โฆษกรัฐบาล วอน 'หญิงหน่อย' เลิกดราม่าทำปชช.สับสน โจมตีน้ำมันแพง

โฆษกรัฐบาลสวน "หญิงหน่อย" เลิกนิสัยดราม่า หยุดสร้างความสับสนให้ปชช. ลั่นรัฐบาลดูแลราคาน้ำมันดีเซล ทำให้ราคาน้ำมันในไทยถูกกว่าหลายประเทศในอาเซียน ยันนายกฯ ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เหน็บระวังเลือกตั้งสมัยหน้าจะถูกปชช.เมิน

10 ก.พ.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวหารัฐบาลนี้ทำให้ราคาน้ำมันแพงกว่าประเทศอื่นๆอย่างต่อเนื่อง เพราะการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลสูงถึงลิตรละเกือบ 6 บาทว่า ตนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ใช้สมองส่วนไหนคิด เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง สร้างความสับสนให้กับประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลใช้กลไกเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยเหลือโดยการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 3.79 บาท โดยข้อมูลราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน อ้างอิง ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 5 ราคาน้ำมันของประเทศไทย เบนซิน ขายอยู่ที่ 34.55 บาท/ลิตร ดีเซลขายอยู่ที่ 29.94 บาท/ลิตร สิงคโปร์ เบนซินขายอยู่ที่ 66.89 บาท/ลิตร ดีเซลขายอยู่ที่ 56.07 บาท/ลิตร ลาว เบนซินขายอยู่ที่ 44.67 บาท/ลิตร ดีเซลขายอยู่ที่ 34.75 บาท/ลิตร ฟิลิปปินส์ เบนซินขายอยู่ที่ 38.95 บาท/ลิตร ดีเซลขายอยู่ที่ 32.02 บาท/ลิตร กัมพูชา เบนซิน ขายอยู่ที่ 38.19 บาท/ลิตร ดีเซลขายอยู่ที่ 30.88 บาท/ลิตร ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาของคุณหญิงสุดารัตน์แต่อย่างใด ตนอยากจะขอร้องคุณหญิงสุดารัตน์ให้หยุดพฤติกรรมปั้นหน้าเศร้าเล่าความเท็จไปวันๆ ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะเมินหนี อย่าใช้วิธีการเดิมๆ มาดิสเครดิตรัฐบาล ตนเชื่อว่าประชาชนรู้ทันแล้วว่า ที่ผ่านมาคุณหญิงสุดารัตน์ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศบ้างนอกจากการรับใช้อดีตนายกฯ บางคนที่ทุจริตคอรัปชั่น

โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลก็มีนโยบายชัดเจนโดยใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแลราคาอยู่ ในส่วนของของราคาน้ำมันแพงเป็นภาวะที่ทั่วโลกเผชิญ คาดว่าเมื่อพ้นฤดูหนาวของต่างประเทศไปแล้ว แนวโน้มราคาน้ำมันจะปรับลดลง มาตรการภาษีจึงจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่รัฐบาลจะดำเนินการ โดยจะดูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ว่าปรับขึ้นไปถึงจุดที่ไม่สามารถรับได้ จะไม่เข้าไปอุดหนุนเกินความจำเป็น เพราะรายได้จากภาษีน้ำมันก็เป็นรายได้หลักของรัฐบาล ซึ่งตอนนี้มีกองทุนน้ำมันที่ทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันอยู่

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ นโยบายดูแลระดับราคาพลังงานให้เหมาะสม เน้นดูแลประชาชนในภาพใหญ่ ลดผลกระทบต่อธุรกิจให้มากที่สุด ที่ผ่านมารัฐบาลและกระทรวงพลังงานก็ได้มีการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาช่วยเหลือประชาชน ด้วยการตรึงราคาค่าการตลาด และราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งผู้ประกอบการภาคธุรกิจส่วนใหญ่รวมทั้งประชาชนเข้าใจดีว่า ราคาพลังงานและน้ำมันโลกทุกวันนี้ เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี และราคาพลังงานในประเทศทุกวันนี้ ผู้ประกอบขนส่งยังสามารถประกอบธุรกิจและสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย ณ ขณะนี้” โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เก้าอี้โฆษกรัฐบาลเป็นเหตุ! ‘จักรภพ‘ ขอโทษ ’จิรายุ‘

“จักรภพ” โพสต์ขอโทษ ”จิรายุ“ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กรณีเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ยันไม่ได้ตั้งใจให้เกิดภาพวุ่นวาย ยอมรับ

'อนุทิน' ลั่นไม่ใช่ขี้ข้า 'คนขายชาติ-คนโกง' ชี้แก้ปัญหาชายแดนต้องเปลี่ยนรัฐบาล

“อนุทิน” ปราศรัยเดือดปรอทแตก หาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ เพิ่มเสียงฝ่ายค้าน ลั่น เป็นขี้ข้าคนขายชาติไม่ดี เป็นขี้ข้าประชาชนถือเป็นบุญสูงสุด ยอมรับเคยเสียใจถูกผิดสัญญาทั้งที่มาด้วยกัน ถ้าไม่มีภูมิใจไทย เพื่อไทยไม่มีนายกฯถึง 2 คน

'ภูมิใจไทย' หาเสียงดุเดือด! แกนนำดาหน้าทุบอิ๊งค์-ทักษิณ ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ

"ภูมิใจไทย" หาเสียงดุเดือด! เปิดคลิปเสียงอิ๊งค์คุยฮุนเซน ปราศรัยเวทีเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ​ “ไชยชนก” ชวนประชาชนสะท้อนความรู้สึกผ่านการเลือกตั้ง​ ขณะ “ไตรศุลี” ไม่ทน​ ฟาดแรงบริหารประเทศแบบนี้ “อีนี่ก็เป็นได้” ด้าน​“ภราดร” ย้อนถาม​ 2 ปี มีอะไรบ้าง มีกินไหม​​ มีใช้ไหม มีเกียรติไหม​ ​

'อนุทิน' ลั่นไม่ยอมเสียเวลาฟัง 'ทักษิณ' โจมตีภูมิใจไทย เชื่ออิ๊งค์ให้ร่วมรัฐบาลต่อ แต่พ่อนายกฯไล่ทุกวัน

"อนุทิน" ไม่เสียเวลาฟังเอ็กคลูซีฟ ทอล์ก "ทักษิณ" บอกไม่เกิดประโยชน์ เชื่อ นายกฯอิ๊งค์ อยากให้ร่วมรัฐบาลต่อ แต่ไม่มั่นใจพ่อนายกฯ เพราะไล่ทุกวัน ท้าพิสูจน์ผลงานมหาดไทยยุค มท.หนู ย้อนการเมืองถึงทางตันดีกว่าไม่ถึงจุดหมาย ชัดแล้วผลโพลชี้รัฐบาลไม่ควรบริหารประเทศต่อ

'เสี่ยหนู' ย้อนพรรคสีแดงไม่ตีงูเห่าแล้ว หันมาซื้อแทน จ่อลงโทษ 3 สส.โหวตให้รัฐบาล

“อนุทิน” ย้อน​ “ไล่หนู ตีงูเห่า” กลายเป็น “ไล่หนู ซื้องูเห่า” เชื่อระบบการเมืองใดๆ ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยการซื้องูเห่า​