โฆษกศาลเปิดข้อบังคับ 'ปธ.ศาลฎีกาใหม่' เปิดช่องประกันตัวหากมีเหตุพิเศษ

3 มิ.ย.2568- นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรมให้ความเห็นกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา ฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด ว่าข้อบังคับดังกล่าวมีการเผยเเพร่เมื่อวันที่ 23 พ.ค.เเละให้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งข้อบังคับนี้มีประเด็นสำคัญเเละความพิเศษคือ เปิดทาง ปล่อยตัวโดยไม่ต้องประกันหากมีเหตุพิเศษ เเละให้เน้นความยืดหยุ่นตามพฤติการณ์

ข้อบังคับฉบับนี้ สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ให้ศาลสามารถปล่อยตัวผู้ต้องหาได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องใช้เงินทองหรือหลักทรัพย์ หากเข้าข่ายมี “เหตุพิเศษ” เช่นเป็นเยาวชน หญิงมีครรภ์ หรือป่วยรุนแรงถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต หรือความเสี่ยงที่จะหลบหนีหมดไปแล้ว และยังให้ศาล สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการควบคุมกำกับได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเพิ่มความเข้มงวด หรือผ่อนปรนให้เบาลง – รวมถึงการเปลี่ยนแปลงประเภทของสัญญาประกันหรือหลักทรัพย์ได้ตามพฤติการณ์ไม่ว่าคดีอยู่ในศาลชั้นใด

ซึ่งจะสร้างความเเตกต่างจากเดิมคือการปล่อยตัวชั่วคราวมักถูกเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของหลักประกันหรือเงิน แต่ข้อบังคับนี้สร้างความชัดเจนการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องใช้เงิน หากเข้าข่ายมีเหตุดังที่กล่าวไว้

ในกรณีที่มีคำสั่งให้ประกันแล้ว แต่ต่อมามีการถอนประกัน หรือผู้ต้องหาขอยกเลิกการประกัน ซึ่งที่ผ่านมาหากผู้ต้องหาหรือจำเลยหาประกันใหม่ไม่ได้ ก็จะไม่ขอประกันทำให้ต้องกลับไปถูกขัง แต่ข้อบังคับใหม่นี้ก็ได้คลี่คลายปัญหา เพราะให้ศาลมีดุลพินิจที่จะสั่งประกันต่อได้แม้ไม่สามารถหาหลักประกันหรือเงินมายื่น ถ้าพบว่าระหว่างที่เคยได้ประกันตัว ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยให้ศาลใช้มาตรการควบคุมอื่นแทน การเรียกประกัน เช่น สั่งรายงานตัว ห้ามออกนอกพื้นที่ หรือตั้งผู้กำกับดูแล

“มาตรการใหม่ตามข้อบังคับนี้สะท้อนถึงแนวทางการพิจารณาการประกันตัวและเรียกประกันของศาลยุติธรรมที่เน้นสร้างสมดุลระหว่างสิทธิผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา กับ ความปลอดภัยของสังคม เปิดช่องให้ศาลใช้ดุลพินิจตามข้อเท็จจริงด้วยความยืดหยุ่น โดยยึดหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักสากล โดยแนวคิดหลักคือการลดความสำคัญของหลักประกันที่เป็นตัวเงิน” โฆษกศาลยุติธรรม ระบุ

โฆษกศาลยุติธรรมยังระบุต่อว่า ข้อบังคับนี้ต่อไปในทางปฏิบัติสิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนคือการลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรรม เพราะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ไม่สามารถหาตัวเงินมาวางได้ ก็จะมีโอกาสได้รับการประกันตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม

และยังเป็นการบูรณาการการพิจารณาการคุมขังและการปล่อยชั่วคราวเข้าด้วยกัน หมายความว่าเมื่อมีการขอหมายขัง ศาลก็จะพิจารณาถึงความจำเป็นในการคุมขัง และความเสี่ยงในการปล่อยชั่วคราว พร้อมทั้งมาตรการป้องกันการหลบหนีและดูแลความปลอดภัยของสังคมไปพร้อมๆกัน

“และถ้าหากศาลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องคุมขังศาลก็ จะไม่ออกหมายขังเลย หรือหากศาลเห็นว่ามีเหตุให้คุมขังแต่สามารถปล่อยชั่วคราวได้ ก็อาจจะสั่ง ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นคำร้องขอประกันตัวแยกต่างหาก”

ถือเป็นการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการพิจารณาเพิ่มความรวดเร็วในการบริการประชาชน ซึ่งมาตรการนี้ใช้ในทุกชั้นศาล ไม่ว่าจะเป็นในชั้นฝากขัง ชั้นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือแม้แต่ ศาลฎีกา และศาลชั้นต้นก็ยังมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งปล่อยชั่วคราวได้ ด้วย หากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาหรือจำเลยมีการเปลี่ยนแปลงไป

ส่วนเรื่องการคุ้มครองสังคมก็ยังเป็นสิ่งที่ศาลให้ความสำคัญ เนื่องจากการเปิดให้ศาลใช้ดุลพินิจในการพิจารณาประกันมากขึ้นจะต้องไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสังคมหรือผู้เกี่ยวข้องในคดี ยืนยันว่าข้อบังคับนี้ไม่ได้อนุญาตให้ใช้ดุลพินิจโดยปราศจากหลักเกณฑ์ แต่ได้วางกรอบพิจารณาไว้ชัดเจน อาทิ การใช้ระบบ ประเมินความเสี่ยง หลักความได้สัดส่วน และการพิจารณาเป็นรายบุคคลและรายคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งศาลต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง ความจำเป็นในการป้องกันความเสียหาย กับการไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพเกินจำเป็น โดยคำนึงถึงพฤติการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล เพื่อให้ดุลยพินิจนั้นมีความเหมาะสมและเป็นธรรม แนวทางนี้ถือว่าช่วยให้ผู้พิพากษาสามารถตัดสินใจได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีหลักฐานเชิงประเมินรองรับอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่การตัดสินใจจากความรู้สึกส่วนตัว จึงเชื่อมั่นว่าระบบใหม่นี้ สามารถคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา ไปพร้อมกับ รักษาความปลอดภัยของสังคมในภาพรวม ได้อย่างมีดุลยภาพมากยิ่งขึ้น

“มาตรการใหม่ตามข้อบังคับนี้ สะท้อนถึง แนวทางการพิจารณาการปล่อยชั่วคราวและเรียกประกันของศาลยุติธรรมที่เน้นสร้างสมดุลระหว่างสิทธิผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา กับความปลอดภัยของสังคม เปิดช่องให้ศาลใช้ดุลพินิจตามข้อเท็จจริงด้วยความยืดหยุ่น โดยยึดหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักสากล” โฆษกศาลยุติธรรมระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขาฯศาลยุติธรรม ห่วงใยช่วงปีใหม่ เมาเเล้วขับ อาจใช้ดุลพินิจยึดรถไม่รอลงอาญาได้

นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ ศาลยุติธรรมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามพื้นที่ต่างๆ

ก.ต. เสนอ ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง คกก.สดับตรับฟังข้อเท็จจริง ปมถุงขนมภาคสอง

ก.ต.เสนอ ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง คกก.สดับตรับฟัง ข้อเท็จจริง หลังทราบข่าวปูดถุงขนมภาคสอง พาดพิงอำนาจศาลประกันตัวผู้ต้องหา โฆษกศาลเผยยังไม่มีการตั้ง คกก.สอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้น

โฆษกศาลแจงกรณีสั่งหาเอกสารยืนยัน 'บุ้ง' เสียชีวิต เป็นไปตามขั้นตอนก่อนจำหน่ายคดี

กรณี น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ ทะลุวัง เพื่อนของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง จำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการทำโพลขบวนเสด็จ ที่บริเวณลานหน้าห้างสยามพารากอน

ศาลอาญาดีเดย์ต้น เม.ย.เปิดแผนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

เม.ย.อธิบดีศาลอาญาเปิดเเผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจัดผู้พิพากษาเชี่ยวชาญนั่งพิจารณาคดีบัญชีม้า เว็บพนันฉ้อโกงออนไลน์ทันท่วงที ต่อยอดการเป็นศาลดิจิทัลสืบพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์