'เทพไท' ชี้จุดตายรัฐบาลอนุทิน!

25 ก.ย.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ “รัฐบาลอนุทิน : จุดตายคืออภิปรายไม่ไว้วางใจ” ระบุว่าเมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปคือ การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะต้องพิสูจน์กันว่า การทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทั้ง 2 พรรค คือพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างอิสระ ต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ ไม่มีการร่วมกันเป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่าย ซึ่งเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมือง เพราะความเป็นฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องมีความเป็นเอกภาพ ในพรรคฝ่ายค้านนั้น ต่างพรรคต่างค้านก็ได้ ไม่เกี่ยวกับเสถียรภาพใดๆ

แต่การอภิปรายนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ถือว่าเป็นการโหมโรง หรือเป็นออร์เดิร์ฟของการตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน เป็นยกแรกที่ฝ่ายค้านจะชิมลางด้วยการอภิปราย หรือเปิดแผลนโยบายรัฐบาลชุดนี้ เพื่อจะนำไปสู่การเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลในเชิงนโยบายและคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน ซึ่งจะนำไปสู่เมนคอร์ส หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในโอกาสต่อไป

การอภิปรายเรื่องนโยบายเป็นแค่การโหมโรง ถ้าเป็นการแสดงลิเก ก็บอกได้ว่า เป็นแค่ออกแขก ยังไม่ถึงเนื้อเรื่อง ยังไม่ถึงการแสดงจริง การแสดงจริงคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ได้จองกฐินไว้ล่วงหน้าแล้ว และประกาศชัดเจนแล้วว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีชุดนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะรอโอกาสหรือจังหวะใดกันแน่

ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้าหากการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาเสร็จ รัฐบาลยังไม่ได้ทำงานเลย ฝ่ายค้านจะจองกฐินโดยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ดูเหมือนจะใจดำเกินไป เหมือนการไม่ให้โอกาสฝ่ายรัฐบาลมากนัก ถ้าดูระยะเวลาที่เหมาะสม ก็น่าจะปล่อยให้รัฐบาลได้ทำงานไปก่อนสัก 2 เดือน หรือ 2 เดือนครึ่ง แล้วค่อยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงตอนนั้นรัฐบาลก็อาจจะมีประเด็น มีแผลให้ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาอภิปรายได้เป็นจำนวนมาก และไม่ว่าพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนหรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งสามารถจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยพรรคของตัวเองได้ มีเสียงรับรองญัตติเพียงพอ และไม่ว่าพรรคใดจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านอีกพรรค ก็พร้อมยกมือสนับสนุนแน่นอน ถ้าหากว่ามีการโหวตกันหลังจากการอภิปรายแล้ว รัฐบาลของนายอนุทินก็ไปไม่รอด เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่าเป็นจำนวนมาก

เพราะฉะนั้นเชื่อว่า นายอนุทินคงจะไม่ปล่อยให้มีการอภิปรายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแค่มีการล่ารายชื่อเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ได้ทันยื่นญัตติ นายอนุทินก็ประกาศยุบสภาทันที เพราะถ้าหากว่าปล่อยให้มีการยื่นญัตติและบรรจุในวาระการประชุมแล้ว นายอนุทินก็ไม่สามารถที่จะยุบสภาได้ และเมื่อเปิดอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร แพ้มติฝ่ายค้าน นายอนุทินจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ถูกคว่ำกลางสภา หรือตกเก้าอี้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายอนุทินคงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ หนูลงอ่างทองรับปากเร่งนำงบเยียวยาน้ำท่วมเข้า ครม.

นายกฯ และคณะ ลงพื้นที่โรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ ติดตามน้ำท่วม จ.อ่างทอง ยันจะเร่งนำงบที่กำกับดูแลเสนอ เข้า ครม.สัปดาห์หน้าเคาะเงินเยียวยารายเดือนจนกว่าน้ำจะหมด ทดแทนโอกาสที่ชาวไร่ชาวนาเสียไป

'โรม' เตือนอย่าหลงเหลี่ยมเรื่องทุ่นระเบิดต้องเดินหน้าทุบหม้อข้าวเขมร

'รังสิมันต์' เตือนรัฐบาลอย่าติดกับดักกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด เบี่ยงประเด็นจัดการสแกมเมอร์ จี้ต้องทุบหม้อข้าวตัวนี้ ชี้ 'สีหศักดิ์' ต้องบอกทั่วโลกเร็วกว่านี้ อย่าปล่อยให้เขมรใช้ความเป็นเหยื่อว่าเรารังแกเขา

ขาเมามีลุ้น! โสภณนั่งหัวโต๊ะแก้ปัญหาห้ามดื่มนอกเวลาขายหลังผู้ประกอบการร้อง

'ผู้ประกอบการ' บุกทำเนียบฯ ร้องทบทวน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยกเลิกห้ามดื่มนอกเวลาขาย ด้าน 'สิริพงศ์' รับเรื่อง แย้มแนวทางแก้ปลดล็อกกลางวัน -ขยายเวลานั่ง นำเรื่องเข้า คกก.ควบคุมน้ำเมาพรุ่งนี้

รังสิมันต์บอกยึดทรัพย์ 'ชนนพัฒฐ์' 159 ล้านน้อยเกินไป!

'กมธ.มั่นคงฯ'​ เชิญ 'ชนนพัฒฐ์' แจงพรุ่งนี้ 'โรม' มองยึดทรัพย์ 159 ล้านบาทน้อยเกินไป เชื่อมีมากกว่านี้ ถาม 'อนุทิน' เหตุใดยังอุ้ม 'ธรรมนัส' ซัดมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ซักฟอก 1 ปีมี 1 ครั้ง จะยื่นต้องเอาให้สำเร็จ

'อนุทิน' ประกาศกลางเวที วปอ.บอกเขมรหมดโอกาสกลับโต๊ะเจรจา!

'อนุทิน'​ ประกาศกลางเวที วปอ.​68 บอกกัมพูชา หมดโอกาสกลับโต๊ะเจรจา ขอร้องเป็นเพลง ​my way เมินภาษีทรัมป์​ หลังฉีก​ปฏิญญาสันติภาพ​ เล็งหาตลาดประเทศอื่นค้าขาย

นักวิชาการดีดปากตัวตึงพรรคส้มบอก 'แม่ทัพกุ้ง' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ใน รธน.

นักวิชาการสอนมวย 'วิโรจน์' พรรคส้ม ยัน 'พล.ท.บุญสิน' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตาม รธน. เพื่อปกป้องอธิปไตย