'ณัฐวุฒิ' ย้อนอดีตโชว์พาวขาใหญ่! สั่งน้องๆตัวจี๊ดตัวเปรี้ยวในคุกช่วยดูแล'อานนท์-ไมค์'

'ณัฐวุฒิ'ย้อนอดีต ทำการบ้านอย่างมั่นใจ สั่งน้องๆผู้ช่วยงานในแดนให้ช่วยกันดูแล ตัวจี๊ดตัวเปรี้ยวทั้งหลายคุยหมด ส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกัน ช่วยดูแล'อานนท์-ไมค์' ตบตูด ปล่อยเด็กออกจากคุกเถอะครับ

21 ต.ค.2564- นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 4 กันยายน 63 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 06.30 น. เชิงบันไดเรือนนอนแดน 2

“เข้ามาเยี่ยมกันถึงในนี้เชียวเหรอวะ อานนท์” ผมส่งคำทักถึงทนายน้อยจากร้อยเอ็ดซึ่งนั่งขัดสมาธิกับพื้นรอทำประวัติอยู่ ถัดไปคือไมค์ ระยอง ที่เข้ามาทัศนศึกษาด้วยกัน

2 คนนี้เป็นแกนนำชุดแรกที่ผมพบในเรือนจำ ก่อนจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเกือบครบ

รู้ข่าวพวกเขาจะเข้ามาตั้งแต่บ่ายวันที่ 3 ผมต้องขึ้นเรือนนอนก่อนจึงจัดเตรียมข้าวของจำเป็นพร้อมสรรพฝากผู้ต้องขังผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ไว้ให้

เรื่องความเป็นอยู่ผมมั่นใจ ทำการบ้านไว้ก่อนด้วยการบอกน้องๆผู้ช่วยงานในแดนให้ช่วยกันดูแล ตัวจี๊ดตัวเปรี้ยวทั้งหลายคุยหมด ส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกัน

“ช่วยกันดูด้วยนะโว้ย มีอะไรก็บอกกัน พวกนี้มันน้องพี่”

“ครับอา”

ทุกครั้งผมแทนตัวว่าพี่ แต่พวกในแดนมันเรียกอากลับมาทุกที ….

เช้านั้นผมรับน้องด้วยกาแฟกับขนม “เคยเข้ากันมาก่อนมั้ย” ผมเช็คประสบการณ์

“ไม่เคยครับ ครั้งแรกทั้งคู่” 1 ใน 2 คนตอบ

ผมไม่เคยเจอไมค์ ตอนคุยกันก็สังเกตุเขาไปด้วย เจ้าตัวบอกไม่เคยเคลื่อนไหวการเมือง เป็นนักกิจกรรมที่ส่วนใหญ่ต่อสู้ประเด็นสังคม เปิดตัวเป็นที่รู้จักจากการชูป้ายไล่ประยุทธ์ที่ระยอง เป็นไมค์ ระยอง ของเพื่อนพี่น้องที่ร่วมต่อสู้จนวันนี้

ใจห่วงว่าเจอคุกจริงจะไหวไหม แต่ดูไมค์ไม่ใช่แค่นักต่อสู้ทางการเมือง เด็กหนุมคนนี้คงผ่านการต่อสู้ในชีวิตมาไม่น้อย สีหน้าแววตาไม่ใช่คนยอมแพ้ง่ายๆ เขาจะผ่านด่านทดสอบนี้ ผมสรุปในใจ

คงด้วยช่องว่างของวัยและไม่เคยพบกันมาก่อน บทสนทนาระหว่างผมกับไมค์จึงไม่ยาวนัก ส่วนอานนท์เรารู้จักกัน เขาเป็นทนายจำเลยคนหนึ่งในคดีก่อการร้าย เจอกันที่ศาลและงานกิจกรรมอื่นๆก็คุยกันบ้าง ปะทะกันจังๆตอนน้องๆลากผมไปกินลาบโต้รุ่งหลังงานแต่งดร.ปิยบุตร

ถึงขั้นร้องขอกลับบ้านกันเลยทีเดียว

อานนท์เป็นลูกชาวนา เรียนมัธยมเป็นประธานนักเรียน จบเนติบัณฑิตมีสิทธิ์สอบเป็นอัยการ ผู้พิพากษา แต่มาเอาดีทางเป็นผู้ต้องขัง น่าจะเป็นทนายไม่กี่คนที่ติดคุกมากกว่าจำเลย เป็นคนนิ่งๆแต่ถ้ากวนตีนก็ประสบความสำเร็จ
“ผมว่าเรือนจำน่าจะขายเบียร์นะพี่ ผู้ต้องขังจะได้กินผ่อนคลาย” เขาแสดงวิสัยทัศน์ตอนผมพาไปซื้อของที่ร้านค้า

“อานนท์อายุเท่าไหร่แล้วน้อง”

“36 ครับ”

อายุมากกว่าเราตอนอยู่บนเวทีปี 53 ผมนึกย้อนอดีต

“ตอนพี่ติดคุก ลูกพี่อายุเท่าไหร่”

“คนโต 2 ขวบ คนเล็กเพิ่งได้ 9 วัน อานนท์มีลูกหรือยัง”

“มีครับ ลูกสาว ยังเล็กอยู่” นัยน์ตาเขาสั่นไหว

“ข้างนอกเป็นไงบ้าง” ผมอยากรู้เหตุการณ์

“ไปเร็วมากพี่ คนตื่นตัว เด็กสู้ไปถึงรุ่นมัธยม ผมว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเร็วๆนี้ พี่มีอะไรแนะนำมั้ย”

“มันเลยวันของพี่ไปแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ของพวกน้อง พี่ไม่ได้คิด ไม่ได้ร่วมขบวนด้วย ไม่กล้าแนะนำหรอก …. “

“แต่ถ้าบอกได้ฝากน้องไว้นิดเดียว ถ้าต้องตัดสินใจ ให้เลือกความปลอดภัยของประชาชนไว้ก่อน เราตัดสินใจให้คนเจ็บตายไม่ได้ แต่ตัดสินใจให้เขาปลอดภัยได้”

น้องๆทุกคนทุกกลุ่มเข้ามาถ้าเขาไม่ถามเรื่องการต่อสู้ผมไม่เคยพูด นั่นเป็นครั้งเดียวที่เสนอความเห็นไปกับอานนท์ เพราะคิดว่าเขาน่าจะเป็นพี่ใหญ่คนหนึ่งในขบวน

อานนท์ออกไปแล้วกลับเข้ามาอีก เล่าให้ผมฟังว่าดึกวันที่ 14 ต.ค. 63 ตอนประกาศให้พี่น้องกลับบ้าน เขานึกถึงคำพูดนี้

ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ….

ผมตั้งใจบันทึกเรื่องราวของน้องๆในมุมที่ได้สัมผัส เพื่อชี้ให้ผู้มีอำนาจเห็นว่าพวกเขาก็เหมือนท่าน มีชีวิต เรื่องราว ปัญหา ความเจ็บปวดและการต่อสู้ของตัวเอง ไม่ใช่พวกกเฬวราก ป่วนบ้านกวนเมืองอย่างที่บางคนว่าร้าย

ไมค์เติบโตปากกัดตีนถีบมากับแม่ อานนท์เป็นลูกชาวนาที่เรียนจบกฎหมาย เป็นทนายมีลูกเล็ก ภาพชีวิตแบบนี้เห็นได้ทั่วไป

มีคนคิดต่างจากพวกเขา แต่ที่คิดเหมือนก็ไม่ใช่น้อย การต่อสู้ของเด็กรุ่นนี้คือปรากฏการณ์ของยุคสมัย สังคมไทยกำลังเผชิญคลื่นลมแห่งความเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ได้เป็นคนสร้างแต่เป็นผลผลิตของมัน

แม่เป็นห่วงไมค์ ลูกเมียคิดถึงอานนท์ คงมีคำถามว่าลูกของแม่กับพ่อของลูกไม่ใช่โจร ศาลยังไม่ตัดสินว่าผิด จะต้องขังจนถึงเมื่อไหร่

บ้านเมืองบอบช้ำประชาชนย่ำแย่ลงทุกวัน ประยุทธ์ดึงดันอยู่ต่อ รัฐธรรมนูญแก้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ทุกอย่างมาลงที่เด็ก เอาปืนยิง เอาคุกขัง แล้วเราจะออกจากวิกฤตนี้ได้อย่างไร

ผมไม่ได้เรียกร้องอภิสิทธิ์โดยอ้างเรื่องราวส่วนตัวของผู้ต้องขัง แต่สถานการณ์นี้จะจัดการโดยอำนาจ ด้วยความชิงชัง มองพวกเขาเป็นศัตรูไม่ได้ ขอเสนอให้เปลี่ยนวิธีคิด แก้ปัญหาด้วยความเข้าใจ เมตตาและอยู่บนความจริง

ปล่อยเด็กออกจากคุกเถอะครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

ตร. เตือนระวังคุก! โพสต์เล่นตลก 'วันโกหก' เกินขอบเขต

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

'ณัฐวุฒิ' โพสต์ต้อนรับ 'จักรภพ' กลับไทย ถึงเวลานิรโทษกรรมคดีการเมืองทุกข้อกล่าวหา

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้่อแดง และอดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

'ธนกร' ค้าน 'ณัฐวุฒิ' ย้ำไม่ควรนิรโทษ ม.112 ถามกลับ ใครมาด่าพ่อแม่จะยอมไหม

'ธนกร' ค้าน 'ณัฐวุฒิ' ย้ำ ไม่ควรนิรโทษกรรม คนผิด ม.112 เหตุ เป็นคดีความมั่นคงของรัฐ ไม่ใช่การเมือง ถามกลับ ใครมาด่าพ่อแม่จะยอมไหม แนะ อย่าเหมาเข่ง แม้เห็นต่าง ขอผู้ใหญ่บางพรรค อย่าให้ท้ายเด็กทำผิด ชี้ ปัญญาชนต้องเคารพกม.ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น