โฆษกศาลแนะใช้ 'เอไอ' เขียน 'คำฟ้อง-คำร้อง' ต้องตรวจสอบความถูกต้องด้วย

'สุริยัณห์' โฆษกศาลยุติธรรม เตือน ใช้ AI เขียนคำฟ้อง คำร้อง ต้องตรวจสอบข้อมูลถูกต้อง ภายใต้กรอบกฎหมาย

09 ต.ค.2568 - นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลหลายชนิด โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์”(Generative AI) ที่มีอยู่ในตลาดค่อนข้างหลากหลาย ถูกนำมาใช้สนับสนุนการเขียนคำคู่ความ คำร้อง คำขอ คำแถลง เพื่อยื่นต่อศาล ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ศาลในหลายประเทศทั่วโลกก็กำลังเผชิญ อย่างไรก็ตามศาลยุติธรรมไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่และการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการปฏิบัติงานคดี แต่การใช้ในการปฏิบัติงานคดีในชั้นศาลจำเป็นต้องมีกรอบและกติกา ในการใช้งาน ดังเช่นที่องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรออกมาให้คำแนะนำ เช่น Council of Europe, UNESCO, OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) ต่างให้คำแนะนำว่าการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต้องอยู่ภายใต้กรอบความเป็นธรรม ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และการเปิดเผย (disclose)

ในประเด็นนี้ ศาลยุติธรรมไทยโดยท่านประธานศาลฎีกาได้ออก “คำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการปฏิบัติงานคดี พ.ศ. 2568” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำผู้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นศาลทุกฝ่ายว่า การใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต้องอยู่ภายใต้กรอบความเป็นธรรมและความบริสุทธิ์ยุติธรรมของกระบวนการศาลด้วย โดยหลักการสำคัญที่คู่ความที่เรียบเรียง และยื่นคำคู่ความ คำร้อง คำขอ คำแถลง ต่อศาลต้องยึดเป็นหลักสำคัญก็คือ ต้องเปิดเผยถึงการใช้ข้อมูล ที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าวตามหลักการเปิดเผย (disclose) และความโปร่งใส (Transparency)

อีกทั้งคู่ความจะต้องตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลและสร้างเนื้อหาของปัญญาประดิษฐ์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาคำคู่ความ คำร้อง คำขอ คำแถลง หรือข้อกฎหมาย หรือแนวคำพิพากษาศาลฎีกา
ที่ปัญญาประดิษฐ์ค้นหาอ้างอิงมาให้ เพราะคู่ความเป็นผู้ที่ต้องจะรับผิดชอบต่อการใช้สิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นสร้างขึ้นตามหลักความรับผิดชอบ (Accountability)

นอกจากนี้ ยังมีข้อควรคำนึงถึงอื่น ๆ เช่น การนำพยานหลักฐานในสำนวนคดีที่มีข้อมูลอ่อนไหวหรือข้อมูล ส่วนบุคคล (Personal Data) ใส่ลงไปในคำสั่ง (Prompt) เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์ประมวลผลอาจต้องระมัดระวังและพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบว่าจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลที่สามหรือไม่

ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ จึงขอเน้นย้ำว่า แม้การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะ Generative AI จะทำให้ลดเวลา ลดภาระ ในการทำงานคดีก็จริง แต่มีข้อจำกัดและข้อที่ต้องระมัดระวังอย่างมากในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานคดีในชั้นศาล ยิ่งมีข้อควรระมัดระวังเกี่ยวกับกรอบการใช้งานที่ต้องเคารพหลัก Due Process of Law (กระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย) อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในกระบวนพิจารณา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง 'สุริยัณห์' หวนคืนโฆษกศาลยุติธรรม โปรไฟล์เด่นนักสื่อสารองค์กรมืออาชีพ

ในวาระที่นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ประธานศาลฎีกาคนที่ 51 เข้าดำรงตำแหน่ง โอกาสนี้ประธานศาลฎีกา อาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสารของศาลยุติธรรม พ.ศ.2545 ข้อ 3

ร้องสอย '136 สว.' แท้ง! เปิดบันทึกสภาสูง แจงยิบเหตุระงับส่งศาลรธน.

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแจงยิบ เหตุระงับคำร้องส่งศาลรธน. สอย 136 สว. หลัง 3 ราย โวยปลอมลายเซ็น-ถอนชื่อ เผยพบ 5 ชื่อไม่ตรงที่เคยลงไว้

โฆษกศาลเปิดข้อบังคับ 'ปธ.ศาลฎีกาใหม่' เปิดช่องประกันตัวหากมีเหตุพิเศษ

นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรมให้ความเห็นกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการปล่อยชั่วค

สาหัส! เปิดคำฟ้อง ม.112 'นช.ทักษิณ' กระทำระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ร.9 ให้ทรงเสื่อมเสีย

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องใน

ก.ต. เสนอ ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง คกก.สดับตรับฟังข้อเท็จจริง ปมถุงขนมภาคสอง

ก.ต.เสนอ ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง คกก.สดับตรับฟัง ข้อเท็จจริง หลังทราบข่าวปูดถุงขนมภาคสอง พาดพิงอำนาจศาลประกันตัวผู้ต้องหา โฆษกศาลเผยยังไม่มีการตั้ง คกก.สอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้น