
กสม.ห่วงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ชี้กระทบเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม ติงต้องไม่ปิดกั้นเกินกว่าเหตุและไม่ได้สัดส่วนกับการควบคุมโรค
17 ก.พ.2565 - นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงข่าวว่า ตามที่ กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2565 จากนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และพวกขอให้ตรวจสอบการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ดำเนินคดีกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ภายหลังผู้ร้องและพวกถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีอาญาฐานชุมนุมโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินจากการรวมตัวเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ณ สำนักงานสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564
กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2565 พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ผู้ร้องและพวกใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 34 และมาตรา 44 รวมทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 19 และข้อ 21 ในการยื่นหนังสือร้องเรียนรัฐบาลที่กระทำการอันอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ณ สำนักงานสหประชาชาติ กรุงเทพฯ ในวันดังกล่าว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีอาญาข้อหาชุมนุมโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอาจมีประเด็นเกี่ยวกับสิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิในการชุมนุม จึงเห็นควรรับไว้เป็นคำร้องเพื่อดำเนินการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชนดำเนินการ
ในประเด็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ กสม. เคยมีรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีการชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2564 พร้อมข้อเสนอแนะแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 ระบุว่าแม้ว่ารัฐบาลมีความชอบธรรมในการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการจัดการและควบคุมการชุมนุมด้วยเหตุผลเพื่อเป็นการป้องกันภัยทางสาธารณสุข ประกอบกับเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบอาจถูกจำกัดได้ แต่เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบนั้น มีคุณค่าและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในระบอบประชาธิปไตย การบังคับใช้กฎหมายเพื่อจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบจะต้องสอดคล้องกับหลักความพอสมควรแก่เหตุ กล่าวคือต้องไม่ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบได้โดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคก็ตาม การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการชุมนุมของรัฐบาลมีแนวโน้มเป็นการห้ามการชุมนุมแบบเหมารวมและห้ามชุมนุมโดยเด็ดขาด และไม่ได้สัดส่วนระหว่างเสรีภาพในการชุมนุม กับความปลอดภัยสาธารณะหรือการป้องกันภัยทางสาธารณสุข ซึ่ง กสม. ได้มีข้อเสนอแนะให้คณะรัฐมนตรีหลีกเลี่ยงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เป็นไปเพื่อป้องกันภัยร้ายแรงที่กระทบต่อความมั่นคง และไม่อาจนำไปใช้ในการชุมนุมทางการเมืองทั่วไป
“กสม. มีความห่วงกังวลเป็นอย่างมากต่อการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินดำเนินคดีประชาชนซึ่งรวมกลุ่มกันเพื่อแสดงออกถึงข้อเรียกร้องทางการเมือง และข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในหลายกรณีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นเมื่อปลายปี 2564 หรือการชุมนุมของกลุ่มพีมูฟเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งประชาชนหลายคนต้องถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาชุมนุมโดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นกัน กสม.จึงขอเน้นย้ำให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนที่มิควรถูกปิดกั้นหรือถูกจำกัดอย่างเกินสมควรแก่เหตุ และไม่ได้สัดส่วนกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค”นายวสันต์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
จบข่าว! สมช.ยันไม่มีแนวคิดขยายพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินน้ำท่วมใต้
เลขา สมช. ยังไม่มีแนวคิดขยายพื้นที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน น้ำท่วมใต้ บอก ใช้แค่สงขลา จว.อื่นใช้กฎหมาย ปภ.ได้อยู่ ระบุ ถ้าสถานการณ์ปกติยกเลิกได้ก่อน 3 เดือน
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
'ดร.อานนท์' ชงใช้กฎอัยการศึกระเบิด 'ถนนลพบุรีราเมศวร์' ระบายน้ำจากแอ่งกะทะหาดใหญ่
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
'ประชาคมแพทย์' ปลุกจังหวัดภาคใต้ ใช้ 'ผู้ว่าฯหมูป่าโมเดล' รับมือวิกฤตน้ำท่วม ไม่ให้ซ้ำรอยสงขลา
'ประชาคมแพทย์' ชี้วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ ขาดผู้นำระดับพื้นที่ที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย ปลุกจังหวัดภาคใต้ลุกขึ้นใช้ 'ผู้ว่าฯหมูป่าโมเดล' เป็นตัวอย่างระดับสากลของวิธีบริหารภาวะวิกฤตด้วยศูนย์สั่งการเดียว จี้นายกฯอนุทินสั่งการด่วน อย่าให้ซ้ำรอยสงขลา
ในประเทศที่เสรีภาพดังขึ้นทุกวัน แต่เสียงของมารยาทเบาลงเรื่อย ๆ
แผ่นดินไทยในยุคนี้เต็มไปด้วยเสียงของการแสดงออก ใคร ๆ ก็พูดได้ คิดได้ โพสต์ได้ และเชื่อว่าการส่งเสียงของตนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย


