'ประชาคมแพทย์' ให้ความเห็นทางวิทยา ศาสตร์ว่าด้วย 'เสียงหลอน'

15 ต.ค.2568 – เพจประชาคมแพทย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ปฏิบัติการจิตวิทยา (Psychological Operation) ริมชายแดน — Ghost sound และความเห็นของประชาคมแพทย์” ระบุว่า

ช่วงนี้มีเสียงประหลาดที่ได้ยินตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา — ข้อมูลที่ตรวจสอบได้ชี้ว่าเสียงเหล่านี้ มีจริง และส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของ เอกชน/ชาวบ้านกลุ่มชาตินิยม บ้างในพื้นที่ชายแดน ที่ผ่านมา ทั้งสองฝั่งก็มีการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ เช่น การตัดรั้ว การส่งเสียงตอบโต้ หรือการใช้สัญลักษณ์ชาติเพื่อสร้างแรงกดดันทางสังคม

เราขอชี้ประเด็นสำคัญ 4 ข้อ ที่ประชาคมแพทย์เห็นว่าเป็นข้อมูลเชิงเหตุผลสำหรับชาวบ้านและผู้อ่านทั่วไป

1. นี่คือ “ปฏิบัติการจิตวิทยา” ในเชิงสังคม มากกว่าจะเป็นสงครามยุทธศาสตร์

การส่งเสียงเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดกลัวหรือไม่สบายใจ เป็นเทคนิคที่เรียกได้ว่าเป็นปฏิบัติการเชิงจิตวิทยา — แต่หลายครั้งผู้กระทำคือประชาชน/กลุ่มชาตินิยมท้องถิ่น ไม่ใช่กองทัพโดยตรง

2. อุปกรณ์หวังผลทางไกล (LRAD : Long Range Acoustic Device / Phase Array) น่าจะไม่เกี่ยวกับกรณีส่วนใหญ่

การจะส่งเสียงให้ได้ผลทางยุทธศาสตร์ต้องมีอุปกรณ์ราคาแพงและการควบคุมทิศทางอย่างแม่นยำ แต่ที่เกิดขึ้นมักเป็นเสียงระดับชาวบ้านหรือการกระทำเชิงสัญลักษณ์ ซึ่ง ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง และมักให้ผลจำกัด

3. Blowback — ระวังผลย้อนกลับที่กระทบคนของเราเอง

ถ้าไม่มีการควบคุมทิศทางเสียงอย่างดี เสียงที่ส่งออกไปอาจสะท้อนหรือรบกวนฝั่งที่เริ่มทำก่อน เสียงอาจย้อนมาเป็นปัญหากับชาวบ้านไทยหรือคนในพื้นที่ได้ — นี่คือความเสี่ยงสำคัญที่มองข้ามไม่ได้

4. หลักการเรา: อย่าตัดสินจนกว่าจะมีหลักฐานและผลกระทบทางสุขภาพจริง

ในฐานะประชาชนและเครือข่ายแพทย์ เราเห็นว่าถ้าการกระทำไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกับคนไทย เรา ยังไม่ควร ด่วนสรุปหรือยกระดับเป็นประเด็นการฟ้องร้อง และถ้าฝั่งกัมพูชาพิสูจน์ได้ว่ามีผลกระทบจริง ก็ต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคและความรับผิดชอบตามหลักฐาน

ข้อเสนอเชิงปฏิบัติของประชาคมแพทย์

สนับสนุนการเก็บข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์: บันทึกเสียงพร้อมพิกัด เวลา และอาการของผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะคนไทย ในบริเวณนั้น

หากชาวบ้าน คนไทย มีอาการทางสุขภาพ (นอนไม่หลับ ปวดหัว ฯลฯ) ให้ลงข้อมูลเป็นหลักฐานทางการแพทย์สนับสนุนการเจรจาเชิงทูตและการตรวจสอบอิสระเมื่อมีหลักฐานชัดเจน มิใช่การตอบโต้ด้วยการกล่าวหาทันทีเตือนเรื่อง blowback: อย่าปล่อยให้การตอบโต้ด้วยวิธีไม่ระมัดระวังกลับมาทำร้ายชุมชนของเราเองในเรื่องของ Ghost Sound นี้

เรามีข้อสังเกตเพิ่มเติม:

1.ชายแดนไทย–กัมพูชาเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศหลากหลาย — ป่าทึบ, แนวเขา, หุบเขา, หมู่บ้าน – ซึ่งอาจทำให้การส่งเสียงมีอุปสรรคเยอะ

2.ประชากรชายแดนอาจมีภาษีท้องถิ่น ความสัมพันธ์ชุมชน — ถ้าคนในฝั่งกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนมีความรู้สึกเป็นของถิ่น (local identity) หรือมีสายสัมพันธ์กับฝั่งไทย–กัมพูชา การใช้เสียงอาจไม่ประสบผลตามที่หวัง

3.ข่าว “เสียงหลอน” ถ่ายทอดในกลางคืนที่หมู่บ้านตะเข็บชายแดน แสดงว่ามีความตั้งใจทำเชิงยุทธวิธีในช่วงเวลาที่พลเมืองอ่อนแอที่สุด เพื่อหวังผลให้พลเมืองที่บุกรุกอยู่ใน ประเทศไทยได้ ออกจากพื้นที่

4.การใช้ LRAD / อุปกรณ์เสียงกำลังสูง — ข่าวระบุว่า LRAD ถูกใช้ในจังหวะปะทะหรือการจัดการผู้ชุมนุมชายแดน ซึ่งถือเป็นวิธีจัดการทางมาตรฐาน เพื่อป้องกันความรุนแรงไม่ให้ถึงชีวิต ตามลำดับขั้นของยุทธวิธี

5.แรงกดดันจากสาธารณะ / สื่อ / กฎหมาย

นักการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนบางส่วนได้ออกมาแสดงความเห็นว่าปรากฏการณ์นี้อาจเข้าข่าย “ละเมิดอนุสัญญาทรมาน” สร้างแรงกดดันทางกฎหมายและภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ

แต่ในเวลาเดียวกันก็เกิด แรงต้านจากกระแสชาตินิยม ภายในประเทศทันที ซึ่งมีอยู่มากในขณะนี้ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในหมู่คนไทยเอง รัฐบาลและพรรคการเมืองบางส่วนอาจยอมปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนั้น เพราะรู้ดีว่าเมื่อฝ่ายวิจารณ์พูดเรื่อง “Ghost Sound” มากเท่าใด กระแสความรักชาติของประชาชนก็ยิ่งถูกกระตุ้นมากขึ้น — และสุดท้ายคะแนนนิยมก็ไหลกลับมาสู่รัฐบาล

ความเห็นโดยรวม / ประเมินโอกาส

ฝั่งไทยอาจใช้เสียงหลอน / “ghost sounds” หรืออุปกรณ์เสียงบางชนิดเป็นองค์ประกอบหนึ่งในแนวปฏิบัติการ psy-ops ตามแนวชายแดน ในสถานการณ์ตึงเครียด หรือ เป็นการตอบโต้ การละเมิดข้อตกลง แบบอ้อมๆ

แต่โอกาสที่เสียงนั้นจะ “ได้ผล” ในระดับยุทธศาสตร์คือ จำกัด — ผลสำเร็จอาจเกิดในระดับหมู่บ้านเล็ก ๆ หรือส่งผลต่อความรู้สึกชั่วคราว แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองหรือแกนหลักความขัดแย้งได้

เป้าหมายที่อาจเป็นไปได้ที่สุดคือ “การกดดันทางจิตวิทยาต่อชาวบ้านฝั่งตรงข้าม” เพื่อให้เกิดแรงกดดันให้กลับบ้าน, เคลื่อนย้ายออก, หรือสร้างความไม่แน่ใจในฝ่ายตรงข้าม

สรุป ความเห็นของ ประชาคมแพทย์

ปรากฏการณ์เสียงที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงในระดับท้องถิ่น และมีลักษณะเป็นปฏิบัติการจิตวิทยาเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหาร ถ้าไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวไทย เราควรตั้งหลักรอหลักฐานและให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูล สุขภาพของประชาชนไทย ในบริเวณนั้น และข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ก่อน นำมาเป็นความขัดแย้งภายในประเทศ หรือขยายไปสู่ การฟ้องร้องระหว่างประเทศ มีเรื่องหลายเรื่องในสังคม ที่มันไม่ใช่เป็นเรื่องของสีขาวและสีดำ ไม่มีใครถูกทั้งหมดและไม่มีใครผิดทั้งหมด

อย่าออกตัวแรงในการที่จะด่าว่าใครคนใดคนหนึ่ง และก็อย่าเชียร์คนใดคนหนึ่ง มากเกินไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สีหศักดิ์' รับ 12 พ.ย. ไทยปล่อยตัว 18 ทหารเขมร ปัดแลกภาษีทรัมป์

'สีหศักดิ์' รับไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย 12 พ.ย.นี้ ปัดสหรัฐกดดันด้วยมาตรการภาษีนำเข้าสินค้า ชี้ ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

โฆษกรัฐบาล เผยรบ.โอนเงินให้ผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว 10 ครั้งยอดเงินทะลุ 1.3 พันล้าน

โฆษกรัฐบาล เผย รบ.โอนเงินให้ผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว 10 ครั้ง เกือบ 3 แสนครัวเรือน เป็นเงินกว่า 1.3 พัน ล้าน

กองทัพเลือก 'จันทบุรี' ประเดิมสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา

‘กองทัพไทย’ เดินหน้าสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา คาดจุดแรกจันทบุรี หลักเขต 52–54 ยันสร้างเฉพาะพื้นที่ตกลงร่วมได้ เคลียร์ทุ่นระเบิดก่อนลงมือ

ระวังขัดรธน.! ปฏิบัติตาม 'ถ้อยแถลง' เหตุเขมรยังเป็นภัยมั่นคงของไทย

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คนไทย Shock…อนุทิน!" โดยระบุว่า 27 ตุลาคม 2568 วันแห่งความอัปยศของคนไทย