้ แก๊งบีบแตรไล่ขบวนเสด็จฯ โดนชาติตะวันตกล้างสมอง!

อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ชาวต่างชาติทราบข่าวตะวันบีบแตรไล่ขบวนเสด็จ โดยระบุรายละเอียดว่า เมื่อสั

'อัษฎางค์' เปิดกะลาด้อมส้ม เป็นอาณานิคมอย่างฟิลิปปินส์ ดีกว่าเป็นเอกราชอย่างไทย จริงมั้ย!

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ฟิลิปปินส์ เป็นเมืองขึ้น-พูดอังกฤษ ต้องก้าวไกล" ผมอยู่ที่ซิดนีย์ ก็มีเพื่อนฟิลิปปินส์หลายคนเหมือนกัน เพื่อนสนิทของลูกก็เป็นฟิลิปปินส์ จริงๆ

'อัษฎางค์' ชำแหละ รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเจ้าอาณานิคมยุคใหม่ ไม่เคารพธงชาติ ไม่สวดมนต์

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" ระบุข้อความว่า รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเจ้าอาณานิคมยุคใหม่

'อัษฎางค์' มอง 'แพรรี่' พูดถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด และไม่ควรดูถูกความเชื่อผู้อื่น

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากกระแสข่าวเรื่องที่ไพรวัลย์พูดเรื่องความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา โดยส่วนตัว ผมคิดว่า ไพรวัลย์พูดถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด ที่ว่าไม่ถูกซะทีเดียว

‘อัษฎางค์’ ข้องใจมีนัยยะแฝง ให้แม่บ้านขึ้นแสดงความยินดีผู้สำเร็จการศึกษา

เรื่องนี้มีนัยยะหรือเลศนัยแน่นอน เพราะสถาบันการศึกษาแห่งนี้เป็นแหล่งรวมคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์