นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม วิเคราะห์ไต่สวนนัดแรก กรณีบังคับโทษ “ทักษิณ” ชู 7 ประเด็นน่าสงสัย ตั้งแต่การใช้เกณฑ์ 608 จนถึงขั้นตอนส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ผ่าน รพ.ราชทัณฑ์ ตั้งข้อสังเกตหลายจุดอาจขัดหลักปฏิบัตินักโทษทั่วไป
14 มิถุนายน 2568 – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ปรานภรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “เส้นทางกลับสู่คุก” ระบุว่าผมได้ติดตามการเผยแพร่ การไต่สวนของศาลนักการเมือง กรณีบังคับคดีนายทักษิณว่า มีการติดคุกตามคำพิพากษาหรือไม่ ผมขอสรุปและแสดงความคิดเห็น ของการไต่สวนวันแรก ดังนี้
1.พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ ได้ตรวจร่างกายนายทักษิณ และระบุว่านายทักษิณอยู่ในเกณฑ์ผู้ต้องขัง 608 ซึ่งหมายความว่ามีผู้ต้องขังอายุเกิน 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 8 โรค
ข้อสงสัย คือ"เกณฑ์ 608" เป็นแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยเรา ใช้ในการจัดกลุ่ม "ผู้มีความเสี่ยงสูง" ต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น COVID-19 โดยเฉพาะช่วงที่มีการแพร่ระบาดหนัก โดยใช้เพื่อ วางแผนการให้วัคซีน ไม่รู้ว่าราชทัณฑ์จัดเกณฑ์นี้เพื่ออะไร มีอภิสิทธิ์อะไรในกลุ่มนี้ เพื่อทุกคนหรือไม่ หรือเพื่อบางคน
2.หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก และทำใบส่งตัวไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเรือนจำ
การทำใบส่งตัวล่วงหน้า ถ้าเป็นอาการป่วยปกติพอเข้าใจได้ แต่การทำใบส่งตัวล่วงหน้า หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถส่งตัวไปภายในอก จะรู้ได้อย่างไรว่า เหตุฉุกเฉินนั้นจะเกิด หรือมันใช่โรคที่เขียนไหม เช่นถ้าเป็นนิ้วล็อก แต่ตอนดึกมาเป็นหัวใจกำเริบ มันคนละอาการ อย่างไรก็ต้องให้แพทย์มาดู ถ้ารักษาไม่ได้ ต้องเขียนใบส่งตัวใบใหม่
3.จากการตรวจสอบพบว่านายทักษิณมีอาการความดันโลหิตสูง ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก แพทย์ไม่ได้ตรวจวินิจฉัยแต่พยาบาลเป็นผู้โทร.ไปประสาน นพ.ณัฐพร แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์ให้ความเห็นว่าสามารถส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำได้ทันที เนื่องจากมีใบส่งตัวอยู่แล้ว
อาการที่กล่าวเป็นเหตุฉุกเฉิน(ถ้าเป็นจริง) ทำไมไม่ส่งไปรพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกัน และถือว่ามีความพร้อมสูงเช่นกัน แต่ส่งตัวนายทักษิณไปรพ.ตำรวจ
4.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อยู่ใกล้กับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียกได้ว่ามีบริเวณรั้วติดกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งปกติผู้ต้องขังจะต้องถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ทุกครั้งก่อนส่งไปโรงพยาบาลภายนอก
คำเบิกความนี้เป็นการยืนยันขั้นตอนนักโทษทั่วไปว่า ถ้ามีนักโทษป่วย ต้องส่งไปที่รพ.ราชทัณฑ์ก่อนทุกครั้ง ถ้ายังรักษาไม่ได้จึงส่งต่อรพ.ภายนอก ดูแล้วย้อนแย้งกับคดีนายทักษิณ ที่สำคัญ "ทักษิณ" มิได้เข้าไปตรวจวินิจฉัยโรคที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่อย่างใด
หยุดอยู่ที่แผนกพยาบาลของเรือนจำ แล้วไปนอนห้องวีไอพีโรงพยาบาลตำรวจทันที แทนที่จะเข้าห้องไอซียูเพื่อให้เหมาะกับอาการป่วยวิกฤต
5.การส่งตัว "ทักษิณ" เป็นไปตามขั้นตอนมาตรา 55 ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ปี 2560 ไม่ได้ใช้การส่งตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) ที่ต้องขออนุญาตศาลก่อน
ประเด็นนี้มีข้อถูกเถียง ถ้าอ่านพรบ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป่วยนักโทษ มาตรา 54 จะหมายถึงการป่วยทั่วไป มาตรา 55 จะหมายถึงการป่วยที่มีอาการทางจิตหรือโรคติดต่อ และมาตรา 56 หมายถึงการป่วยหนัก บาดเจ็บสาหัส จึงตั้งข้อสงสัยว่า การส่งตัวนายทักษิณไปรักษารพ.ตำรวจโดยอ้างมาตรา 55 นั้นถูกต้องหรือไม่ น่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลต่อการอ้างมาตรา 55 ออกมาภายหลัง
6.มีประเด็นที่ทนายจำเลยซักคือ
การรับตัวผู้ต้องขังเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ที่มีการตรวจสอบร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ ซักประวัติ และมาพร้อมหมายจำคุกของศาล ถือเป็นการยืนยันว่าผู้ต้องขังได้รับการบังคับโทษแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งศาลบอกว่า "ศาลจะเป็นคนวินิจฉัยเอง"
เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก ในการลงทะเบียนนักโทษตามรท.101 ต้องถอดเสื้อถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ ต้องทำในแดนคุมขัง มีผู้ต้องขังคนอื่นด้วย ไม่ใช่มาพร้อมหมายจำคุกของศาล ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง ถ้าไม่เป็นไปตามระเบียบ อาจถือว่ายังไม่ได้ติดคุกเลย
7.ทนายให้สัมภาษณ์เรื่องใบเสร็จรับเงิน ไม่มีรายการค่ายา อ้างว่าเคยรักษาต่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดห้ามใช้ยาจากต่างประเทศ
แสดงว่าผู้ป่วยนำยา ที่หมอต่างประเทศจ่ายให้มาทานเองหรือ? แสดงว่าเช่าห้องพิเศษเพื่อนอนกินยาเองใช่ไหม? ทำไมไม่กลับไปกินยาในเรือนจำ สอดคล้องที่แพทยสภาแถลงว่า ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าป่วยวิกฤติ
บทสรุป แค่ได้ติดตามการไต่สวนวันแรก เริ่มเห็นเส้นทางกลับสู่คุกครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โอ๊ค' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' คุยเรื่องหลานๆ พร้อมฝากให้กำลังใจ 'ยศชนัน'
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร ระหว่างการเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 27 ภายหลังถูกคุมขังครบ 3 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา การเข้าเยี่ยมครั้งนี้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร
‘หมอวรงค์’ ชำแหละคำพูด ‘ธนาธร’ ชี้คิดแบบนี้ ประเทศไทยไปไม่รอด!
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ความคิดที่ผิดพลาดของนายธนาธร
‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน
“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ
ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ
ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.
ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำ ทนายดังเมืองปากน้ำ ตัวกลางประสานคดีผู้ต้องหาชาวจีนเพียบ
"ดีเอสไอ" สอบปากคำมากกว่า 20 พยานคดีคุกวีไอพี พบข้อมูลเด็ด "ทนายชื่อดัง" เมืองปากน้ำ เอี่ยวทะเบียนเยี่ยมญาติผู้ต้องขังชาวจีนเพียบ ! ลักษณะคล้ายตัวกลางประสานงานเรื่องคดีความ และพบเส้นเงินรับโอนกันระหว่างทนายดัง-ผู้ต้องขังจีน และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เเย้ม เร็ว ๆ นี้เตรียมสรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. ไต่สวนความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้

