
24 มิ.ย. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง ม็อบไล่รัฐบาลขายชาติ จุดติดแน่
มีหลายฝ่ายวิเคราะห์เรื่องการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าเป็นม็อบที่จุดไม่ติดบ้าง จำนวนคนไม่มากบ้าง ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลย่ามใจ และมั่นใจว่า ม็อบไม่สามารถล้มรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตรได้ จึงพร้อมใจกันสนับสนุนให้รัฐบาลแพทองธารให้ไปต่อ
แต่เชื่อว่าการวิเคราะห์หรือการประเมินการชุมนุมการเมืองภาคประชาชน ในลักษณะดูถูก และด้อยค่าพลังของประชาชน เหมือนกับไม่แคร์ไม่สนใจ ไม่ฟังกระแสความรู้สึกของประชาชน ที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับคนไทยทุกคน จะเป็นม็อบที่น่าจับตามองว่าจะมีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ถ้าเปรียบเทียบกับม็อบที่ผ่านมา ซึ่งเคยมีคนเข้าร่วมมากแล้ว เชื่อว่าการชุมนุมปกป้องอธิปไตยของชาติ จะมีคนเข้าร่วมมากกว่าอีก เพราะม็อบ พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย แบบเหมาเข่ง ที่มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากแล้วแต่เป็นม็อบการเมืองเลือกข้าง ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนระบอบทักษิณ กับฝ่ายที่ไม่เอาระบอบทักษิณ ยังมีประชาชนเข้าร่วมเป็นหลักล้านคน หรือม็อบต่อต้านบ่อนกาสิโน ซึ่งเป็นม็อบคุณธรรม มีกลุ่มอิสระ เช่น กลุ่มชมรมแพทย์ กลุ่มองค์กรทางศาสนา กลุ่มราชบัณฑิต เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ถือว่ามีความหลากหลาย ยังมีคนที่ไม่ฝักใฝ่การเมืองเข้าร่วมการชุมนุมด้วย
แต่ม็อบปกป้องอธิปไตยของชาติ เป็นม็อบที่ไม่มีสีเสื้อ ไม่มีฝ่าย ไม่มีพวก ไม่มีการเมือง แต่เป็นม็อบที่รักอธิปไตยของชาติ จะมีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากแน่นอน แม้แต่คนเสื้อแดงที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเจอปัญหาเรื่องอธิปไตยของชาติ คนเหล่านี้ยังเข้าร่วมด้วย จึงเชื่อว่าจะมีการเข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก ประกอบกับช่วงนี้ มีการซักซ้อม มีการนัดแนะ มีการชุมนุมในต่างจังหวัดหลายแห่ง ซึ่งเป็นมวลชนที่เคยชุมนุมมาตั้งแต่สมัยกลุ่มพันธมิตร กลุ่มกปปส.และกลุ่มนปช.
จึงทำให้เห็นความเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชนคึกคักอีกครั้ง และกระแสที่วัดได้ในขณะนี้ เห็นได้จากการบริจาคสนับสนุนการชุมนุมผ่านมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ในชั่วโมงแรกมีผู้บริจาคยอดเงินเฉียดล้านบาท ผ่านมา 5 ชั่วโมง ก็ยอดเงินบริจาคถึง 4-5 ล้านบาท ถือว่ามากเกินคาด เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า การชุมนุมทางการเมืองภาคประชาชนครั้งนี้จุดติดแน่ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบไม่ได้เป็นการชุมนุมยืดเยื้อ หรือพักแรม แต่เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงพลัง ให้รัฐบาลชุดนี้ได้เห็น ให้พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลได้ตื่นจากภวังค์ ได้ตื่นจากความคิดที่ดูถูกพลังของประชาชน
จึงให้จับตาดูว่า การเมืองภาคประชาชน ม็อบของประชาชนจุดติดแล้ว อย่าสบประมาท อย่าท้าทายกระแสสังคม เพราะชนชั้นผู้ปกครอง ผู้ถืออำนาจรัฐไม่ว่ายุคใดก็ตาม ที่ท้าทายพลังของประชาชน ท้าทายกระแสสังคม ทุกครั้งก็จบไม่สวย และพ่ายแพ้พลังมหาประชาชนมาแล้วทั้งสิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเบื้องลึก! ทำไมคน 'ปชป.' แห่กันลงปาร์ตี้ลิสต์
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ปัญหาปาร์ตี้ลิสต์ของประชาธิปัตย์
เทพไท เสนอ กกต. หยุดทำประชามติ MOU43-44 และไม่อนุมัติคนละครึ่งเฟส 2
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ข้อเสนอแนะต่อ กกต.และรัฐบาล
'เทพไท' ชี้ไทยกำลังเสียเปรียบในเวทีสากล แนะอนุทินต้องทำตัวอ่อนนอกแข็งใน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ไทย ต้องชนะกัมพูชา และเวทีสากล
'เทพไท' ชงบันได 3 ขั้น แก้ภัยคุกคามจากเขมร
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "3 ข้อเสนอ แก้ปัญหาภัยคุกคามจากเขมร" โดยระบุว่า
เทพไท เสนอแนะ 6 ข้อ จี้อนุทินหนุนทหารสู้รบตามยุทธวิธีอย่างเต็มที่
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า 6 ข้อเสนอ ต่อ อนุทิน
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ

