
3 ส.ค.2568-ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ระวัง!สันติภาพปลอม ๆ บนชายแดนไทย-กัมพูชา : ภัยเงียบที่ไทยต้องเท่าทัน” เนื้อหาระบุ
แม้เสียงปืนจะเงียบลงชั่วคราวจากการปะทะระหว่างกองกำลังไทยกับกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ “ความเงียบ” ครั้งนี้ไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง หากคือ “ฉากหน้า” ที่ปิดบังแรงกระเพื่อมทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังซัดกระหน่ำภูมิภาคของเราอยู่เบื้องหลัง พื้นที่ชายแดนที่ดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องระหว่างสองประเทศ แท้จริงแล้วได้กลายเป็น “เวทีแข่งขัน” ระหว่างมหาอำนาจโลกไปแล้วอย่างไม่อาจปฏิเสธ
การขยับตัวของสหรัฐฯ และจีน ที่เข้ามามีบทบาทในพื้นที่นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย ที่ต้องการยึดหัวหาดทางทหาร โลจิสติกส์ และทรัพยากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยและกัมพูชาคือ “จุดยุทธศาสตร์” ที่กำลังถูกแย่งชิงทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะผ่านโครงการช่วยเหลือทางทหาร การซ้อมรบร่วม การเจาะฐานข้อมูลความมั่นคง หรือการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและคมนาคม
สถานการณ์จึงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่หลายฝ่ายพยายามทำให้ดูเหมือน การสู้รบที่เกิดขึ้นแม้จะจบลงชั่วคราว แต่ถ้าเราไม่เข้าใจโครงสร้างเบื้องลึกของปัญหา ไม่ทันเกมของผู้เล่นรายใหญ่ ก็อาจกลายเป็นเพียง “หมากเบี้ย” ในสงครามตัวแทนที่ไม่มีวันชนะได้จริง
เราจึงจำเป็นต้อง “ถอดรหัสภูมิรัฐศาสตร์ใหม่” ให้ขาด เห็นลึกถึงผลประโยชน์ที่ซ้อนกันหลายชั้น ทั้งทางทหาร เศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงระดับชาติ
รัฐบาลไทยจึงต้องแสดง “จุดยืนเชิงยุทธศาสตร์” ที่เฉียบคมและหนักแน่น ไม่ใช่แค่การประคองสันติภาพชั่วคราว เล่นกับกระแส หรือการเดินเกมตามแรงกดดันทางการทูต แต่ต้องสร้างความพร้อมทั้งทางทหาร การข่าว และการทูตแบบบูรณาการ พร้อมกับ “ยกระดับเอกภาพภายใน” ระหว่างรัฐบาล กองทัพ และประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะศัตรูที่แท้จริงในยุคนี้ ไม่ได้อยู่ตรงข้ามเราเพียงอย่างเดียว แต่อาจอยู่ในความแตกแยกของเราเอง หรือที่เรียกว่า “ไส้ศึก”
นี่ไม่ใช่แค่การปะทะระหว่างสองชาติ แต่คือสัญญาณเตือนว่า “ประเทศไทยกำลังอยู่ในวงล้อมของการแข่งขันอำนาจโลก” ที่หากเราไม่เร่งกำหนดยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีไหวพริบและกล้าหาญ สันติภาพที่เห็นอยู่อาจกลายเป็นเพียงม่านควัน ก่อนจะเกิดคลื่นแห่งความสูญเสียครั้งใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม เราต้องมองให้ลึก เห็นให้ขาด และเดินเกมให้ทันก่อนที่จะสายเกินไป…
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชายจีนเหยียบกับระเบิดขณะลักลอบเข้าไทย กกล.บูรพารีบส่งทีมเก็บกู้ช่วยชีวิต
เช้ามืด ตชด. ได้ยินเสียงระเบิดจากป่าละเมาะใกล้ถนนศรีเพ็ญ ตรวจด้วยโดรนพบชายจีน คาดลักลอบเข้าประเทศ บาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจาน กกล.บูรพาส่งชุดเก็บกู้เข้าช่วยทันที ก่อนประสาน ตม. ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
‘นายพลสีส้ม’ ชี้เปรี้ยงเกมเขมรเดินหลายชั้น ไทยเสี่ยงเสียเปรียบบนเวทีโลก
อดีตรองเลขาฯ สมช. วิเคราะห์ท่าที-ยุทธศาสตร์กัมพูชา ทั้งการไปยูเอ็น การสร้างสถานการณ์ชายแดน และผลต่อความชอบธรรมของไทย เตือนต้องเท่าทันเล่ห์กล ไม่เช่นนั้นไทยอาจตกเป็นฝ่ายถูกกล่าวหาในสายตานานาชาติ
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
ชาวบ้านชำราก อึดอัดสถานการณ์ชายแดน กระทบทำมาหากิน อยากให้รบกันไปเลยจะได้จบ
ชาวบ้านชำราก กังวลไทย-เขมร อาจปะทะรอบ 2 แต่อยากให้รบให้จบ เหตุทำกินลำบาก ด้านเอกชนขนเครื่องจักรแรงงานทำถนนชายแดนชำรากฟรี!!
ไทย-กัมพูชา บินโดรนสำรวจพิกัดปักหมุดชั่วคราววันแรก หลักเขต 42 บ้านหนองหญ้าแก้ว
ชุดสำรวจร่วมไทย-กัมพูชา บินโดรนสำรวจพิกัดปักหมุดชั่วคราววันแรกบริเวณหลักเขต 42 ได้ระยะทางแค่ 800 เมตร รังวัดGPSได้8 จุด พบอุปสรรค“ลมแรง-ป่าทึบ”


