'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' ออกลายทำตัวเป็นนายกฯสั่งปราบยาเสพติด ตำหนิแพทยสภาปั่นสถานการณ์เอง

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' ออกลาย ทำตัวเป็นนายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมสั่งงาน รมต.-ขรก.ปราบยาเสพติด ประกาศยกกำลังข้ามแดนจัดการว้าแดง หนำซ้ำยังสำแดงตนยิ่งใหญ่ตำหนิแพทยสภาไร้จริยธรรม เชื่อ 'สมศักดิ์' วีโตมติลงโทษ 3 หมอเพื่อเอาใจนาย ย้อน 'ทักษิณ' เป็นคนปั่นสถานการณ์คนเดียว

28 พ.ค.2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่า ทักษิณ ชินวัตร แสดงตัวเองเป็นคนยิ่งใหญ่ราวกับเป็นนายกฯ สั่งงานรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงที่มาฟังการปาฐกถาการปราบปรามยาเสพติด ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ให้ยกกำลังข้ามชายแดนไปจัดการว้าแดงแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศพม่า

ในช่วงทักษิณ เป็นนายกฯ และประกาศสงครามยาเสพติดเมื่อปี 2546 แต่มีการอุ้มฆ่ามากถึง 2,500 ศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐลงมือทำกับผู้ถูกกล่าวหาว่า ค้ายาเสพติด โดยหลายกรณีผู้เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและยังกระทำกับหัวคะแนนฝ่ายตรงข้ามก็มี

ดังนั้น การไปสำแดงตนที่ ปปส. พูดถึงการปราบปรามยาเสพติด จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จ เพราะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,500 ศพ แต่การค้ายาเสพติดก็ไม่จบ ดังนั้น การฆ่าจึงแก้ไขปัญหาไม่ได้

“ถ้าต้องการจะฆ่า ต้องไปแก้ไขกฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการฆ่า หากตราบใดยังมีกฎหมายไม่ให้ฆ่าอยู่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปฆ่าใคร แม้เลี่ยงการอุ้มหายว่า เป็นการฆ่าตัดตอนกันเองก็ตาม”

นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ พูดว่าถ้าพม่าไม่จัดการว้าแดงแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ในพม่าแล้ว ไทยจะไปจัดการเอง ที่สำคัญคือทำได้จริงหรือไม่ และจะยกกำลังข้ามไปปราบในประเทศพม่านั้น พูดกันมาหลายครั้งก็ยังไม่เห็นผลตามคำพูด

ส่วนทักษิณ ขู่ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หากแก้ปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้และยาเสพติดไม่ได้ แม้วิธีการแบบนี้ ทักษิณเคยยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 (พตท. 43) เพื่อแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้มาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่สงบ และนับวันยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น

รวมทั้งทักษิณ พูดใหญ่โตว่า จะให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจค้นในหมู่บ้านที่มีการค้ายาเสพติด และทักษิณจะไปเดินเล่นในต่างจังหวัด ซึ่งหมายถึงไปค้นหาเป้าหมายผู้ค้ายาเสพติดแล้วนำข้อมูลมารายงานปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ไปจัดการ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ดูเหมือนการพูดของทักษิณได้แสดงทั้งคำพูดและภาษากายว่า เป็นคนยิ่งใหญ่เหลือเกิน โดยมีพูดตำหนิแพทยสภาไม่มีจริยธรรม แก้ตัวไม่มีความบาดหมางในพรรคร่วมรัฐบาล แล้ววกมาพูดคาบลูกคาบดอกกรณีตนกอดกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แม้ไม่กล้าสื่อสารให้ชัดเจนจึงเป็นการพูดของคนที่มีระดับมาตรฐานต่ำ

"ทักษิณเลอะเทอะไปกันใหญ่ นักข่าวถามถึงการกอดกับนายสนธิ แต่กลับตอบว่า ไม่เลี้ยงเมียและลูกคนอื่น ต้องการจะบอกอะไรก็พูดให้ตรงไปตรงมา อยากจะขยายอะไร ไม่เห็นมีอะไรเลย อย่าเอาแต่พูดคาบลูกคาบดอก พูดให้ชัดเจนเลย เดี๋ยวจะเอาคืนบ้าง”

พร้อมทั้งกล่าวว่า เมื่อทักษิณจะประกาศสู้แล้ว แต่ไม่มีความชัดเจนไปศาลฎีกานักการเมืองในวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่ โดยตอบคำถามเลี่ยงไปว่า จะตัดสินใจตอนเที่ยงคืนวันที่ 12 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคนเคารพกระบวนการยุติธรรมจริงแล้ว ไม่ควรมีคำตอบกำกวมตีความได้หลายทางอย่างนี้

"คนถ้าจะไป ก็บอกชัดเจนว่าอย่างไรก็จะไปให้ความร่วมมือกับศาลอย่างเต็มที่ และด้วยเกียรติของอดีตนายกฯ จะไม่หลบหนีเด็ดขาด (ในตอนนี้) ซึ่งก็ไม่น่าหนีเพราะยังมีเวลาอีกตั้ง 2 สัปดาห์กว่าจะถึง 13 มิ.ย.ที่ศาลนัด"

ส่วนทักษิณบอกมีคนปั่นสถานการณ์จึงให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชะลอกลับไทยไปก่อน นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณเป็นคนปั่นสถานการณ์คนเดียว ไม่มีคนอื่นปั่นเลย เพราะยิ่งลักษณ์จะกลับและเลื่อนออกไปก็เป็นทักษิณพูด ที่สำคัญคนไทยยิ่งต้องการให้ยิ่งลักษณ์ กลับมารับความผิดตามคดีที่ศาลสั่งลงโทษ แล้วทำไมไม่กลับมา

นายจตุพร กลาวว่า ถ้าทักษิณ มีเหตุต้องกลับเข้าเรือนจำใหม่ ต้องไม่ลืมว่ายังมีคดี ม.112 อยู่ โดยศาลนัดพิจารณาต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม ดังนั้น ในวันเบิกความ ทักษิณคงได้ใส่ชุดนักโทษมาขึ้นศาล ซึ่งพร้อมจะรับกับสภาพแบบนี้ได้หรือไม่

รวมทั้งกรณีทักษิณ มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ มั่นใจจากอะไรและไม่เห็นวี่แววจะมีอะไรทำให้อยู่ครบวาระเลย ยิ่งถ้าทักษิณติดคุกหรือหนีอีกย่อมส่งผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาล และสั่นกระเทือนต่อนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร คงอยู่ในตำแหน่งอย่างยากลำบากขึ้น

นายจตุพร ประเมินการตัดสินใจของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขกรณีมติแพทยสภาว่า แต่เดิมตามกฎหมายมีทางเหลือเพียงการวีโต้กับไม่วีโต้เท่านั้น แต่ล่าสุด (เมื่อ 27 พ.ค.) นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ทำให้เข้าใจว่า จะมีทางเลือกที่ 3 เกิดขึ้นคือ ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะวีโต้หรือไม่วีโต้ เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากแพทยสภาจึงขาดหลักฐานนำมาวินิจฉัยโทษ 3 แพทย์ที่ผิดจริยธรรม

"ถ้าเลือกแบบสบายใจทางการเมืองที่สุดก็ต้องวีโต้ หากเลือกแบบกลางๆ แบบมึนๆ เลยก็เลือกไม่มีหลักฐานเพียงพอให้พิจารณา ซึ่งทางเลือกนี้อาจไม่มีใครคิด แต่ดูแล้วคำพูดของนายสมศักดิ์ ซึ่งมันชอบกล" นายจตุพร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

'จตุพร' ฟันธงเลือกตั้งวนลูปสับปลับ 'สงคราม-เงินเทา' ตัดสินชะตาบ้านเมือง

'จตุพร' ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับแล้วอ้างจำเป็นกอดคอตั้ง รบ. คาดพรรคใหญ่ปล่อยของซัดกันนัว ระบุ 3 ปัจจัยทั้งสงคราม เงินเทาสแกมเมอร์ และขุดดิจิทัลฟุตพริ้นท์ซ้ำเติมพูดแล้วลืมทำ ฟาดกันน่วม ชี้ ปชน.-พท.-ภท. กวาดเสียง แย่งชิงพรรคกลาง-เล็กตั้ง รบ.กลับกลอก

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม

จบไม่สวยสักคน 'จตุพร' เตือนการเมืองแบบเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียนอย่างที่เห็น

'จตุพร' เตือนการเมืองแบบวงศ์วานเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียน รู้ผลลัพธ์จบไม่สวย มาแบบไหน ไปแบบนั้น ลั่นประเทศไม่ใช่ห้องทดลองการบริหารบ้านเมือง

'จตุพร' ฟาด กกต.ขี้โม้ อวดจัดเลือกตั้งกลางสนามรบ แนะเลื่อนรับสมัครสส. ไปปีหน้า

'จตุพร' เตือนการเมืองแบบวงศ์วานเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียน รู้ผลลัพธ์จบไม่สวย ลั่นประเทศไม่ใช่ห้องทดลองการบริหารบ้านเมือง