'ไทย-เขมร'เห็นชอบสำรวจ-วางหมุดชั่วคราว 'บ้านหนองหญ้าแก้ว- หนองจาน'

'เจบีซี' เห็นชอบสำรวจ-วางหมุดชั่วคราวเร่งด่วนหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 หนองหญ้าแก้ว- หนองจาน เสนอรัฐบาลเห็นชอบกำหนดกลไกปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป ระบุไม่กระทบกับสิทธิเรื่องเขตแดน

23 ต.ค.2568 – เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ต.ค.2568 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้เผยแพร่เอกสารคำแปลอย่างไม่เป็นทางการผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ จัดขึ้น ณ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 - 22 ตุลาคม 2568 ระบุว่า

1.การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ จัดขึ้น ณ จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 21 - 22 ตุลาคม 2568 ฝ่ายไทยนำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศด้านเขตแดน เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) และฝ่ายกัมพูชานำโดย นายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายกัมพูชา)

2.การประชุมเป็นไปภายใต้บรรยากาศแห่งมิตรภาพและฉันมิตร

3.ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม

4.ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง

5.ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

6.เกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว

ก.ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47

ข.เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป

ค.การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ

ง.ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อธิบดีศิลปากร' ยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดเป็นของไทย

'อธิบดีกรมศิลปากร' ยืนยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดยังตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย รวมถึงปราสาทอื่นด้วย 'บัวแก้ว' ขอกัมพูชายุติใช้พื้นที่โบราณสถานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร

ฟ้อง UN 'กัมพูชา' ยิง BM-21 เป้าหมายพลเรือน ละเมิดสิทธิ์ห้ามต่างชาติ-คนไทยเดินทางกลับ

กต.ส่งหนังสือถึง ยูเอ็น ฟ้อง กัมพูชา ถล่มเป้าหมายพลเรือน - ละเมิดสิทธิ์ห้ามต่างชาติและคนไทย เดินทางกลับทางบก ด้าน สีหศักดิ์ แจงข้อเท็จจริง รมว.ต่างประเทศเวียดนาม

ก.ต่างประเทศ แข็งกร้าว! เปิด 5 ประเด็นหลัก ไทยชี้แจงคณะทูต กัมพูชาเหยียบย่ำข้อตกลงสันติภาพ

ก.ต่างประเทศ กร้าว! ไทยหมดความอดทนต่อกัมพูชา เหยียบย้ำข้อตกลงสันติภาพ ยัน เดินปฏิบัติการทางทหารจนกว่าจะเปลี่ยนจุดยืน เผย 'กต.' เชิญเอกอัครราชทูตมาเลเซีย-อุปทูตสหรัฐฯ พร้อมทำหนังสือแจ้ง UN มั่นใจ

เปิดถ้อยแถลง 'สีหศักดิ์' กลางวงประชุมรัฐภาคีอนุสัญญา ห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22

กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ถ้อยแถลงโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22

ไทยตอกหน้าเขมร กลางวงประชุมเจนีวา ขอ 'เลขาUN' ตั้งผู้ตรวจสอบอิสระ พิสูจน์ทุ่นระเบิดชายแดน

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในวาระการพิจารณาคำขอตามข้อ 8 ของอนุสัญญาออตตาวา ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 ณ นครเจนีวา