ทหารไทยยึดพื้นที่ “ช่องอานม้า” คืนสำเร็จ ปักธงชาติขึ้นเสาและร้องเพลงชาติไทยกึกก้อง ย้ำจุดยืน “เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่!”
27 กรกฎาคม 2568 – เฟซบุ๊กเพจ army military force ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางสื่อสารของกองทัพไทย โพสต์ข้อความด่วนระบุว่า ทหารไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์ “ช่องอานม้า” จากฝ่ายผู้รุกราน (กัมพูชา) ได้สำเร็จแล้ว
รายงานระบุว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (27 ก.ค.) กำลังพลของไทยได้เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจ โดยมีการร้องเพลงชาติไทยอย่างกึกก้อง เพื่อแสดงความมุ่งมั่นและประกาศอย่างหนักแน่นว่า “เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่!”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้
เปิดภาพ นายพลชกเคง ระดับผบ.ของกัมพูชา บาดเจ็บจากโดรนทิ้งระเบิดบ้านสามหลัง
จากการสู้รบบริเวณชายแดนจังหวัดตราด พื้นที่บ้านหนองรี (บ้านสามหลัง) ทำให้กำลังพลฝ่ายกัมพูชาได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึง นายพลชกเคง ผู้บัญชาการยุทธบริเวณ ที่เป็นผู้อำนวยการยุทธอยู่พื้นที่ดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บจากโดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ที่ตั้งกองบัญชาการยุทธบริเวณ ในพื้นที่บ้านหนองรี ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ
ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น
กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม
ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ
กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ
'ปานเทพ' เรียกร้องเอาผิดไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมร ชี้เข้าข่ายโทษประหาร!
ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ระบุผู้ที่ส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยให้กัมพูชา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายช่วยข้าศึกทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
‘จตุพร’ เตือนสงครามไทย-กัมพูชา ต้องไม่จบแบบโง่ๆ แค่ให้พ้นสิ้นปี
จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาคืนดินแดนไทยและหยุดยิงจริง ชี้หากสงครามจะยุติในช่วงสิ้นปี ต้องไม่จบแบบลวงโลกหรือซ้ำรอยการหยุดยิงรอบแรก พร้อมย้ำไทยไม่อาจแลกแผ่นดินกับสันติภาพจอมปลอม

