ดร.เสรี ลั่นไม่อยากให้มีเลือกตั้งแบบที่เป็นอยู่! ชี้ประชาธิปไตยไทยบ่มมาตั้งแต่ 2475 แต่กลับเน่า

ดร.เสรี วงษ์มณฑา ระบุไม่อยากให้มีการเลือกตั้งแบบที่เป็นอยู่มา 20 ปี จนกว่าคนไทยส่วนใหญ่จะพร้อม ชี้ประชาชนยังเลือกเพราะประชานิยมและกระแสประชาธิปไตยโดยไม่สนผลเสียประเทศ เปรียบประชาธิปไตยไทย “ผลไม้ที่ถูกสอยก่อนแก่” บ่มเท่าไรก็ไม่สุกหวาน มีแต่จะเน่าเสีย

5 กรกฎาคม 2568 – ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่าถูกถามเยอะว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป เลือกพรรคไหนดี

ตอบไปว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้งอย่างที่เป็นอยู่ใน 20 ปีที่ผ่านมา อันนี้ตอบแบบจริงใจ คือคิดแบบนี้จริง ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ

ประชาชนคนไทยจำนวนมากยังไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่ลงคะแนนเสียงอย่างมีคุณภาพในกติกาการเลือกตั้งแบบ 1 คน 1 เสียงอย่างเท่าเทียม

มีคนจำนวนหนึ่งเลือกเพราะต้องการผลประโยชน์จากโครงการประชานิยม โดยไม่สนใจว่าโครงการนั้น ๆ จะส่งผลเสียหายให้ประเทศอย่างไร

มีคนอีกจำนวนหนึ่งเลือกตามกระแสของการรณรงค์เรื่องประชาธิปไตยและความทัดเทียมให้ตัวเองดูทันสมัย ไม่สนับสนุนเผด็จการ

เมื่อเป็นเช่นนี้ มองไม่เห็นว่าพรรคไหนจะเอาชนะพรรคประชานิยมและพรรคกระแสประชาธิปไตยที่ทำให้คนเลือกดูทันสมัย

ถ้าไปเลือกพรรคอื่นที่ไม่ใช่ 2 พรรคที่ว่านี้ สุดท้าย พอเขากวักมือเรียกให้ร่วมรัฐบาลก็ไปรวมกับเขาเพื่อตำแหน่งรัฐมนตรี

พอเป็นพรรคร่วมก็ตามใจพรรคแกนนำ ไม่กล้าขัดใจเขา อ้างว่ารักษามารยาทการเป็นพรรคร่วม แต่ที่จริงน่าจะห่วงเก้าอี้มากกว่า ไม่กล้าขัด กลัวถูกถีบออก

เวลานี้ไม่เห็นว่ามีพรรคไหนจะเอาชนะพรรคประชานิยมที่ขี้โกง และพรรคกระแสประชาธิปไตยที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

เลือกพรรคอื่นที่ไม่ใช่ 2 พรรคนี้ เพราะคิดว่าเป็นพรรคที่ดี แต่ยังไงก็แพ้ และเมื่อติดตามพฤติกรรมของการเป็นพรรคร่วม ก็จะผิดหวังและเสียใจ

เพราะในที่สุดเพื่อรักษาเก้าอี้ เขาก็จะแสดงความเป็นคนขี้ขลาดทางจริยธรรม ไม่กล้าทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อรักษาตำแหน่ง

แต่พวกเขาจะพูดให้คนฟังดูเป็นคนหัวใจหล่อว่าการตัดสินใจนั้นเพื่อชาติ เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อรักษาเก้าอี้อย่างที่มีคนกล่าวหา

เมื่อฉากทัศน์การเมืองเป็นเช่นนี้ ใครถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกพรรคไหน ก็จะตอบไปว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้งจนกว่าคนไทยส่วนใหญ่จะพร้อมกว่านี้

แต่หากฉากทัศน์การเมืองเปลี่ยนไป ก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะตัดสินใจอย่างเดิม หรือจะมีข้อมูลใหม่ให้มีการเปลี่ยนแปลง

เข้าใจเลยว่า ประเทศไทยมีความพยายามจะเป็นประชาธิปไตยมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ที่ 6 จนถึงรัชกาลที่ 7 แต่หลายท่านมองว่าเรายังไม่พร้อม

แต่คณะราษฎรก็ทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เป็นการชิงสุกก่อนห่าม เป็นการสอยผลไม้ก่อนแก่จริง ดังนั้นจะบ่มยังไงมันก็ไม่สุกหอมหวานให้กินอร่อยได้ นอกจากเน่าเสีย

บ่มกันมาตั้งแต่ 2475 จนเป็นผลไม้เน่า ก็ยังจะบ่มต่อ มันคงไม่มีผลไม้ที่อร่อยหอมหวานให้กินหรอกนะ ทิ้งมันไป แล้วรอเก็บผลไม้ที่แก่จัดพอจะบ่มให้สุกได้ดีกว่า

ทั้งคนลงสมัครให้เลือก และคนลงคะแนนเลือก มันคือผลไม้ที่ไม่แก่จัดจากต้น เอามาบ่มให้สุกกินหวานกินอร่อยไม่ได้หรอกนะ

ขอบอกค่ะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภท.' เปิดตัว 5 ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก 'จุติ' นำทัพ คัมแบ็กลงเขต

ภท. เปิดตัวผู้สมัคร สส. พิษณุโลก ครบทั้ง 5 'จุติ ไกรฤกษ์' นำทัพ พร้อมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและปัญหาจากสมาชิกพรรค เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง

'กกต.กทม.' พร้อมรับสมัคร สส. 33 เขต เร่งแก้ระบบลงทะเบียนล่วงหน้า หลังพบ ปชช. เกิดปัญหา

กกต.กทม.เผย ความพร้อมรับสมัครผู้สมัคร 33 เขต เร่งแก้ไขระบบลงทะเบียนล่วงหน้าหลังพบ ปชช.บางส่วนลงทะเบียนไม่ได้เหตุสมาร์ทโฟนบางรุ่นไม่รองรับ อนุญาตใช้รถแห่แต่ห้ามจัดมหรสพ–การรื่นเริง แจ้งชัดติดป้ายผิดที่มีสิทธิถูกรื้อถอนพร้อมเรียกค่าใช้จ่าย เตือนประชาชนเผื่อเวลาใช้สิทธิ 2 ขั้นตอน ห่วงฝนกระทบคิวหน่วยเลือกตั้ง มั่นใจบริหารจัดการได้–คาดผู้มาใช้สิทธิเพิ่มจากครั้งก่อน

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

'ปชป.' คิกออฟ 'ไทยหายจน' พาคนไทยหลุดพ้นทนหายใจ

'ปชป.' คิกออฟแคมเปญ 'ไทยหายจน' สะท้อนปัญหาสังคมไทย ทนหายใจไปวันๆ จากทั้งปากท้อง-สังคม-คุณภาพชีวิต-การทุจริตคอร์รัปชัน ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง 'อภิสิทธิ์' ย้ำต้องไม่ทนอีกต่อไป

'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. เชื่อปีเลือกตั้งลงท้าย 9 'ปชป.' มักชนะ

'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. การันตีเฟ้นเข้มข้น ขอโอกาสคนกรุงไว้วางใจ ใช้การเมืองสุจริตเปลี่ยนแปลงประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต เชื่อเลือกตั้งปีที่ลงท้ายเลข 9 'ปชป.' มักชนะ