9 ตุลาคม 2568 - ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า การเมืองไทย "ดินแดนเรา : เมื่อตำแหน่งอธิปไตยถูกทดสอบที่บ้านหนองจาน"
มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องเจรจาให้ยืดยาว: เมื่อผืนแผ่นดินนี้ถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ใครเข้ามาตั้งหลักแหล่งโดยผิดกฎหมาย ก็ตกอยู่ในสถานะเดียวกับผู้บุกรุก ไม่ใช่เพราะเราโหดร้าย แต่เพราะอธิปไตยคืออาภรณ์ที่ปกป้องทั้งแผ่นดินและคนที่อาศัยอยู่ในนั้น
ที่บ้านหนองจาน ภาพที่เห็นไม่ใช่แค่บ้านหลังเล็กๆ แต่เป็นการทดสอบความเด็ดขาดของรัฐ ถ้าเราปล่อยให้ผืนแผ่นดินของเราถูกใช้เป็นที่ตั้งถาวรของคนต่างชาติ เรากำลังยินยอมให้ “การบุกรุกแบบนิ่ง” ค่อยๆ แผ่ขยาย เปลี่ยนชายแดนให้กลายเป็นพรมแดนที่ลบเลือน
อย่าเข้าใจผิด!! ว่าการยืนหยัดเรื่องอธิปไตยเป็นการปฏิเสธความเป็นมนุษย์ของผู้มาอยู่อาศัย
แต่ต้องมองให้รอบด้าน
การยกคำว่า “สิทธิมนุษยชน” มาเป็นโล่เพื่อสร้างความล้มละลายให้กับกฎหมายที่คุ้มครองแผ่นดิน เป็นการบิดความจริง ที่ท้ายสุดคนไทยที่บ้านถูกยึด ไร่นาถูกครอบครอง จนไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ทำกิน จะไปพึ่งพาใคร?
ถ้ารัฐจะมีเมตตา ก็ต้องเมตตาอย่างมีหลักการ เมตตาต้องไม่กลายเป็นข้ออ้างให้กฎหมายถูกย่ำยี เมตตาต้องมาพร้อมการจัดการ ไม่ใช่เพิกเฉย
คำเตือนแก่พวกโลกสวยที่ชอบพร่ำเพ้อว่า “สิทธิมนุษยชน” อย่างไม่เลือกที่มา คุณรู้ไหม พวกคุณกำลังปกป้องคนเขมรที่เข้ามาบุกรุกผืนดินไทย และเป็นการใช้คำที่สูงส่งมาบิดตัวความถูกต้อง
อย่าลืมสิครับว่า สิทธิมนุษยชนต้องยืนควบคู่กับกฎหมาย ไม่ใช่ใช้คำว่าสิทธิมนุษยชนเป็นโล่สำหรับการยุติระบบสิทธิของผู้อื่น
เราต้องการการจัดการที่มีศักดิ์ศรี: เด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมาย อ่อนโยนในการให้ทางเลือกแก่ผู้ที่ไร้ทางเลือก
นั่นคือความเป็นรัฐ ไม่ใช่การเอาใจผู้มาใหม่ที่รุกรานจนทิ้งคนของเราผู้ถูกรุกราน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ
กองทัพบกประณามกัมพูชา ใช้กำลังโจมตีพลเรือนชายแดน
โฆษกกองทัพบกระบุ การโจมตีชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยจำนวนมาก
ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น
กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม
ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ
กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ
'ปานเทพ' เรียกร้องเอาผิดไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมร ชี้เข้าข่ายโทษประหาร!
ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ระบุผู้ที่ส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยให้กัมพูชา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายช่วยข้าศึกทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
‘จตุพร’ เตือนสงครามไทย-กัมพูชา ต้องไม่จบแบบโง่ๆ แค่ให้พ้นสิ้นปี
จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาคืนดินแดนไทยและหยุดยิงจริง ชี้หากสงครามจะยุติในช่วงสิ้นปี ต้องไม่จบแบบลวงโลกหรือซ้ำรอยการหยุดยิงรอบแรก พร้อมย้ำไทยไม่อาจแลกแผ่นดินกับสันติภาพจอมปลอม

