โฆษกรัฐบาล อัดสื่อเทศ! ลงภาพมั่ว-พาดหัวข่าวผิด ชี้ไทยโดนยิงก่อน ไม่ใช่ผู้รุกราน

โฆษกรัฐบาลไทยติงสื่อต่างประเทศบางราย รายงานคลาดเคลื่อนทั้งภาพ–หัวข่าว ปมชายแดนเดือด ยันไทยตอบโต้ตามสิทธิ์ป้องกันตนเองหลังถูกกัมพูชาถล่ม

26 กรกฎาคม 2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศบางสำนัก เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีการนำเสนอข้อความและภาพข่าวในลักษณะที่คลาดเคลื่อนจากความจริงหลายประการ เช่น 1. การพาดหัวข่าวว่า “Thailand bombs Cambodia with F-16s” โดยไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการตอบโต้หลังจากที่ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงใส่ฝ่ายไทยก่อน ในเวลา 08.20 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568

2.การใช้ภาพที่ถ่ายจากฝั่งประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นพลเรือนชาวไทยหลบหนีเข้าไปยังหลุมหลบภัยในฝั่งไทย (ในภาพเป็นภาพในโรงเรียนไทยที่มีอักษรไทยอย่างชัดเจน )แต่กลับระบุว่าเป็นภาพของพื้นที่กัมพูชา

3.การใช้ภาพร้านสะดวกซื้อ ในปั๊มน้ำมัน ปตท.ในประเทศไทยที่กองทัพกัมพูชาระดมยิงด้วยอาวุธร้ายแรง จนได้รับความเสียหายมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ระบุว่าเป็น สถานที่พลเรือนของฝั่งไทยและกลับไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของการโจมตี ทำให้ผู้อ่านเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นผลจากการทิ้งระเบิดโดยฝ่ายไทย

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยทราบถึงความตั้งใจดีของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวและเข้าใจดีว่า สถานการณ์การโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดจากฝ่ายกัมพูชา ทำให้รีบร้อนในการรายงาน จนไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง แต่ขอให้ดำเนินการแก้ไขเพื่อความถูกต้องของข่าวสาร

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอย้ำท่าทีของรัฐบาลไทย ดังนี้ 1. ประเทศไทยยึดมั่นในหลักสันติวิธีและดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน โดยในกรณีที่เกิดการใช้กำลัง ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้เท่าที่จำเป็น และมีเป้าหมายเพื่อระงับยับยั้งสถานการณ์ ไม่ให้ลุกลามบานปลาย

2.การดำเนินการของฝ่ายไทยในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองตามหลักการสากล หลังจากที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนไทย ซึ่งมีประชาชน ที่อยู่ในโรงพยาบาลโรงเรียนและบ้าน ได้รับผลกระทบ บาดเจ็บและเสียชีวิต

3.ภาพที่ใช้ประกอบข่าวบางภาพเป็นภาพเหตุการณ์ในฝั่งประเทศไทย ไม่ใช่ในกัมพูชา

4.การรายงานข่าวที่ขาดความครบถ้วนในบริบท อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงในระดับนานาชาติ

“รัฐบาลไทยยินดีให้ข้อมูลอย่างเปิดเผย บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และด้วยความเคารพในบทบาทของสื่อมวลชนในการสะท้อนข้อเท็จจริงไปยังประชาคมโลก โดยหากสื่อมวลชนมีข้อสงสัย หรือประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนสามารถติดต่อได้ทั้งกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.)” นายจิรายุกล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้แล้วกว่า 7 แสนครัวเรือน วงเงินกว่า 6 พันล้านบาท

รัฐบาล เผยความคืบหน้าโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้แล้วกว่า 700,000 ครัวเรือน วงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท กำชับเร่งเดินหน้าช่วยเหลือ ปชช.ต่อเนื่อง แนะ ปชช.รีบผูกพร้อมเพย์รับเงินเยียวยา

'อนุทิน' ไม่หวั่นไหว 'ฮุนเซน' ปล่อยภาพใกล้ชิดผู้ว่าฯกัมพูชา มองเป็นเรื่องไร้สาระ

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯอนุทิน ไม่หวั่นไหว "ฮุนเซน" ใช้วิธีสแกมเมอร์ ปล่อยภาพใกล้ชิดกับผู้ว่าฯกัมพูชา มองเป็นเรื่องไร้สาระ แค่ภาพเก่า ไปร้านอาหาร ไปวัด ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดถึงขนาดเดินในห้องนอน กร้าวปัญหาชายแดนต้องจบในรัฐบาลนี้

เปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ กัมพูชาเปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน ไทยตอบโต้ตามหลักสากล

รัฐบาล ย้ำไทยใช้เครื่องบินรบเพื่อสกัดกั้นการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาที่เริ่มรุกรานก่อน จนเป็นเหตุให้ทหารไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต โดยตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองตามกฎการปะทะ อย่างได้สัดส่วน ตามหลักสากล

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

ครม. เคาะ 3 มาตรการด้านการเงิน ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พักเงินต้นยกดอกเบี้ย สินเชื่อสร้างอาชีพ กู้ยืมซ่อมบ้าน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยครม.เห็นชอบ 3 นโยบาย